คลังเรื่องเด่น
-
หามุมการปฏิบัติที่เหมาะกับตนเอง "วางได้ก่อนก็สบายก่อน" แต่อย่าไป "วางใส่หัวคนอื่น"
ในเรื่องของการประพฤติปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือว่าเป็นพระภิกษุสามเณรก็ตาม ทำอย่างไรที่เราจะรักษาใจของตนเองให้ได้เหมือนน้ำกลิ้งบนใบบัวหรือใบบอน ไม่ว่าจะกลิ้งไปมุมไหนก็ไม่ได้ติดอยู่เลย เป็นเรื่องที่พวกเราต้องหามุม หาที่ หาทาง เข้าถึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ประมาณว่า "วางได้ก่อนก็สบายก่อน" แต่อย่าไป "วางใส่หัวคนอื่น" ต้องระมัดระวังอยู่เสมอว่า กาย วาจา ใจ ของเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นเขาหรือเปล่า ? ยิ่งถ้าใครมีเป้าหมายว่าบวชแล้วจะอยู่นาน ก็ยิ่งต้องขัดเกลาตนเองให้ดีที่สุด
เคล็ดลับอยู่ตรงคำว่า "ธรรมดา" กระทบกระทั่งกับใครก็ตาม ให้รู้สึกทันทีว่าธรรมดาของการเกิดมาต้องเจอกับเรื่องอย่างนี้ หรือถ้าหากว่ายังโกรธอยู่ ก็ธรรมดาที่กูเกิดมาเจอกับมึง จึงต้องเจอเรื่องอย่างนี้ ทำอย่างไรให้ลงคำว่าธรรมดาให้ได้ ถ้าสามารถเข้าถึงคำว่าธรรมดาได้ สามารถเป็นได้ตั้งแต่ปุถุชนยันพระอริยเจ้าเลย..!
เพียงแต่ว่าธรรมดาของแต่ละระดับนั้นไม่เท่ากัน ธรรมดาของปุถุชนอาจจะอยู่ระดับแค่นี้ ของกัลยาณชนสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ของอริยชนสูงขึ้นไปกว่านั้นอีก จนกระทั่งของพระอรหันต์ ถึงจะธรรมดาจริง ๆ... -
จิตว่าง ถูกลองจิต ถูกลอบยิง
จิตว่าง ถูกลองจิต ถูกลอบยิง
พระอาจารย์เยื้อน ขันติพโล -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๖ -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนมีนาคม ๒๕๖๖
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ -
หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล/ " สมาธิ ๒ ขั้ว "
หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล/ " สมาธิ ๒ ขั้ว " -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
จิตพ้นจากธาตุสี่ ขันธ์ห้า อายตนะ ( พระอาจารย์เยื้อน ขันติพโล )
.
หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล - จิตพ้นจากธาตุสี่ ขันธ์ห้า อายตนะ -
การปฏิบัติธรรม อย่าใช้คำว่าไม่มีเวลา ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ ตราบนั้นต้องมีเวลา
ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น เรื่องสำคัญที่สุด ก็คือ สามารถใช้งานได้จริง งานจะหนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม ถ้ามีสติ..เราก็จะลำดับความ ก่อน หลัง เร็ว ช้า ของงานได้ งานไหนมาก่อนก็ทำงานนั้นก่อน งานที่มาทีหลัง แม้จะหลังเพียงนาทีเดียวเราก็ทำทีหลัง ถ้าอย่างนี้เราจะมีงานตรงหน้าครั้งละงานเดียว และไม่หนักเกินกำลังของเรา
อาตมาเองต้องไปแก้โครงร่างวิทยานิพนธ์ ที่อาจารย์ ๕ ท่านให้ความเห็นมา แล้วต้องส่งภายในวันที่ ๒๕ นี้ พรุ่งนี้ ๒๓ กฐิน แปลว่ามีเวลาวันที่ ๒๔ วันเดียว แต่..ตั้งวันที่ ๒๔ ..เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องไปเดือดร้อน..ทิ้งไว้ก่อน นี่คือการจัดลำดับงาน ก่อน หลัง เร็ว ช้า แล้วก็ทำสิ่งที่มาถึงก่อน เราจะมีงานอยู่ตรงหน้างานเดียวตลอดเวลา และไม่หนักเกินกำลังของเรา
โดยเฉพาะว่าเรื่องของการปฏิบัติ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราอยากได้ดี แต่ว่าอยากไม่จริง ถ้าคนที่อยากได้ดีจริง ๆ ต้องทุ่มเทให้กับการปฏิบัติ ทุ่มเทขนาดไหน ? ก็ต้องขนาดที่คนรอบข้างลงความเห็นว่า “บ้าไปแล้ว” ขนาดนั้นบางทียังทุ่มไม่จริงเลย เพราะปากคนบางทีก็ชิงว่าไปก่อน เราต้องต่อสู้กับแรงกดดันสารพัดอย่างที่มารอบข้างเรา
แม้กระทั่งฝรั่งเขาก็ทำงานวิจัยว่า... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
การปฏิบัติธรรม เรามีหน้าที่ทำ ส่วนผลการปฏิบัติจะเกิดขึ้นอย่างไร จะเกิดขึ้นเมื่อไร...แล้วแต่
มีญาติโยมที่ได้รับคำแนะนำในเรื่องของการปฏิบัติแล้วตั้งใจมากเกินไป หันกลับมาปฏิบัติแบบปล่อยวาง แล้วถามว่าเราจะได้อะไรจากการปฏิบัตินั้น ?
