คลังเรื่องเด่น
-
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖ -
เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วันทามิ
ถาม : ถ้าเรารักษาศีลครบโดยไม่รู้ตัวว่าศีลเราครบหรือเปล่า แล้วอานิสงส์จะได้ครบไหม ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจรักษาก็ได้ครบ แต่ถ้าเจตนาไม่มีในการงดเว้นนั้น บังเอิญว่าครบเองอย่างนั้นถือว่า เจตนา คือตัวกระทำไม่มี พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ” ต้องเจตนาถึงจะเป็นบุญ ถ้าตั้งเจตนาไว้ว่าจะรักษาแล้วหลงลืม แต่ว่าทำได้ครบก็ถือว่าเต็มอยู่
ถาม : ผมนึกถึงตอนนอนครับ หลับทุกคืนนี่ไม่ผิดศีลแน่เลย ?
ตอบ : ตั้งใจไว้ก่อนสิว่า ผมจะรักษาศีลตอนนอน เดี๋ยวได้ฝันว่าได้ฆ่ากันทั้งขบวน ..(หัวเราะ).. โดนแกล้งจนได้ คิดจะหากินวิธีง่ายใช่ไหม ?
ถาม : นึก ๆ แล้ว เออ..ถ้าหากไม่ได้ตั้งใจจะได้อานิสงส์หรือเปล่า จริง ๆ อานิสงส์เยอะมาก ?
ตอบ : ต้องตั้งใจเจตนา “เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ”
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๖ -
ประโยชน์ของการปฏิบัติธรรม
การปฏิบัติธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านหวังในประโยชน์ ๓ สถาน คือ ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ประโยชน์ที่เห็นทันตา ก็เห็นกันตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เห็นกันชาตินี้ ว่าเราเอาไปใช้ประโยชน์จริงได้หรือไม่ ?
สัมปรายิกัตถประโยชน์ หวังประโยชน์ในชาติต่อไป การให้ทาน เกิดมาใหม่ก็ร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ การรักษาศีล เกิดมาเป็นผู้มีรูปสวย มีจิตใจที่ดีงาม การเจริญภาวนา เกิดใหม่ก็มีปัญญามาก เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเราทำไว้ ชาติต่อไปก็จะส่งผลให้เอง
แต่ว่าสิ่งที่พระองค์ท่านหวังผลก็คือปรมัตถประโยชน์ ประโยชน์สูงสุด คือการหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน การที่พวกเราทั้งหลายเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสาร ระยะเวลายาวนานจนหาต้นหาปลายไม่เจอ พระพุทธเจ้าเปรียบว่า น้ำตาในแต่ละชาติที่เราร้องไห้เพราะพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ถ้าเอามารวมกันแล้วมากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นไหน ๆ..!
แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างจริง ๆ จัง ๆ ต่อให้ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ในชาตินี้ หนทางในการเวียนว่ายตายเกิดของท่านทั้งหลายก็ยังคงสั้นลง... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๖ -
ทำตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ให้ดีที่สุด
ทำตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ให้ดีที่สุด
