คลังเรื่องเด่น
-
ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม ก็จะเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้
เรื่องที่เราอธิษฐานไว้ บางอย่างก็เป็นสิ่งที่อันตราย ฟังแล้วแปลก ๆ อย่างเช่น การขอเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน ถ้าทำไม่สมกับที่อธิษฐานไว้ ขอยืนยันว่าอันตรายมาก ในเมื่ออธิษฐานขอจะไปพระนิพพานชาตินี้ ตัวอธิษฐานบารมีจะค้ำอยู่ จะเจ็บป่วยทรมานหรือโดนรถ ๑๘ ทับยับเยินขนาดไหนก็ยังตายไม่ได้หรอก ต้องตัดร่างกายนี้ให้ได้เพื่อไปพระนิพพานก่อน เนื่องจากว่าเราไปตั้งเป้าเอาไว้แล้ว
ลองนึกดูว่า ถ้ารถยนต์วิ่งแค่สูบเดียวแถมยางแตกอีก ๔ ล้อ จะไปถึงจุดหมายปลายทางอีท่าไหน ก็ต้องลากกันถูลู่ถูกังไป ดังนั้น..ท่านที่อธิษฐานขอพระนิพพานในชาติปัจจุบัน บางท่านสถานการณ์ครอบครัวบีบคั้นมาก แทบจะน้ำตาร่วงอยู่ทุกวัน หารู้ไม่ว่าเป็นเพราะเราทำเอง เพราะบุคคลที่ไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม บุคคลที่ไม่เห็นธรรมจะเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้ กลายเป็นเราซ้ำเติมตัวเองให้ลำบาก
แล้วทำอย่างไรถึงจะแก้ไขได้ ? ก็ต้องพิจารณาให้เห็นจริงว่าการเกิดมานี้มีแต่ความทุกข์ ร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์ โลกนี้มีแต่ความทุกข์ ไม่มีอะไรที่อยากได้ใคร่ดี มีความปรารถนาอย่างเดียวคือหลุดพ้นจากกองทุกข์เหล่านี้ไปสู่พระนิพพาน
พิจารณาให้มั่นคง มั่นใจ... -
ต้องการธรรมะปลอบใจ
ต้องการธรรมะปลอบใจ
ผู้ถาม : ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อ ขอธรรมะหน่อย พ่อผัวรถชนตาย ต่อมาผัวถูกรถชนตาย อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่าจะมีธรรมะอะไรสำหรับกรอกจิตกรอกใจในยามนี้บ้างคะ?
หลวงพ่อ : ทุกข์จะกรอกใครล่ะ?
ผู้ถาม : กรอกคนเป็นซิครับ
หลวงพ่อ : กรอกคนเป็น คนเป็นจะรับหรือเปล่า ธรรมะก็ให้คิดว่าความตายนี้เป็นของธรรมดา เกิด แก่ เจ็บ ตาย อันนี้เขาได้ยินอยู่เสมอแล้วนี่นา ท่าจะรับไม่ไหว
ทางที่ดีมีทางเดียว เรื่องตัวไม่ให้เป็นอย่างนั้น คือปล่อยสัตว์จะได้อภัยทาน
จะบอกว่าอย่าเสียใจไปเลย อันนี้เป็นไปไม่ได้ คนที่ไม่เสียใจในขั้นนี้ก็ต้องเป็นพระอนาคามี ถ้ายังไม่ถึงอนาคามียังร้องไห้อยู่ พระโสดาบัน สกิทาคา ยังร้องไห้กันอยู่ โสดาดูเหมือนจะร้องไห้แบบมาราธอน แกไม่ร้องรวดเดียว แกร้องติดต่อกันเรื่อย ถ้าใครพูดถึงเป็นร้องไห้อยู่ พระโสดายังร้องไห้ สกิทาคาก็ยังมีแต่เบามากกว่าพระโสดาบันหน่อย ถ้าไม่มีการร้องไห้จริงก็ถึงอนาคามี แต่ความอ่อนไหวในจิตยังมีอยู่ แต่ไม่ออกมาข้างนอก อนาคามีนี่ ถ้าหากจะไม่หวั่นไหวจริงๆคืออรหันต์ เป็นไปตามขั้น
ถ้าหากเราจะไปแนะนำเรื่องธรรมะจริงๆ ความตายเป็นของธรรมดา ไปไม่รอดหรอก... -
พูดตลก, ลามก กรรมบท 10 ขาดไหม
พูดตลก, ลามก กรรมบท 10 ขาดไหม
ลูกศิษย์ : ทีนี้ ถ้าพูดตลก กรรมบถ 10 ขาดไหม ศีลขาดไหม
หลวงพ่อ : คือไม่ชนกับศีล ศีลไม่ขาดนะ เขาตลก จะหาว่าพูดไร้สาระยังไม่ได้นะ ตลกเพื่อความรื่นเริง ไม่มีอะไรเลย ทำใจคนอื่นให้ชุ่มชื่น ไม่มีอะไร
พระพุทธเจ้าท่านเคยทำ พระสารีบุตรท่านเคยทำ พระสาวกหลายองค์เคยทำ ต้องทำถ้าสมาคมนี้จะเหงาเกินไป ก็ต้องทำให้เกิดความรื่นเริง แต่ไม่ผิดศีลผิดธรรม
ลูกศิษย์ : ...........