ขอให้ทุกคนทราบว่าในเรื่องของการปฏิบัตินั้น เราจะหวังผลอย่างไรก็ตาม หรือว่าอยากได้ผลการปฏิบัติอย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเรื่องก่อนการลงมือปฏิบัติ คือเราจะคิดเราจะอยากอย่างไรก็ได้ทุกอย่าง แต่เมื่อตอนลงมือปฏิบัติ คือเริ่มเข้าสมาธิ นึกถึงลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา เราต้องลืมเรื่องความอยากหรือสิ่งที่จะได้จากการปฏิบัติไปเสีย
พูดง่าย ๆ ว่าเรามีหน้าที่ทำ ส่วนผลการปฏิบัติจะเกิดขึ้นอย่างไร จะเกิดขึ้นเมื่อไร...แล้วแต่ ก็คือไม่ต้องไปใส่ใจตรงนั้น เพราะว่าถ้าเราอยากได้ว่าปฏิบัติแล้วต้องได้อย่างนั้น ต้องได้อย่างนี้ ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ แปลว่าสภาพจิตของเรากำลังฟุ้งซ่าน หาความสงบที่แท้จริงไม่ได้ ในเมื่อฟุ้งซ่านหาความสงบที่แท้จริงไม่ได้ เราก็จะพลอยไม่ได้ผลในการปฏิบัติไปด้วย
จะว่าไปแล้วเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นพื้นฐานขั้นต้นของการปฏิบัติ แต่เราก็มักจะไม่ได้ศึกษากัน หรือว่าศึกษาตำราที่ไม่ได้เขียนถึงเอาไว้ จึงต้องเสียเวลามาสอบถาม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
การเพียรใช้สติสัมปชัญญะเข้าไปกำหนดรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทางกาย(หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง )
ที่มา https://www.youtube.com/@Power_of_Buddha
หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง เรื่อง การเพียรใช้สติสัมปชัญญะเข้าไปกำหนดรู้สิ่งที่เกิดขึ้นทางกาย -
"เพราะบุญช่วย" (ท่านพ่อลี ธัมฺมธโร)
.
"เพราะบุญช่วย"
" .. พระพุทศาสนา "ไม่ใช่เรื่องของการอ้อนวอน ร้องขอ หรือให้กันได้" ทุกคนจะต้องทำด้วยตัวของตัวเอง จึงจะได้รับผล เหตุนั้นท่านจึงสอน "ให้พากันทำบุญ เพราะบุญเป็นสิ่งที่จะอำนวยผลให้สำเร็จได้ตามความปรารถนา"
ลองสังเกตุดูซิ "บางคนทำอะไรก็ทำสำเร็จไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง บางคนก็ทำอะไรไม่สำเร็จเลย" ทำโน่นก็ไม่สำเร็จ ทำนี่ก็ไม่สำเร็จ "ก็เพราะบุคคลนั้นไม่มีบุญช่วย"
พระพุทธเจ้า "จึงทรงสรรเสริญคนที่ทำบุญบ่อย ๆ มาก ๆ ว่า เป็นคนดีจะคิดทำอะไรก็สำเร็จดังใจนึก" เป็นคนมีความสุข .. "