จะว่าไปแล้ว หลักการปฏิบัติธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นง่ายมากก็คือ ทำตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ให้ดีที่สุดเท่านั้น เพราะว่าอดีตผ่านมาแล้ว ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ไม่สามารถที่จะทำอะไรล่วงหน้าได้ มีแต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อนาคตของเราถึงจะดีตามไปด้วย
แต่คราวนี้ดีที่สุดของแต่ละคนก็ยังไม่เท่ากันอีก เพราะว่ามัชฌิมาปฏิปทา ความพอเหมาะพอดีแบบทางสายกลาง ไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ หากแต่ขึ้นอยู่กับกำลังกาย กำลังใจ ตลอดจนกระทั่งบารมีที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
หลายท่านก็คงเคยพบเห็นมาว่า มีนักปฏิบัติธรรมบางท่านที่นั่งสมาธิได้ข้ามวันข้ามคืน ขณะที่เราเองบางที ๓ นาที ๕ นาทีก็ฟุ้งซ่านแทบตายแล้ว ถ้าให้ไปนั่งข้ามวันข้ามคืนแบบเขา เราก็ไม่ไหว แต่สำหรับบุคคลนั้นแล้วกลับเป็นเรื่องที่พอดีของท่าน
มัชฌิมาปฏิปทาจึงไม่มีมาตรฐาน ๕๐ เปอร์เซ็นต์สำหรับบุคคลทั่วไป ขึ้นอยู่กับกำลังกาย กำลังใจ กำลังบุญบารมีที่สั่งสมมา โดยเฉพาะการเข้าถึงธรรม ยิ่งเข้าถึงธรรมได้สูงเท่าไร ก็พร้อมที่จะเอาชีวิตแลกกับธรรมะนั้นได้เสมอ... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๖ -
พระอาจารย์เชอรี่ อภิเจโต
หลวงปู่เชอรี่ อภิเจโต
พระอาจารย์เชอรี่ อภิเจโต เป็นพระภิกษุชาวต่างชาติ รุ่นเดี่ยวกับท่านพระอาจารย์ปัญญา ที่ดำรงขันธ์อยู่ องค์ท่านเข้ามา
ศึกษาธรรมะกับหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน และยัตติเป็นธรรมยุติพร้อมท่านพระอาจารย์ปัญญาเมื่อปี 2507 ได้ ฉายา
ว่า "อภิเจโต" ผู้มีเจโตปริยญาณใหญ่
ท่านพระอาจารย์เป็นผู้มักน้อย สันโดษ ถือข้อวัตร ปฏิปทา ตามหลวงตา มีแต่ผ้าสามผืน อัฐบริขาล ใบมีดโกน ในกุฏิท่าน
พระอาจารย์ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก วัตถุสิ่งของ และปัจจัย 4 พระอาจารย์มีนิสัยชอบอดอาหาร และนั่งภาวนาเป็นเวลา
นานๆ ไม่ชอบพบปะผู้คน พูดน้อย ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์มาก
หลวงตาพระมหาบัวเคยกล่าวถึงท่านพระอาจารย์ว่า"ท่านเชอรี่ ท่านไม่ยึดติดอะไร ปล่อยวางหมดแล้ว" มาระยะหลัง หลวงตา
ช่วยชาติ พระอาจารย์จึงเริ่มสงเคาระห์โลก เมตตาสอนธรรมะแก่ลูกศิษย์และนักภาวนา โดยเฉพาะเรื่องเจโต การรู้วาระจิต ทุกคน
ต่างพูดเป็นเสียงเดี่ยวกันว่า "ท่านรู้วาระจิตจริง ๆ"
มีบุคคลท่านหนึ่งไปกับเพื่อนในงานบุญประทายข้าวเปลือก เพื่อนขอยืมเงินทำบุญ 60 บาท จริงแล้วเพื่อน ๆ มีเงิน 500 แต่ครุ่น
คิดว่าจะทำบุญดีหรือไม่ บุคคลท่านนี้คิดในใจว่า... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖ -
การนึกถึงพระด้วยใจ / ท่านจิตโต
การนึกถึงพระด้วยใจ -
กำลังใจในการทำบุญ
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ อากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างแรง จากหนาวก็กลายเป็นฝน ผ้าห่มที่พวกเรารับมาตอนบิณฑบาต ใครจะเอาไปใช้ก็ไปขอที่คลังได้ เพราะว่าสีน้ำตาลเหมาะกับพระมากกว่า บางคนใช้ผ้าห่มสีชมพูหรือสีแดง กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วจะขาดใจตาย..!
