คลังเรื่องเด่น
-
"เพราะกามนี่แหละ" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"เพราะกามนี่แหละ"
" .. "ผิดศีลกันได้ต่าง ๆ ก็เพราะกามนี่แหละ" ต้องสร้างบาปสร้างอกุศลกรรมกันต่าง ๆ ฆ่าฟันอะไรกันเป็นต้น "เบียดเบียนกันต่าง ๆ เพราะกามนี่แหละ" วุ่นวายกันไปก็เพราะกามนี่แหละ
"ก็เพราะใจนี่แหละ ที่เป็นตัวกรรมภพ" สร้างตัวเราขึ้นมา และตัวเรานี่เอง ก็ท่องเที่ยวไปในกาม "แล้วก็ใจนี่เองไม่อิ่มไม่พอในกาม" .. "
"๑๐๑ ญาณทรรศน์"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
คาถาภาวนาเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย
คาถาภาวนาเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ⚜️
เออ...เดี๋ยวจะเล่าเรื่องให้ฟังเอาไหม ฉันนอน ๆ อยู่ ตอนนั้น ๖ โมงเย็น ฉันยาเสร็จ ก็จะอาเจียน มันก็อ๊อกแอ๊ก ๆ พอเสร็จก็นอน นอนจับอานาปานุสสติ
ใช้บทภาวนาสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าท่านสอน
คาถาที่พระพุทธเจ้าให้บทสุดท้ายนะ
⚜️“สัมมาสัมพุทธัสสะ
อะระหัง สุคโต นะโมพุทธายะ”
ท่านให้มานานแล้วตั้งแต่ฝึกตอนหลังร่างกายป่วยท่านบอกให้ใช้บทนี้
️จากธัมมวิโมกข์ตุลาคม 2531 หน้า 19
⚜️พระราชพรหมยานเถระ⚜️
หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
️คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย⚜️
จิตหนึ่งประภัสสรสุดยอดคือพระนิพพาน -
แขวนพระลอดราวตากผ้า
"แขวนพระลอดราวตากผ้า"
ผู้ถาม :: มีอีกคนหนึ่งครับ บอกว่ามีราวผ้าตากอยู่ แต่มีความจำเป็นจะต้องลอดไปแต่ก็มีพระ มีลูกแก้ว มีอะไรเยอะแยะ จะต้องว่าคาถาอะไรจึงจะลอดได้ครับ.?
หลวงพ่อ :: ไม่ต้องท่อง ไม่ต้องว่า เพราะเราไม่ถือ ถ้าจำเป็นจะต้องไปนะ ตามธรรมดาที่ต่ำที่ไม่ควร เขาไม่อยู่แล้วถ้าจะไปเขาถือว่าเป็นการจำเป็น ไม่ต้องว่าอะไรผ้านุ่งมันสกปรกตรงไหนล่ะ..
ไอ้ตัวเรามันสกปรกกว่าผ้านุ่งอีก และแถมข้างในมีน้ำขี้ น้ำเยี่ยว น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง ทำไมท้องอยู่ได้ล่ะ ใช่ไหม เดี๋ยวก็เทศน์อย่าง พระครูโว เทศน์อีกหรอก
ผู้ถาม :: ท่านเทศน์ว่ายังไงครับ
หลวงพ่อ :: เคยไปเทศน์กับพระครูโวท่าน คือวันนั้นมีงานหล่อพระประธาน เทศน์กัน ๓ ธรรมาสน์ ก็เทศน์เรื่องการหล่อพระว่าอานิสงส์เป็นอย่างไร..ท่านก็อธิบายอานิสงส์ ไอ้เราก็นึกขึ้นมาได้ ถามว่า
“ถ้าบังเอิญสมมติว่าโยมคนหนึ่งแกไม่มีทองมาหล่อ ลูกสาวแกก็โตแล้ว แต่ก่อนก็ซื้อตะปิ้งไว้ให้ ตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้แล้ว ถ้าเอาตะปิ้ง { ที่ปกปิดของเด็กผู้หญิงที่เป็นทองสมัยก่อน} มาเพื่อหล่อพระ ถามว่าพระพุทธรูปองค์นั้น ถ้าพระไปกราบเจ้าของจะบาปไหม..?”