ท่านพ่อลี ธัมฺมธโร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
อานิสงส์โมทนา (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
ไอ้คำว่าตายมันตายด้วยกันทุกคน เอายังงี้ก็แล้วกัน ก่อนจะตายก็ทำดีไว้ก่อน ใช่ไหม สร้างบ้านไว้ก่อน ชอบบ้านขนาดไหนสร้างไว้ ใช่ไหม เราอยากจะมีรถยนต์ทำบุญรถยนต์ แต่ไม่ต้องซื้อทั้งคันน่ะ บาทเดียวก็ใช้ได้ ใช่ใหม อยากจะมีเรือสวยเห็นเรือสวยๆแบบนี้ ต้องการมีเรือก็มีสตางค์สักสลึงสักบาท ทำบุญเพื่อเรือ เห็นทางบ้านเขาสวยๆ อยากจะมีบ้านสวยๆ ก็ทำบุญหลังหนึ่งเป็นวิหารทาน
คือการทำบุญไม่จำเป็นต้องทุ่มเทหนัก นี่พูดถึงคนที่มีทรัพย์น้อยนะ แต่คนที่เขาไม่ทำบุญเลย เขาตั้งใจโมทนาอย่างเดียวยังมีวิมานอยู่ ต้องคิดนะ
คือมีผู้หญิงคนหนึ่งในสมัยพระพุทธเจ้า ฉันจำชื่อไม่ใด้ในพระไตรปิฏกนะ แกตายจากความเป็นคนแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานใหญ่มากและสวยมาก และมีวิมานย่อมๆอีก 2 หลัง คล้ายๆวิหารร้อยเมตรน่ะ เป็นวิมานนั่งเล่น และมีต้นไม้ มีแสงไฟสว่าง
พระโมคคัลลาน์ท่านไปเห็นวิมานเข้าท่านก็แปลกใจ เข้าไปถึงเจ้าของวิมานเป็นนางฟ้า ถาม ภคินิ ดูก่อนน้องหญิง สมัยที่มีชีวิตอยู่น่ะ ทำบุญอะไรไว้ จึงมีวิมานใหญ่อย่างนี้และสวยงามมาก มีวิมานนั่งเล่น 2 หลัง มีต้นไม้ก็สวยมากมีแสงสว่างสวยมาก
แกตอบว่ายังไงทราบไหม... -
พระอริยะเข้านิโรธสมาบัติ โปรดโยมผู้มีอุปการะต่อวัด
พระอริยะเข้านิโรธสมาบัติ โปรดโยมผู้มีอุปการะต่อวัด -
พระอาจารย์บุญจันทร์ จนฺทวโร ผู้สำเร็จอภิญญา ๖
พระอาจารย์บุญจันทร์ จนฺทวโร ผู้สำเร็จอภิญญา ๖ -
"พูดเป็นธรรม" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)
.
"พูดเป็นธรรม"
" .. มิได้หมายความว่า พูดเรื่องธรรม "แต่หมายความว่า พูดถูกต้อง มีเหตุผล
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน แต่เป็นไปเพื่อเกื้อกูล" .. "
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
หลวงปู่เขี่ยม โสรโย พระผู้มองเห็นสาวผู้เป็นที่รักมีแต่ขี้เต็มตัว
หลวงปู่เขี่ยม โสรโย พระผู้มองเห็นสาวผู้เป็นที่รักมีแต่ขี้เต็มตัว -
หลวงปู่บุญทันใช้อภิญญาสกัดกั้นชาวบ้านมิให้ทำบาป
หลวงปู่บุญทันใช้อภิญญาสกัดกั้นชาวบ้านมิให้ทำบาป -
"เอาสติมาฝึกจิต" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
.