คราวนี้ถ้าพวกเราสังเกตจะเห็นว่า ร้านสังฆภัณฑ์ที่ถวายผ้าห่มมาเป็นจำนวนมากนั้นเป็นคนต่างด้าว จะเห็นว่าระยะหลังนี้บรรดาคนต่างด้าว ซึ่งปกติเคยเป็นลูกจ้างบ้าง เอากระจาดเทินหัวเดินขายของบ้าง เป็นเจ้าของร้านไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะรายที่เซ้งร้านลัดดาวัลย์ คุณรู้ไหมว่าร้านลัดดาวัลย์ติดต่อกระผม/อาตมภาพมาก่อน ว่าให้หลวงพ่อหาลูกศิษย์มาซื้อกิจการพร้อมกับลูกค้าทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่คนเขาต้องการในกิจการนี้คือฐานลูกค้า เขาขายในราคา ๒๐ ล้านบาท ปรากฏว่าคนซื้อไปที่ใส่บาตรอยู่ทุกวัน พวกคุณก็เห็นว่าเป็นต่างด้าว..!
พวกเราจะเห็นอยู่สองประการ ประการแรกก็คือคนต่างด้าวส่วนใหญ่แล้วเห็นว่าการอยู่บ้านเรานี่เป็นโอกาสทอง ค้าขาย เก็บเงินเก็บทองเอาไว้ มีโอกาสก็ซื้อกิจการ ถ้าพวกท่านช่างสังเกตหน่อยจะเห็นว่า ร้านขายโทรศัพท์มือถือเกือบ ๑๐ ร้านในตัวตลาดทองผาภูมิ... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๖ -
การบูชาและอนุโมทนาบุญของพระอรหันต์ที่จบกิจแล้วย่อมส่งผลต่อตัวเราด้วย
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ผลบุญใดก็ตามที่เป็นของพระอรหันต์ท่าน โดยเฉพาะพระอรหันต์ที่เป็นเอตทัคคะ คือมีความเป็นเลิศพิเศษในทางใดทางหนึ่ง ถ้าเราบูชาท่าน ผลบุญที่ท่านไม่ต้องใช้แล้วเพราะท่านเข้านิพพานแล้ว ผลบุญนั้นจะสำเร็จแก่เราด้วย
ดังนั้นเขาถึงบอกว่า ผู้ที่บูชาพระสีวลีส่วนใหญ่จะมีลาภมาก คือท่านไม่จำเป็นต้องใช้ลาภนั้นเพราะเข้านิพพานไปแล้ว กุศลที่ท่านทำจึงตกถึงผู้ที่บูชาท่านด้วย
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
กราบน้อมส่งหลวงปู่สู่พระนิพพาน พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม)
=AZXAq_1w5dqgDXloFnTZIgcBJVjEDfaotwxAQQNZRJ1a5zvZNIYIvKrVOKkTqDOPyA1kNl1d1AxwpPCiwAIpjX0HpF2oDi0kuibaffFdTLXARQXFCnM_P7tT4BhqLaF1g5vjLxwbmuQQ61hETzvo0HcivqR6IuUibkpdWsEo40gex9URgGWxiXd0KnCP3k3PYvs&__tn__=*NK-R']#ขอกราบน้อมส่งหลวงปู่สู่พระนิพพาน
พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม)
ละสังขารเวลา 02.45 น.
สิริอายุ 95 ปี 76 พรรษา
=AZXAq_1w5dqgDXloFnTZIgcBJVjEDfaotwxAQQNZRJ1a5zvZNIYIvKrVOKkTqDOPyA1kNl1d1AxwpPCiwAIpjX0HpF2oDi0kuibaffFdTLXARQXFCnM_P7tT4BhqLaF1g5vjLxwbmuQQ61hETzvo0HcivqR6IuUibkpdWsEo40gex9URgGWxiXd0KnCP3k3PYvs&__tn__=*NK-R']#น้อมกราบขอขมาพ่อแม่ครูอาจารย์
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง,
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง,
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง,
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
ศิษยานุศิษย์ ขอกราบขอขมาหลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม ด้วยกาย... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๖ -
อารมณ์ละสุดท้าย สังโยชน์10 บารมี10 / พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
อารมณ์ละสุดท้าย สังโยชน์10 บารมี10 / พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง) -
การขอขมาพระรัตนตรัย
การขอขมาพระรัตนตรัย
ถาม : การขอขมาพระรัตนตรัย.... ?