พระครูท่านแก้ว่ายังไง... -
อยากได้วัตถุมงคลที่มีพลังสูง
อยากได้วัตถุมงคลที่มีพลังสูง
ผู้ถาม :: หลวงพ่อคะอ่านประวัติหลวงพ่อปานแล้วมีความรู้สึกว่า ถ้าเรามีวัตถุมงคลที่มีพลังสูง เช่น ยันต์เกราะเพชร ก็ดีนะคะ ตอนที่ลาวปล่อยของมาแล้ว ของอื่นแตกหมด แต่ยันต์เกราะเพชรนี้อยู่ไม่เป็นไร ทำให้นึกอยากได้ของที่แจ๋วๆอย่างนั้นคะ
หลวงพ่อ :: จะเอาเพชรสีอะไรล่ะ สีน้ำมันก๊าด จะไปยากอะไร ยันต์เกราะเพชรบทเสกกับบทเขียนก็มี พระพุทธคุณ คือ อิติปิโส บทต้น แล้วทุกวันก็ต้องบูชาด้วย อิติปิโส ๑ จบ มีพระองค์ไหนก็เหมือนกัน หรือ มีพระคล้องคอ เวลาสวด อิติปิโส ก็นึกถึง บารมีของพระพุทธเจ้า ห้องที่สองนึกถึง บารมีพระธรรม ห้องที่สามนึกถึง บารมีพระอรหันต์ทั้งหลาย พวกบูชายันต์เกราะเพชรก็ต้องใช้บทนี้เป็นประจำ ถ้าไม่ใช้ประจำฉันก็ไม่แน่ใจว่าคุ้มครองได้นะ
ผู้ถาม :: ก็แสดงว่ายังมีวัตถุมงคลที่มีพลังสูงจริง
หลวงพ่อ :: มันอยู่ที่เราด้วย ทำมาให้ดีแล้ว เราดีเท่าของหรือเปล่า ถ้าเรามีความเข้มแข็งแล้วเราก็ดีเท่าของ อย่างเขาเอารถยนต์มาให้เรา เราใช้ไม่เป็น รถยนต์ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยใช่ไหม เขาให้มาแล้วเราก็ใช้ให้ถูกทางด้วย ก่อนที่จะใช้ต้องหาน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์... -
ผลการปฏิบัติต้องมุ่งตัดสังโยชน์
ผลการปฏิบัติต้องมุ่งตัดสังโยชน์
สมาธินี่ถ้าทำเฉยๆ ก็ไม่ไปไหนนะ มันก็อยู่แค่ฌาน ถึงฌานหรือเปล่าก็ไม่รู้ น่ากลัวจะไม่ถึงฌาน น่ากลัวตะเกียกตะกายอยู่ข้างฌาน มันขึ้นฌานไม่ไหว ไต่บันไดแกร๊กๆ แต่ความจริงถ้าเรื่องสมาธิจริงๆ นะ ถ้าหากได้จริงๆ ก็อยู่แค่ฌาน ๔ ฌาน ๔ แล้วก็ไม่ไปไหนละ ก็ทรงตัวบ้าง เดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง ไปข้างหน้า ๑ ก้าว ถอยหลัง ๕ ก้าว ทีนี้ผลการปฏิบัติจริงๆ เขาไม่ได้มุ่งสมาธิ "ต้องหวังตัดสังโยชน์" ถ้าจะบอกว่าวิปัสสนาญาณก็จะมากเกินไป
ความจริงถ้ามุ่งตัดสังโยชน์ "ก็ต้องดูอารมณ์ใจตัวตัด ไม่ใช่ดูสมาธิ" อันดับแรก ความโลภ อยากได้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นมีในเราหรือเปล่า เบาลงไปไหม ประการที่ ๒ ความโกรธ เบาไหม ประการที่ ๓ ความหลง เบาลงไหม สิ่งที่มีความสำคัญ
๑.ลืมความตายหรือเปล่า
๒.เคารพพระไตรสรณาคมน์จริงจังไหม
๓.มีศีล ๕ บริสุทธิ์ไหม
๔.หวังพระนิพพานจริงจังหรือเปล่า
เขาดูตรงนี้นะ มุ่งเอาสมาธิ กลุ้มใจตาย มันไม่มีการทรงตัว เวลาใดร่างกายดีไม่มีอารมณ์กลุ้ม สมาธิก็ทรงตัวใช่ไหม ร่างกายอ่อนเพลียหน่อย สมาธิก็ทรุดตัว เอาแค่สมาธิไปไม่รอด ..