"เอาสติมาฝึกจิต"
" .. พระองค์ก็เทศนาเหมือนกันว่า "จิตอันใดใจอันนั้น ใจอันใดจิตอันนั้น" จิตกับใจก็อันเดียวกันนั่นแหละ แต่ทำไมพูดสองอย่าง ก็เพราะมันทำหน้าที่มีอาการต่างกัน "การฝึกหัดต้องฝึกจิต" ไม่ต้องฝึกใจ จิตคือผู้คิด ผู้นึก ผู้ปรุง ผู้แต่งสัญญาอารมณ์ทั้งหมด "กิเลสทั้งปวงก็จิตเป็นผู้ปรุงแต่ง" การฝึกหัดอบรมจะต้องฝึกที่จิตแห่งเดียว
แล้วเอาอะไรมาฝึกจิต "เอาสติมาฝึกจิต" ขอให้มีสติทุกอิริยาบททั้งสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน มีสติรู้จิตตลอดเวลา กิเลสทั้งหลายจะค่อยเสื่อมหายไป "อย่าเพิ่งให้สำเร็จมรรคผลง่ายนักเลย" คนฝึกหัดปฏิบัติน่ะอยากสำเร็จ มรรค ผล นิพพานเร็วนัก เอาไว้เสียก่อน "เอากิเลสไว้พิจารณาเสียก่อน"
สำเร็จมรรคผลแล้วจะไปไหน "กิเลสมันอยู่กับจิต เรามีสติควบคุมจิตอยู่" ลองคิดดูว่าเห็นมันทุกขณะ ยืน เดิน นั่ง นอน แล้วมันจะไปไหนเล่า "ทุกสิ่งที่เห็นว่ามันดีหรือมันชั่ว มันชั่วก็เป็นสิ่งที่ควรละ มันดีก็เป็นของควรทำ" หมั่นฝึกหัดปฏิบัติเพียงแค่นี้ "ละชั่วทำดีเท่านั้นแหละ" หมดเรื่อง .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ -
หัดล้มเหลวเสียบ้าง
หัดล้มเหลวเสียบ้าง ถ้าสำเร็จทุกอย่างชีวิตก็ไร้รสชาติ
เรื่องของงานจำไว้ว่าขอให้ได้ทำ ไม่ได้แปลว่าทำแล้วต้องสำเร็จ
ทำแล้วอย่าไปเสียใจ แต่ถ้าไม่ได้ทำก็น่าเสียดาย
เราจะไม่รู้ว่าบทเรียนดี ๆ อย่างนี้ยังมีอยู่อีกเยอะเลย
.....................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com -
"ไปเอาบุญ แต่ไม่ละบาป" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"ไปเอาบุญ แต่ไม่ละบาป"
" .. บางทีก็พากันไปแสวงหาบุญกัน ไปรถบัสคันใหญ่ ๆ สองคันสามคัน พากันไป "ไปกันบางทีทะเลาะกันเสียบนรถก็มี บางทีกินเหล้าเมากันบนรถก็มี" ถามว่าไปทำไม ไปแสวงบุญกัน "ไปแสวงหาบุญ ไปเอาบุญ แต่ไม่ละบาป ก็ไม่เจอบุญกันสักที" มันก็เป็นอย่างนั้นแหละ
อันนี้มันอยู่อย่างนี้(ของวางอยู่) มันจะสะดุดเท้าเราใช่ไหมให้มองดูใกล้ ๆ มองดูตัวเรา พระพุทธเจ้าท่าน "ให้มองดูตัวเรา ให้สติสัมปชัญญะอยู่รอบ ๆ ตัวเรา" ท่านสอนอย่างนี้
บาปกรรมทำชั่วทั้งหลาย มันเกิดขึ้นทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ "บ่อเกิดของบาปบุญคุณโทษ ก็คือกาย วาจา ใจ" เราเอากาย วาจา ใจมาด้วยหรือเปล่าวันนี้ หรือเอาไว้ที่บ้าน นี่ต้องดูอย่างนี้ ดูใกล้ ๆ อย่า ไปดูไกล "เราดูกายของเรานี่ ดูวาจา ดูใจของเรา ดูว่า ศีลของเราบกพร่องหรือไม่อย่างนี้" ไม่ค่อยจะเห็นมี .. "
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
คนที่ขวนขวายหาธรรมะใหม่ ๆ ถามตัวเองด้วยว่า ไอ้ที่สอนซ้ำซากนี่ ทำได้ดีแล้วหรือยัง ?
พวกเราทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติธรรมต้องเข้าใจด้วยว่า พุทธานุสติที่กระผม/อาตมภาพสอนทุกคน สอนทุกครั้ง สอนทุกเช้าที่ปฏิบัติธรรม บางคนอาจจะคิดว่าสอนอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยากจะถามคืนไปว่า ไอ้ที่สอนซ้ำซากนี่ ทำได้ดีแล้วหรือยัง ?
พุทธานุสติเป็นกองกรรมฐานที่ช่วยให้เราเข้าถึงพระนิพพานได้ดีที่สุดและง่ายที่สุด เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดเลย นอกจากบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่าน คือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน คือเราอยู่บนพระนิพพาน
อยากจะบอกว่า ความรู้ที่กระผม/อาตมภาพศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและการปฏิบัติธรรมมาทั้งหมด สรุปลงก็เหลือเท่าที่มาจ้ำจี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะให้ทุกเช้าที่มีการปฏิบัติธรรมนั่นแหละ ใครอยากจะเป็นพระอภิญญา ใครอยากจะเป็นพระปฏิสัมภิทาญาณ ทำไปเลย ทำได้เมื่อไร กำลังใจถึงระดับ ได้อย่างที่ต้องการแน่นอน..!