ตอบ : เมื่อเราทำความดีไปถึงระดับหนึ่ง ไม่ต้องมากหรอก แค่อุปจารสมาธิเท่านั้น ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ มารเขารู้ว่าเราจะพ้นมือของเขาแล้ว เขาก็พยายามที่จะหลอกล่อเราทุกวิถีทาง ให้เราหลงผิดเป็นชอบ โดยมีการปรามาสพระรัตนตรัยเป็นปกติ
ถ้าหากว่าใครเป็นดังนั้น ให้ตั้งใจขอขมาพระรัตนตรัย เพราะการปรามาสพระรัตนตรัย แปลว่าเราไม่เคารพจริง ถ้าเราไม่เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง เราจะเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันไม่ได้
ให้ตั้งใจไว้ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เราเคยล่วงเกินต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไปแล้ว ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ดี จะโดยต่อหน้าหรือลับหลัง เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้าขอขมากรรมนั้นต่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอได้โปรดเมตตาอดโทษแก่ลูกตั้งแต่บัดนี้ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
ตั้งใจอย่างนี้แม้ว่าสิ่งนั้นเราไม่ได้เจตนาทำ จะเป็นการดลใจของกิเลสมาร หรือตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรมใด ๆ ชักนำก็ตาม ถ้าเราเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เรื่องเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่ามีการชักนำจากกิเลสมาร ตัณหา อุปาทาน หรืออกุศลกรรม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๖ -
การอปโลกน์สังฆทาน
การอปโลกน์สังฆทาน นั่นก็คือเป็นการประกาศบอกให้พระทุกรูปรู้ไว้ว่า สิ่งของที่ญาติโยมถวายมาในครั้งนี้ ทุกท่านมีสิทธิ์มีส่วนเท่า ๆ กัน ถ้าหากว่าเหลือแล้วก็มอบให้แก่ญาติโยม ตลอดจนกระทั่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย จะได้นำไปบริโภคใช้สอยโดยไม่มีโทษไม่มีภัย
เรื่องพวกนี้จำเป็นที่จะต้องทำ ไม่อย่างนั้นหลายท่านเข้าวัดมา อาจจะสร้างกรรมมากกว่าสร้างบุญ ด้วยความที่ไม่รู้ เห็นอะไรอยากได้ก็หยิบ เห็นดอกไม้สวยก็เด็ด เห็นผลไม้ใกล้มือก็เด็ด กลายเป็นติดหนี้สงฆ์โดยไม่รู้ตัว แล้วหนี้สงฆ์นั้นโทษหนักมาก เพราะว่าสิ่งของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ คือของที่มีไว้เพื่อค้ำจุนพระพุทธศาสนา เท่ากับว่าเราไปทำลายพระพุทธศาสนา ถึงได้มีโทษหนักมาก