หลวงพ่อ : นั่นเขารวมคำแล้ว เขารวมคำๆไว้นะ นั่นเขารวมไว้ในกลุ่ม มันไม่เป็นไร เขาพูดตลกคะนอง เขาพูดทำให้คนอื่นหัวเราะ เขาทำให้จิตใจเราชุ่มชื่น แต่ใจเขาเองน่ะเขาจะรู้ ถ้าเขาพูดดีน่ะ ใจเราสบาย อย่าลืมนะ
ลูกศิษย์ : ...........
หลวงพ่อ : ลามก ก็คนที่ลามกเขาก็ชอบนี่ เขาก็พูดให้ชอบ แกงต้มให้คนกิน ก็ต้องทำตามแต่ละคนใช่ไหม คนนี้กินเค็มชอบเค็ม เราทำเปรี้ยวเขาก็กินไม่ได้ เขาชอบเปรี้ยว เราทำเค็มเขาก็กินไม่ได้ ต้องทำให้เหมาะสม
คนลามกก็ชอบภาษาลามกไม่เป็นไร คือไม่ได้โกหก ไม่โกหก ไม่สร้างความสะเทือนใจให้เกิดแก่เขานะ ทำใจให้สบาย ใช่ไหม
แล้วประการที่ 2 เขาไม่ได้สร้างความแตกร้าวให้เกิดแก่ใคร... -
เจโตปริยญาณ พระพุทธเจ้าสอนไว้../ พระราชพรหมยาน( หลวงพ่อฤาษี)วัดท่าซุง
=AZUk9_jpep2VLWQeJgRCFoCSKSjKQyx6AnJq24CkzPz4q1lZvstGtAyDvGnf50Yd5e0eOLkwtm1f241NMbHXXFqYzxRoTV51wnk5DsSMPfeXM5t1JzdimG0wu6LFgJ2UzeinL6lst_5wnVWgvvY3LmMWRPnIAySKLI9-F5BxUBAFk42vvDwWJOqr-ZTSZb6MlBPiUnB7hvZydfUOzsYajnA4&__tn__=*NK-R']เจโตปริยญาณ พระพุทธเจ้าสอนไว้
คือ หนึ่ง =AZUk9_jpep2VLWQeJgRCFoCSKSjKQyx6AnJq24CkzPz4q1lZvstGtAyDvGnf50Yd5e0eOLkwtm1f241NMbHXXFqYzxRoTV51wnk5DsSMPfeXM5t1JzdimG0wu6LFgJ2UzeinL6lst_5wnVWgvvY3LmMWRPnIAySKLI9-F5BxUBAFk42vvDwWJOqr-ZTSZb6MlBPiUnB7hvZydfUOzsYajnA4&__tn__=*NK-R']มีไว้ให้เปลื้องความสงสัยว่า
=AZUk9_jpep2VLWQeJgRCFoCSKSjKQyx6AnJq24CkzPz4q1lZvstGtAyDvGnf50Yd5e0eOLkwtm1f241NMbHXXFqYzxRoTV51wnk5DsSMPfeXM5t1JzdimG0wu6LFgJ2UzeinL6lst_5wnVWgvvY3LmMWRPnIAySKLI9-F5BxUBAFk42vvDwWJOqr-ZTSZb6MlBPiUnB7hvZydfUOzsYajnA4&__tn__=*NK-R']กิเลสมีจริงไหม สอง... -
พิธีสะเดาะเคราะห์ มีคุณมีโทษ มีประโยชน์ไม่มีประโยชน์
พิธีสะเดาะเคราะห์ มีคุณมีโทษ มีประโยชน์ไม่มีประโยชน์
อาตมาหรือว่าฉันเองนี่ เอาฉันก็แล้วกัน ถ้าเป็นเด็กๆกว่านี่ ไอ้ฉันมันโตกว่า ใช้ฉันนะ อาตมาอาตเมอเดี๋ยวเด็กมันฟังไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะนึกว่าเอ้าไปเอาม้าที่ไหนมาจะหาว่าพระเป็นม้าไป