ถ้าจะเป็นอภิญญา ๖ อย่างน้อยต้องเป็นพระโสดาบันขึ้นไป เพราะว่าข้อที่ ๖ ของอภิญญา ๖ ก็คืออาสวักขยญาณ ความรู้ในการกำจัดกิเลสให้สิ้นไป อย่างน้อย ๆ ต้องสิ้นไปในระดับโสดาบัน ถึงถือว่าได้ญาณตัวนี้
แต่ถ้าเป็นปฏิสัมภิทาญาณ ๔ อย่างน้อยต้องเป็นพระอนาคามีขึ้นไป... -
"เข้าถึงพุทธธรรมได้ด้วยใจ" (หลวงปู่ชา สุภทฺโท)
.
"เข้าถึงพุทธธรรมได้ด้วยใจ"
" .. พิจารณาดูเถิด "การเดินทางเข้าถึงพุทธธรรมมิใช่เดินด้วยกาย แต่ต้องเดินด้วยใจจึงจะเข้าถึงได้" ได้แบ่งผู้เดินทางออกเป็น ๓ ชั้น คือ
ก. "ชั้นต่ำ" ได้แก่ "ผู้รู้จักปฏิญาณตนเองเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอาศัย" ตั้งใจปฏิบัติตามคำสั่งสอนด้วยดี ละทิ้งประเพณีที่งมงายและเชื่อมงคลตื่นข่าว จะเชื่ออะไรต้องพิจารณาเหตุผลเสียก่อน คนพวกนี้เรียกว่า "สาธุชน"
ข. "ชั้นกลาง" หมายถึง "ผู้ปฏิบัติจนเชื่อต่อพระรัตนตรัยอย่างแน่นแฟ้นไม่เสื่อมคลาย รู้เท่าทันสังขาร" พยายามสละความยึดมั่นถือมั่นให้น้อยลง มีจิตเข้าถึงธรรมสูงขึ้นเป็นขั้น ๆ ท่านเหล่านี้ "เรียกว่าพระอริยบุคคล" คือ "พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี"
ค. "ชั้นสูง" ได้แก่ "ผู้ปฏิบัติจนกาย วาจา ใจ เป็นพุทธะ เป็นผู้พ้นจากโลก อยู่เหนือโลก" หมดความยึดถืออย่างสิ้นเชิง "เรียกว่า พระอรหันต์" ซึ่งเป็นพระอริยบุคคลชั้นสูงสุด .. "
หลวงปู่ชา สุภทฺโท
http://anuchah.com/dhamma-lessons/ -
ฝึกมโนมยิทธิประจำวัน ท่องแดนสวรรค์ ครูคณิตพร บุญยเกียรติ||หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง นำสมาทานกรรมฐาน
ฝึกมโนมยิทธิประจำวัน ท่องแดนสวรรค์ ครูคณิตพร บุญยเกียรติ||หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง นำสมาทานกรรมฐาน -
หลวงตาพระมหาบัว กล่าวถึง หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
กล่าวถึง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
"..พระดี จะหาอะไรดียิ่งกว่านั้นไปอีก.."
--------------------------------------------- -
มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันตรงหน้าเท่านั้น
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นวันสอบนักธรรมสนามหลวงชั้นตรีวันแรก ซึ่งคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิของเรา ก็ได้รับคำสั่งจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอทองผาภูมิ นำโดยท่านนายอำเภอนภเดช เกลียวศิริกุล ให้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ก่อนที่จะเข้าสอบ ตรวจแล้วก็เจอจนได้ ปรากฏว่าแจ็กพ็อตไปแตกที่วัดทองผาภูมิ มีผลตรวจเป็นบวก ๑ รูป พระทั้ง ๓ รูปที่จะเข้าสอบของวัดทองผาภูมิ ก็เลยต้องโดนขอร้องให้งดการสอบ
ต้องบอกว่าทองผาภูมิของเราระยะนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ค่อนข้างจะรุนแรง ตรวจเมื่อไรก็เจอเมื่อนั้น ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าอีก ๓ วันที่เหลือจะโดนตรวจอีกกี่ครั้ง ในฐานะรองประธานกรรมการสนามสอบ เป็นหน้าที่ซึ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเข้าไปดำเนินงานให้เสร็จสิ้นลง..
ตรงจุดนี้ไม่ว่าจะพระภิกษุสามเณรหรือว่าญาติโยม ทั้งที่อยู่ที่นี่หรือว่าอยู่ที่บ้านก็ตาม จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะว่าไม่มีใครที่สามารถจะช่วยเราได้ นอกจากดูแลตัวเองให้ดี
พวกเราเองจึงต้องระมัดระวังตนเอง ห้ามประมาท ห้ามการ์ดตก...
หน้า 48 ของ 414