โบราณมีจิตใจที่ละเอียดอ่อนมาก สมัยที่อาตมภาพยังเด็กอยู่ เวลาพ่อแม่หรือพี่สาวไปทำบุญที่วัด จะให้หยิบดินก้อนหนึ่งในไร่ใส่หาบไปด้วย พอถึงเวลาก็ไปโยนไว้ในวัด ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น ? ผู้ใหญ่เขาบอกว่า การที่เราเดินเข้าไปในวัด บางทีเศษดินเศษทรายติดเท้าออกมา แม้ไม่ได้ตั้งใจ ก็มีโทษว่าเอาของสงฆ์มา ดังนั้น จึงควรที่จะชำระหนี้สงฆ์ ใช้คืนด้วยการเอาดินไปคืนที่วัด... -
ฝึกทิพจักขุญาณ (ฉบับหลวงตา) & อารมณ์ตัวดึงคลื่นพลังงาน
ฝึกทิพจักขุญาณ (ฉบับหลวงตา)⚡อารมณ์ตัวดึงคลื่นพลังงาน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๖ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๖ -
ปัญหาเกี่ยวกับพุทโธ
=AZVrgnBLp9vRfSZRLETIWi1I1NoAJZYUXrvFUl12S-WRphkkBgm6CIXx_bkeRsJAX3aSqB4a7Z-FKuyIRYLB8mJu9wSefUoEaG5_LTpyHINpLeMiObngKKNXifetimJOA2YHEceTdqnFgb7vn_RltBCBfccPuAmhQSGh-j7Rs9YOCV4qOTjBZpZ2Jdyvjlt7Rco&__tn__=*NK*F']#ปัญหาเกี่ยวกับพุทโธ
โยม : หลวงปู่ครับ ผมได้ยินมาว่าพุทโธพาเราไปได้ แค่พรหม ไม่สามารถไปนิพพานได้นี่ ถูกต้องไหมครับ
หลวงปู่ : คุณดูนั้น (ท่านชี้มือไปที่ต้นสะเดา) คุณว่าต้นมะขามที่ขึ้นอยู่ ข้างต้นสะเดา มันจะกลายเป็นต้นสะเดาได้ไหมหล่ะ
โยม : ไม่ได้ครับหลวงปู่
หลวงปู่ : หือ ไม่ได้เหรอ เอาใหม่นะ ถ้าต้นมะขามออกใบ ออกดอก ออกผล แล้วร่วงหล่นลงมาที่โคนของต้นสะเดา ย่อยสลาย เป็นธาตุอาหารในดิน
รากของต้นสะเดา ก็ดูดเอา ปุ๋ยนั้นไปหล่อเลี้ยงลำต้น ออกเป็นใบ ดอก ผล ผลก็ตกลงมาเป็น =AZVrgnBLp9vRfSZRLETIWi1I1NoAJZYUXrvFUl12S-WRphkkBgm6CIXx_bkeRsJAX3aSqB4a7Z-FKuyIRYLB8mJu9wSefUoEaG5_LTpyHINpLeMiObngKKNXifetimJOA2YHEceTdqnFgb7vn_RltBCBfccPuAmhQSGh-j7Rs9YOCV4qOTjBZpZ2Jdyvjlt7Rco&__tn__=*NK*F']#ต้นสะเดาเล็กๆ
หลวงปู่ถามคุณอีกครั้งว่า มะขามกลายเป็นสะเดาได้ไหม
โยม : ได้ครับผมหลวงปู่
หลวงปู่ : เออ... -
การปฏิบัติธรรมจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ดูที่ความตรงต่อเวลาก็พอ
การปฏิบัติธรรมจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ดูที่ความตรงต่อเวลาก็พอ คนที่ตั้งใจไปพระนิพพาน เรื่องยุ่งรุงรังทั้งหมดไม่เอาแล้ว เพราะฉะนั้น… ถ้านัดเวลา ก็มีแต่ก่อน ไม่มีหลัง
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com
ขอขอบคุณภาพจากคุณ A'tist Toon -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ -
"คนมีอำนาจกับคนมีวาสนา" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
.