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน... -
"ความดีความชั่วเกิดที่ใจ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"ความดีความชั่วเกิดที่ใจ"
" .. ต่างคนต่างแก้ในหัวใจตัวเอง "เพราะความชั่วและความดีเกิดและอยู่ที่ใจ" ไม่ได้อยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจของเราแต่ละคน ๆ ให้พยายามระมัดระวังความชั่วที่เกิดขึ้นภายในใจ ให้ปัดออก
เอาความดีสนับสนุนขึ้นมา เราจะเป็นคนดีเรื่อย ๆ มันคิดออกมาทางชั่ว เช่น "เราจะทำความดี ความชั่วมาเป็นอุปสรรคแล้ว คิดขึ้นมาภายในใจดวงเดียวกันนี้" แล้วก็สร้างความล้มเหลวให้แก่ตัวของเราเอง ไม่เกิดประโยชน์อะไร
"ความชั่วกับความดีเกิดอยู่ที่ใจ จำให้ดี" แล้วแสดงออกมาจากหัวใจเรา มาคัดค้านดีกับชั่วที่เกิดขึ้นจากหัวใจดวงเดียวกันนั้นแหละ "เราจึงให้เอาความดีนี้ปัดความชั่วเอาไว้ สร้างความดีขึ้นไปเรื่อย ๆ นะ" จำเอา .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
https://luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1761&CatID=2 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
ทิศของท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระองค์
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังธุดงคสถานกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโท ที่ตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อทำหน้าที่หลายประการด้วยกัน
ประการแรกก็คือ บวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยและปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับทางกองทุนฯ ซึ่งในพิธีบวงสรวง ก็โดนท่านท้าวธตรฐทักท้วงว่า ทางด้านเจ้าภาพ คืออาจารย์ต้น (ธนสาร เซ้งรักษา) ตั้งรูปของท่านผิดทิศ เมื่อท่านอาจารย์ต้นได้รับคำบอกเล่าจากกระผม/อาตมภาพก็รีบมาดู แล้วก็ยอมรับว่าผิดทิศจริง ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ารูปที่ท่านอาจารย์ต้นเอามาตั้งในพิธีนั้น เป็นรูปวาดของช่างจากกรมศิลปากร
ถ้าหากว่าตามความเป็นจริง ขอย้ำว่าตามความเป็นจริง ท้าวมหาราชทั้ง ๔ พระองค์นั้น สามารถที่จะแยกแยะได้ง่ายที่สุดจากอาวุธที่ใช้ ก็คือท้าวเวสสุวรรณใช้พลองยาว ท้าวธตรฐใช้พระขรรค์ ท้าววิรุฬหกใช้กระบองสั้น และท้าววิรูปักข์ใช้จักรเป็นอาวุธ
แต่ว่าทางด้านกรมศิลป์นั้นรับการสืบทอดองค์ความรู้มาจากครูบาอาจารย์หลายยุคหลายสมัย สำหรับท้าวเวสสุวรรณนั้นไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นหน้ายักษ์หรือว่าหน้าเทวดา... -
"ธรรมเครื่องประดับโลก" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"ธรรมเครื่องประดับโลก"
" .. คำว่า "ความดีคนดี ธรรมเครื่องประดับโลกให้มีความสงบร่มเย็น" ปราชญ์ผู้ทรงธรรมและพาดำเนินในทางที่ดีมีอยู่ประจำโลก ไม่เคยขาดสูญและไม่เคยล้าสมัย สิ่งเหล่านี้และท่านเหล่านี้แล พยุงโลกให้พอดู ด้พออยู่ กันได้เรื่อยมา
"มิใช่สิ่งชั่วคนชั่ว เป็นผู้พยุงโลกให้ร่มเย็น" นอกจากทำลายโดยถ่ายเดียว หลาน ๆ อย่าพากันสงสัยและตื่นตามโลกตัณหาตามืดบอด สุกเอาเผากิน จะล่มจมไปกับเขา
จะว่าปู่ไม่บอกไม่เตือน "สงสารกลัวไฟเหล่านี้จะลุกลามไปมาก จะไม่มีคนดีพยุงบ้านเมือง จึงได้เตือนได้สอนไว้" พอเป็นเบรกห้ามล้อบ้าง จะไม่พากันเหยียบแต่คันเร่งเพื่อลงคลองถ่ายเดียว .."