ฉันนี่เมื่อสมัยตอนเมื่อยังหนุ่ม ตอนนั้นปรากฏว่ามีโยมท่านผู้เคารพน่าเคารพผู้หนึ่ง ท่านเมตตา ท่านเป็นหมอดูหลายแบบ ดูดวงชะตาก็ได้ เลขเจ็ดตัวก็ได้ มหาทักษาก็ได้ กราฟก็ได้ ลายมือก็ได้ ท่านช่วยมาดูให้ทุกๆ 15 วันเฉพาะลายมือ
มาตอนหนึ่งท่านมาบอกว่า
"คุณ ตอนนี้ราหูเข้าเสวยอายุเป็นตอนที่มีความสำคัญมาก จะมีโทษทางท้อง จะเป็นโรคเกี่ยวกับท้อง ให้รับพระราหูเสีย"
อาตมาก็คนหนึ่งในตองอูเหมือนกันยอมพิสูจน์บอก
"โยม อาตมาถือว่าราหูมาก็ไม่ได้เชิญมา เมื่อไปก็ให้เชิญไปเองไม่ส่งละ ไม่รับไม่ส่งเป็นอย่างไรก็เป็นไป"
ท่านบอก "ไม่ได้นะคุณนะ ไอ้เจ้าเฉลิม (คือเจ้าเสือปืนคู่สมัยนั้นอยู่ฝั่งธนบุรี) มัน
ต้องตายเพราะตำรวจ เพราะว่าชะตาแบบนี้ ราหูเสวยอายุแบบนี้ ถ้าคุณไม่ทำ ฆราวาส
ก็มีโทษ พระจะให้โทษให้เต็มอัตรา 100%
ถ้าเป็นพระโทษจะเหลือประมาณ 25% คุณจะมีเรื่องหนักทางท้อง"... -
ชีวิตนี้เป็นของน้อยยิ่งนัก
ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ที่ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติด้วยชีวิต จนมาถึงอายุ ๖๑ ปี ในวันนี้ ตัวเลขพอดีพ้องกันในด้านกลับ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน สิ่งหนึ่งที่อาตมาเห็นว่าน่ากลัวที่สุด คือ จิตสังขาร การปรุงแต่งของใจ ที่เป็นต้นเหตุก่อให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง พาให้ต้องทุกข์อยู่ไม่รู้จักจบจักสิ้น
สิ่งหนึ่งที่นักปฏิบัติธรรมมักจะต้องพบเจอ ก็คือการที่ จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก ตามแต่จะเรียกกันไป สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะว่าสภาพจิตของเราไปปรุงแต่ง แล้วหลุดจากอารมณ์ปัจจุบัน ไปเสวย รัก โลภ โกรธ หลง เท่ากับยื่นหัวไปให้กิเลสฟันเอง แล้วก็มาโอดครวญว่า ทุกข์อย่างนั้น ลำบากอย่างนี้
แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เข็ด เพราะว่ากิเลสชักนำไป ให้รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วจะดี ทำแบบนี้แล้วจะเด่น แทนที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อละกิเลส ก็กลายเป็นปฏิบัติธรรมเพื่อสั่งสมกิเลส กอบโกยหาทุกข์ใส่ตัวอยู่ทุกวัน แต่ก็โง่เขลาเบาปัญญาพอ คิดว่ากำลังโกยเอาของดีใส่ตัว ซึ่งความจริงแล้วมีแต่ขี้ทั้งนั้น..!