"คนมีอำนาจกับคนมีวาสนา"
ถาม : คนมีอำนาจกับคนมีวาสนานี้ "ต่างกันหรือเหมือนกันปู่"
ตอบ : คำว่า "อำนาจตามหลักธรรมแล้ว เป็นกิ่งก้านออกมาจากวาสนา" คนมีวาสนาบารมีมักเป็นคนมีความดิบความดี "ได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นเจ้าเป็นนายมียศสูงส่ง" ตามลำดับ "และมีอำนาจสั่งการสั่งงานได้ตามหน้าที่และกฎข้อบังคับกฎหมายบ้านเมือง"
นี่ท่านว่า "คนมีอำนาจวาสนาตามจารีตประเพณีของปราชญ์" ที่ท่านดำเนินและทรงกันมา "ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอยู่ใต้ร่มเงาวาสนาบารมีก็ร่มเย็นทั่วหน้ากัน" คนที่มีอำนาจวาสนาตามหลักธรรม ตัวเองก็สงบชุ่มเย็น
"กิริยาอาการที่แสดงออก มีสง่าราศี ไม่อาภัพอับเฉา" ผู้น้อยก็เคารพรักทั้งต่อหน้าลับหลัง "ไม่พากันตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์และซุบซิบ ๆ กัน" ประชาชนคนธรรมดา "มองเห็นก็เย็นตาเย็นใจ" อยากเข้าใกล้ชิดสนิทสนม ..
"อนาลโย ผู้ไม่มีความอาลัย"
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๖ -
ขอให้ทำดีไว้ให้สม่ำเสมอ จะช่วยตัดเคราะห์กรรมได้ในระดับหนึ่ง
ในเรื่องของบุญกุศลนั้น ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ตราบนั้นบุญกุศลก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่าบุญกุศลนั้นจะส่งผลต่อชีวิตเราในด้านดีอย่างเดียว เพียงแต่ว่าเราท่านทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว ไม่ได้ทำความดีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มักจะมีการทำดีทำชั่วบ้าง สลับผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนกันไป จึงทำให้ถึงเวลาก็มีกรรมชั่วเข้ามาแทรก ให้เราต้องลำบากเดือดร้อน
ขอให้ทุกท่านทำใจแบบอนาถปิณฑิกเศรษฐี ที่ถึงเวลากรรมเข้ามาแทรก ทำให้โดนน้ำซัดเอาคลังสินค้าริมแม่น้ำพังถล่มลงน้ำไปหมด กองเรือที่ส่งไปค้าขายต่างเมือง ก็โดนพายุพัดหลงทาง หากันไม่เจอ ทรัพย์สมบัติที่มีมากมาย ก็ลดน้อยถอยลง แต่กำลังใจของท่าน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในกองบุญการกุศล ยังคงทำบุญเลี้ยงพระทุกวัน เพียงแต่ว่าจากที่เคยเลี้ยงข้าวมธุปายาส ก็เหลือเพียงข้าวต้มกับน้ำผักดอง แต่ท่านก็ไม่คลายศรัทธาเลย
จนกระทั่งเทวดาที่รักษาฉัตรในบ้านท่าน มาดุท่านว่า "ฐานะตกต่ำถึงปานนี้แล้ว ยังจะทำบุญให้ทรัพย์สินหมดลงไปอีก" อนาถปิณฑิกเศรษฐีก็เลยไล่เทวดาว่า "อัปเปหิ..เธอจงไป เทวดาที่เป็นมิจฉาทิฐิ ไม่รู้จักคุณงามความดีแบบนี้ เราไม่ต้องการ"... -
"คุณธรรม ๑๐ ประการ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"คุณธรรม ๑๐ ประการ"
" .. "ศาสนาพุทธให้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า" ทั้งที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่และดับขันธ์นิพพานไปแล้ว ถ้าใจยังไม่แน่วแน่เป็นเอกกัคตารมณ์ก็ยังไม่ถึงพระเจ้าที่แท้จริง
คำว่า "พุทธ" ในพุทธศาสนามิได้หมายเอาตัวบุคคล "แต่หมายเอาคุณธรรม ๑๐ ประการ (คือบารมี ๑๐ ประการ)" ผู้ใดบำเพ็ญเต็มแล้วย่อมได้สำเร็จเป็นพุทธ "เมื่อคุณธรรมนั้นปรากฏขึ้นแก่บุคคลใดแล้ว บุคคลนั้นย่อมจะได้รับความกราบไหว้เคารพนับถือไปด้วย" .. "
"สนทนาธรรมต่างประเทศ" สิงคโปร์
(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๒๐
หน้า 52 ของ 414