"ตอบปัญหาธรรม" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7453 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
แบรด พิตต์ เข้าร่วมพิธีสวดมนต์ตามแบบศาสนพุทธ ขอพรให้หนังที่เขาแสดงนำ ประสบความสำเร็จ
แบรด พิตต์ นักแสดงชาวอเมริกัน เข้าร่วมพิธีสวดมนต์ตามแบบศาสนพุทธ เพื่อขอพรให้ภาพยนต์เรื่อง "ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า" หรือ Bullet Train ที่เขาแสดงนำ ประสบความสำเร็จ ที่วัดโกยาซัง โตเกียว เบ็ตสุอิน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันจันทร์
นักแสดงชื่อดังผู้นี้ระบุว่า เขารู้สึก "ตื้นตันมาก" หลังเข้าร่วมพิธีดังกล่าว
ภาพยนตร์เรื่อง "ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า" นี้ สร้างขึ้นจากนิยานเรื่อง "Maria Beetle" ของโคตะโระ อิสะกะ นักเขียนชาวญี่ปุ่น โดยพิตต์รับบทเป็น "เลดี้บัก" นักฆ่ารับจ้างที่รับงานสังหารในขบวนรถไฟความเร็วสูงขณะเดินทางไปทั่วญี่ปุ่น
พิตต์ระบุว่า เขารู้สึกอยากจัดพิธีเพื่ออวยพรตัวละครในภาพยนตร์ โดยมีพระสงฆ์เข้าร่วมพิธีดังกล่าวเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
นักแสดงฮอลลีวูดกล่าวว่า ทั้งพิธี วัด และพระที่ประกอบพิธี ต่างงดงามจนเขาเกือบหลั่งน้ำตา และเขารู้สึกขอบคุณประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมในครั้งนี้
=AZU4ajexvhZfzyrPrDSzQgQaiGs_6ZW7_pC4uC-TmCPYpZmbZcTLNfGmUNXKeuRNQbi_E6dk9XwAqJqryknYDsPGm_4Rl_QotAlB8LUkbfE2_qzaqGyjiOH0P2bptYXFEJ8&__tn__=-UC*F']VOA Thai -
"เคารพนับถือแท้" (หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี)
.