อาตมาขอยืนยันว่า เท่าที่มีประสบการณ์มา สิ่งที่ครูบาอาจารย์พูดมานั้น พอดี พอเหมาะ พอควรกับสถานการณ์นั้น ๆ แล้ว แต่ว่าพวกเรามักจะไปปรุงแต่งเพิ่มเติม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"กลั่นกรองจิต ด้วยสมาธิภาวนา" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
.
"กลั่นกรองจิต ด้วยสมาธิภาวนา"
" .. การเดินจรงกรม นั่งสมาธิภาวนา "คือการกลั่นกรองหาสิ่งที่เป็นสารคุณในตัวเรา ซึงเป็นงานสำคัญและมีผลเกินคาดยิ่งกว่างานอื่นใด" จึงไม่ยอมให้กิเลสตัณหาอวิชชามาหลอกเล่น ให้เห็นเป็นงานล่อลวงล่มจมป่นปี้ไม่มีชิ้นดี
การกลั่นกรองจิตด้วยสมาธิภาวนา "ก็คือการกลั่นกรองตัวเราออกเป็นสัดเป็นส่วน เพื่อทราบว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม" อันไหนพาให้เกิดทุกข์ อันไหนพาให้เกิดสุข อันไหนจะพาไปนรก อันไหนจะพาไปสวรรค์และอันไหนจะพาไปนิพพาน สิ้นทุกข์ทั้งมวลนั่นเอง .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"ศีล สมาธิ ปัญญา" (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
.
"ศีล สมาธิ ปัญญา"
" .. บุคคลจะพ้นจากโอฆะเหล่านี้ไปได้ "ก็เมื่อมาปฏิบัติตาม ศีล สมาธิ ปัญญานี้เอง" ไม่ใช่ปฏิบัติไปอย่างอื่นแล้วมันจะพ้นไปได้ ไม่มี
ข้อปฏิบัติใด ๆ ในโลกนี้ "นอกเหนือไปจาก ศีล สมาธิ ปัญญาแล้ว ไม่มีข้อปฏิบัติใดที่จะมากำจัดกิเลสดังกล่าวมานี้ให้น้อยเบาบางหรือหมดสิ้นไปจากจิตใจนี้ได้ ไม่มีเลย"
เพราะฉะนั้น "ให้พากันพยายามอย่าท้อถอย เรามันถูกห้วงน้ำ คือกิเลสเหล่านี้ท่วมท้นจิตใจมานับไม่ถ้วนแล้ว" เราลอยคออยู่กลางมหาสมุทรทะเล คือราคะ โทสะ โมหะ เหล่านี้นะ "จิตใจมันล่องลอยอยู่ในกิเลสเหล่านี้มานับชาติไม่ถ้วนแล้วนะ" คิดให้ดี .. "
พระสุธรรมคณาจารย์
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"การรักษาศีล ให้รักษาใจ" หลวงปู่จันศรี จนฺททีโป
.
"การรักษาศีล ให้รักษาใจ"
" .. "การรักษาศีลนั้น รักษาที่ไหน อะไรเป็นศีล" ก็รักษาที่กายวาจา ให้เป็นปกติ กาย วาจา ที่จะเป็นปกติได้ "ก็ต้องอาศัยใจเป็นใหญ่" ใจเป็นหัวหน้า ใจเป็นประธาน "ใจเป็นผู้บัคับบัญชากาย วาจา ให้กระทำอย่างนั้น" .. "
"๑๐๓ โอวาทธรรมคำสอน"
หลวงปู่จันศรี จนฺททีโป -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"การกระทำ คือเหตุ" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
.