"เคารพนับถือแท้"
" .. ธรรมดาผู้ที่เคารพนับถือสิ่งใดก็ดี "เมื่อเคารพนับถืออย่างเต็มที่แล้ว จะยืน เดิน นั่ง นอน อิริยาบถใดๆ จะต้องระลึกคิดถึงอยู่เป็นนิจ" นั่นเรียกว่า "เคารพนับถือแท้ เป็นบุญเป็นกุศลนำความสุขมาให้โดยถ่ายเดียว"
ส่วนการระลึกถึงของที่เป็นพิษนั้นก็ระลึกถึงเหมือนกัน แต่ระลึกถึงไม่เป็นระเบียบ "คือไม่ทราบว่าระลึกถึงกี่ครั้งกี่หน และด้วยความเศร้าหมอง จิตใจไม่ผ่องใส อารมณ์ร้อน"
เป็นต้นว่า "ระลึกถึงความโกรธ ความไม่พอใจ ความอิจฉาริษยา อาฆาตพยาบาทจองเวร" จองกรรมกัน เหล่านี้เป็นต้น "ระลึกถึงของเหล่านี้จิตใจเศร้าหมอง เป็นของไม่ดี จงงดเว้นเสีย" .. "
"เทสรังสีอนุสรณ์ เล่ม ๒"
พระราชนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาวิศิษฏ์
(หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี) -
ถอดจิตไปดูอาการผมร่วง
ถ้าใครตามอ่านเรื่องของผมสมัยหนุ่มๆ ตอนที่ฝึกเจริญสติมาก่อนนะครับ
ผมจะเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่หัดเจริญสตินั้น บางครั้งผมจะมีอาการเหมือนมีตัวเองอีกคนหนึ่งลอยอยู่ทางด้านหลังของตัวเองอยู่
อาการประมาณว่า เวลาเดินอยู่ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดออกมานอกร่างเนื้อ มาอยู่ทางด้านหลังของตัวเองในมุมสูง
เห็นตัวเองกำลังเดินอยู่ที่พื้น ตัวที่เดินก็เดินอยู่ ตัวที่ลอยอยู่ก็มองตัวเองเดินไปเรื่อยๆ
เวลาล้างจาน คือภรรยาไม่ล้างจานนะครับ มาบอกเราว่าตัวเค้าทำกับข้าวแล้ว หน้าที่ล้างจานต้องเป็นของเรานะ
เราก็จำใจนะครับ ล้างจานไป ทำใจไป เจริญสติไปด้วย อยู่ดีๆก็จะเหมือนตัวเองหลุดออกมานอกร่างเนื้อ ออกมาลอยอยู่ด้านหลัง
มองลงมาเห็นตัวเองกำลังล้างจานอยู่ ตัวที่ล้างก็ล้างไป ตัวที่ดูอยู่ก็ดูไป เราที่เจริญสติอยู่ก็รับรู้ไป
ไม่รู้ใครมีอาการแบบนี้บ้างนะครับ ผมก็ไม่รู้มันคืออะไร อาการคล้ายมโนครึ่งกำลัง คือรู้สึกตัวทั้งสองที่ ทั้งตัวที่หลุดออกไปมอง
ทั้งตัวที่ถูกมองอยู่
ทีนี้มาวันนึง กำลังเล่นเกมแก้เบื่ออยู่ ไม่ได้เจริญสตินะครับ อยู่ดีๆก็มีอาการแบบข้างต้นขึ้นมา คือเหมือนมีกายหนึ่งกาย... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
"การหัดตาย มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"การหัดตาย มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ"
" .. "การหัดตาย" ด้วยเริ่มตั้งแต่ความกลัวตายอย่างทารุณโหดร้ายเช่นนี้ มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ "จะสามารถอบรมบ่มนิสัยที่แม้เหี้ยมโหดอำมหิต ปราศจากเมตตากรุณาต่อชีวิตร่างกายผู้อื่น สัตว์อื่นให้เปลี่ยนแปลงได้" ความคิดที่จะประหัตประหารเขา เพื่อผลได้ของตนก็จะเกิดได้ยาก หรือจะเกิดไม่ได้เลย
"การพยายามหัดตายให้รู้สึกหวาดกลัวการถูกประหัตประหารผลาญชีวิตตนนั้น เมื่อทำไว้เสมอ" ก็จะเกิดผลเป็นความเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่จะต้องหวั่นกลัว เช่นเดียวกัน "ความเมตตาปรานีชีวิตผู้อื่น สัตว์อื่น ก็จะเกิดได้แม้จะไม่เคยเกิดมาก่อน" ซึ่งก็เป็นการเมตตาปรานีชีวิตตนเองพร้อมกันไปด้วยอย่างแน่นอน .. "
"การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
.
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11321 -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
มัชฌิมาปฏิปทาไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ถาม : มัชฌิมาปฏิปทา ?
ตอบ : มัชฌิมาปฏิปทาไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน เป็นไปตามปัญญา ตามกำลังบารมีของแต่ละคนที่สั่งสมมา ในเมื่อมัชฌิมาปฏิปทาไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เราจึงต้องพยายามปรับให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด
ถาม : มัชฌิมาปฏิปทาของแต่ละคนจะรู้ได้อย่างไร ?
ตอบ : ต้องหามุมของตัวเอง ไม่มีใครสามารถบอกได้ เพราะแต่ละคนไม่เท่ากัน แรก ๆ ทำให้เข้มข้นไว้ก่อน พอถึงเวลาเคยชินแล้วเราผ่อนจะพอดี ไม่ใช่ว่าแรก ๆ ทำตามสบาย แล้วพอผ่อนเมื่อไรก็ยาน ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว
ถ้าเราเข้มแข็งกว่า ก็จะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วกว่า เหมือนคนที่แข็งแรงเดินทาง ย่อมได้ระยะทางที่มากกว่าและไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วกว่า
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เจโตปริยญาณนั้นไม่ได้มีเอาไว้ดูใจคนอื่น หากแต่มีเอาไว้เพื่อดูใจของเราเอง
เจโตปริยญาณนั้นไม่ได้มีเอาไว้ดูใจคนอื่น หากแต่มีเอาไว้เพื่อดูใจของเราเองว่า ในขณะนี้ใจของเรามีความดีอยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ายังไม่มีก็ให้รีบสร้างความดีต่าง ๆ ขึ้นมา ถ้าหากว่าพอมีอยู่บ้างแล้วก็เร่งพัฒนาให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป หรือดูว่ากำลังใจของเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ? ถ้าหากว่ามีอยู่ ก็ให้เร่งขับไล่ออกไป แล้วระมัดระวังไว้ไม่ให้ความชั่วทั้งหลายเหล่านั้นกลับเข้ามา
ตรงจุดนี้ทำให้กระผม/อาตมภาพ ซึ่งสมัยก่อนร้อนวิชาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อโดนพระองค์ที่ ๑๐ ท่าน "ทุบ" เข้า จึงได้สติ แล้วท้ายที่สุดก็มาโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตอกซ้ำเข้าไปอีกว่า บุคคลที่ได้วิชชา ๒ อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ ยังห่างจากขุมนรกแค่ช่วงนิ้วมือเดียว นอกจากบุคคลที่สามารถเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้น ถึงจะสามารถปิดอบายภูมิได้อย่างสิ้นเชิง
จึงทำให้กระผม/อาตมภาพได้สติ ละเว้นในเรื่องของกีฬาสมาธิที่เล่นสนุกสนานอยู่หลายปี มาเร่งรัดในเรื่องของมรรคของผล จนกระทั่งเกิดอารมณ์ใจเคารพต่อพระรัตนตรัยขึ้นมา อย่างชนิดที่เกิดความคิดขึ้นในใจว่า ต่อให้เราต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในกายสังขารนี้ไปจนอายุ ๑๒๐ ปี... -
"ปัญญามาก่อนศีลสมาธิ" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"ปัญญามาก่อนศีลสมาธิ"
" .. "การรักษาศีลปัญญาต้องมาก่อน" แต่เราพูดว่ารักษาศีลก่อนตั้งศีลก่อนศีลจะสมบูรณ์ อย่างไรนั้นจะต้องมีปัญญา "ต้องค้นคิดกายของเรา วาจาของเราพิจารณาหาเหตุผล นี่ตัวปัญญาทั้งนั้น" ก่อนที่จะตั้งศีลขึ้นได้ต้องอาศัยปัญญา .. "
"กุญแจภาวนา" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
http://anuchah.com/key-to-mind-power/ -
เวลานั่งสมาธิต้องคิดอะไร ? โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
เวลานั่งสมาธิต้องคิดอะไร ?
********
Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/duenjitpage/ Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/duenjitfound... Youtube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/duenjit Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/duen_jit/ Soundcloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/duenjit LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://line.me/ti/g2/AZLrk-4nSh-aKn9... LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website เดินจิต : https://www.duenjit.com/ #นั่งสมาธิ #คิดอะไร #วิธีนั่งสมาธิ #พระมหาวรพรตกิตติวโร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
"เกิดเป็นมนุษย์ได้อีก" (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
"เกิดเป็นมนุษย์ได้อีก"
" .. บุคคลที่จะเกิดเป็นมนุษย์อีกติดกันในชาติต่อไป "เป็นผู้ถึงไตรสรณคมน์เท่านั้นก็พอแล้ว" เพราะโหรเอกพระบรมศาสดาองค์ท่านทายว่า "บุคคลผู้ถึงพุทธ ธรรม สงฆ์ เป็นสรณะแล้วมีคติเป็นสอง ไม่มนุษย์ก็เทวดา" มันเป็นของไม่ยากของผู้ศรัทธา
แต่ก็ตรงกันข้ามเป็นของยากผู้ที่ไม่ศรัทธา "ความดีคนดีทำได้ง่าย" ความชั่วคนดีทำได้ยาก "ความชั่วคนชั่วทำได้ง่าย" ความดีคนชั่วทำได้ยาก สิ่งเหล่านี้เป็นของจริงมาแต่ดึกดำบรรพ์ .."
"ตอบปัญหาธรรมและการปฏิบัติธรรม"
(หลวงปู่หล้า เขมปัตโต) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นสากล เป็นอกาลิโก
ถาม : แต่ก่อนผมสงสัยครับว่าพระสารีบุตร ท่านฟังธรรมจากพระอัสชิเถระแล้วบรรลุเป็นพระโสดาบัน โดยที่ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเลยได้อย่างไร ?
ธรรมที่พระอัสชิเถระ ท่านสอนว่า "ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ พระตถาคตกล่าวเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้" หลังจากฟังจบแล้ว พระสารีบุตรเป็นบรรลุเป็นพระโสดาบันทันที แล้วท่านก็เอาไปบอกพระโมคคัลลานะ ท่านก็บรรลุเป็นพระโสดาบันทันที
ผมสงสัยมาหลายเดือนมาก ผมเลยพิจารณาเลยสรุปได้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน และทุกอย่างในโลกนี้ ก็มีสภาพเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลาย และในที่สุดก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เลยไปตรงกับคำสั่งสอนของพระที่ว่า "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" เลยอยากทราบว่า ท่านพิจารณาประมาณนี้เปล่าครับเลยได้เป็นพระโสดาบัน ?
ตอบ : ไม่ได้ถามท่านเสียด้วย ต้องบอกว่าคนถามฟุ้งซ่านได้ดีมาก ความจริงต้องแยกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรกก็คือไม่ได้พบพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุมรรคผลได้อย่างไร ? ไม่มีกติกาข้อไหนที่ต้องพบพระพุทธเจ้าแล้วถึงบรรลุมรรคผล เพราะว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสากล เป็นอกาลิโก ผู้ใดที่เข้าใจ มั่นใจว่าตนเองทำได้... -
"เรียนนอก เรียนใน" (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)
.
"เรียนนอก เรียนใน"
" .. พระพุทธองค์ท่านจึง "ให้กำหนดความตายนี้ให้ได้ทุกลมหายใจ" คือว่ามันใกล้เข้าไป หมดไปสิ้นไป ถ้าว่าถึงคนทั้งโลกแล้ว เดี๋ยวนี้ก็มีคนตาย ตายนับไม่ได้ก็มี ตายคนเดียวก็มี ตาย ๒ คน ๓ คนในขณะเดียวกัน หญิงก็ตายได้ ชายก็ตายได้
"ไม่ใช่ตายแต่คนเฒ่าคนแก่" เด็ก ๆ ยังไม่รู้อะไร ก็ตายได้ "นี่แหละมรณกรรมฐาน ผู้ภาวนานั้นไม่ต้องไปรู้อื่น" ไม่ต้องไปเรียนนอก ให้เรียนใน "เรียนใน คือเรียนในกายวาจาจิตของตัวเอง" ดูพิจารณาอะไรมันตาย อะไรมันยัง อะไรจะตายก่อน อะไรมันตายนานแล้ว
"กำหนดให้รู้ดูให้มันเห็นจิตใจ" กิเลสมันจึงจะอยู่ยั้ง ถ้าไม่อย่างนั้น มันก็พาให้ดิ้นรน วุ่นวาย กระสับกระส่าย ภาวนาไม่ลง ภาวนาไม่สงบ .. "
"มรณกรรมฐาน"
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ -
สติ (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
"สตินี่ ทำให้มันมีกำลังดีแล้ว จิตมันจึงจะล่วงเพราะสติคุ้มครองจิต ตัวสติ ก็คือ จิตนั่นแหละแต่ว่าลุ่มลึกกว่า สตินั่นอบรมจิตครั้นอบรมจนขึ้น จิตรู้เท่าตามความเป็นจริงแล้ว มันจึงหายความหลงพบความสว่าง ความหลงนั้นก็คือไม่มีสติ ครั้นมีสติคุ้มครอง หัดไปจนแน่วแน่แล้ว ให้มันแม่นยำ ให้มันสำเหนียกแล้ว มันจะรู้แจ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
สติแก่กล้า จิตย่อมทนไม่ได้ เมื่อทนไม่ได้ก็สงบลง ครั้นสงบลงแล้วมันก็รู้ เดี๋ยวนี้มันไม่มีปัญญา มันก็ส่ายไปมาเพราะมันไปหลายทาง จิตไปหลายทางเพราะเป็นอาการของมัน เมื่อผู้วางภาระ คือ ว่าง ไม่ยึดถือว่าขันธ์ห้านี้เป็นตัวเป็นตนแล้ว ไม่ยึดถือแล้วปลง เป็นผู้วางภาระ ก็มีความสุข จะยืน เดิน นั่ง ก็มีความสุข
ไม่ยึดถือเพราะรู้ตามความเป็นจริงของมันแล้ว ไม่ถือเอา ไม่ยึดเอา ได้ชื่อว่าเป็นผู้ขุดตัณหาขึ้นมาได้ทั้งราก เป็นผู้เที่ยงแล้ว เที่ยงว่าจะเข้าสู่ความสุขตามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้เที่ยงแล้ว เมื่อจิตมันรวม มันก็รู้ตามความเป็นจริง มันจะวางขันธ์นี้
เมื่อมันรวมนั้นแหละ ถ้าจิตรวมแล้วมันก็วาง วางแล้วก็มีแต่ความว่าง ว่างแล้วค้นหาตัวก็ไม่มี เมื่อค้นหาตัวไม่มีแล้วก็อันนั้นแหละ... -
"ผู้ไม่เคยทำบุญไว้แต่ชาติก่อน" (หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร)
.
"ผู้ไม่เคยทำบุญไว้แต่ชาติก่อน"
" .. "ผู้ที่ไม่เคยทำบุญไว้แต่ชาติก่อน ความสมหวังแห่งผู้นั้นไม่มี" ย่อมคลาดแคล้วแห่งสมบัติหลายประการ "ทำนาข้าวตาย ค้าขายขาดทุน" หาคนค้ำจุนไม่ค่อยได้
"คนนั้นป่วยไข้ไปหาหมอก็ขัดข้อง รักษาไม่ได้" ให้ตกอับทุกหน้าที่ ตกลงคนนั้นต้องกอดเข่าเจ่าจุก "เพราะไม่ได้ทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน" ไม่ชวนให้คนอื่นเมตตา .. "
"ธรรมคติ"
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๕
หน้า 73 ของ 420