"การกระทำ คือเหตุ"
" .. การปฏิบัตินั้นให้พยายามทำ "มันจะสงบหรือไม่สงบก็ช่าง" ปล่อยไว้ก่อน เอาเรื่องเราปฏิบัติเป็นเรื่องแรก "เอาเรื่องเราได้สร้างเหตุนี้แหละ" ถ้าทำแล้วผลจะเป็นอย่างไรก็ได้ เราทำได้แล้วอย่ากลัวว่าจะไม่ได้ผล
มันไม่สงบเราก็ได้ทำ ทีนี้ถ้าเราไม่ทำใครเล่าจะได้ ใครเล่าจะเห็น "คนหานั่นแหละจะเห็น คนกินนี่แหละจะอิ่ม" ของแต่ละสิ่งแต่ละอย่างมันโกหกเราอยู่ สิบครั้งให้มันรู้ก็ยังดีอยู่ "คนเก่ามาโกหกเรื่องเก่า ถ้ารู้จักก็ดีอยู่มันนานเหลีอเกินกว่าจะรู้" มันพยายามมาหลอกลวงเราอยู่นี่
ดังนั้น "ถ้าจะปฏิบัติแล้วให้ตั้งศีล สมาธิ ปัญญา ไว้ในใจเรา" ให้นึกถึงพระรัตนตรัย คือ "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์" เลิกสิ่งทั้งหลายทั้งปวงออกเสีย "การกระทำของเรานี้เองเป็นเหตุ" เกิดขึ้นในภพในชาติหนึ่งจริง ๆ ให้เป็นคนซื่อสัตย์ กระทำไปเถอะ .. "
หลวงปู่ชา สุภัทโท -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
อาบน้ำมนต์ 7 วัด
อาบน้ำมนต์ 7 วัด
ผู้ถาม : การปฏิบัติตามคำคนโบราณที่พูดว่า ถ้าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จสมหวังนั้น เขาบอกว่าเบื้องบนจะช่วย ถ้าเบื้องบนไม่ช่วยแล้วไม่สำเร็จ หนูทำทุกสิ่งทุกอย่างตามคำแนะนำ แต่เบื้องบนเบื้องล่างไม่มีทางช่วยลูกได้เลย
ลูกตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำมนต์สัก 7 วัด เพื่อที่จะได้ช่วยกำจัดสิ่งเลวร้ายของลูก อันนี้จะมีทางเป็นไปได้ไหม และควรจะไปวัดไหนดีเจ้าคะ
หลวงพ่อ : แต่ความจริงน้ำมนต์ 7 วัดไม่ต้องเดินไปหรอกนะ รดวัดเดียวได้ทั้ง 7 วัด
ที่เขาสวดคาถาว่า "อายุวัฒฑโก ธนวัฒฑโก สิริวัฒฑโก ยศวัฒฑโก พลวัฒฑโก วรรณวัฒฑโก สุขวัฒฑโก"
บทนี้สะเดาะห์เคราะห์ใหญ่ใน มงคลจักรวาลน้อย
ในสมัยโบราณท่านพูดแบบมีปัญหา ถ้าเคราะห์ร้ายให้รดน้ำมนต์ 7 วัฒฑ์
คนที่ไม่เข้าใจก็เดินจนครบ 7 วัด แต่ความจริงเขาเสกน้ำมนต์ด้วยบทนี้ รดขันเดียวก็ครบ 7 วัฒฑ์ ใช่ไหม
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 176 เดือนพฤศจิกายน 2538 หน้า 84) -
จิตนอก-จิตใน / ดีนอก-ดีใน ( หลวงปู่สรวง ปริสุทโธ)
จิตนอก-จิตใน / ดีนอก-ดีใน ( หลวงปู่สรวง ปริสุทโธ)
---------------
ที่มา https://www.youtube.com/@koythanyarat1279 -
อานิสงส์ถือกรรมบท 10 แข็งกว่าการถือศีล 8
อานิสงส์ถือกรรมบท 10 แข็งกว่าการถือศีล 8
ผู้ถาม : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกตั้งสัจจะไว้กับพระที่ฝั่งธนบุรีว่าจะรักษาศีล 8 ชั่วชีวิต ลูกก็ทำมาโดยตลอด บัดนี้ลูกอายุมากแล้วเพราะทางกระเพาะลำไส้ไม่ดี หมอบอกว่าถ้าขาดอาหารตอนเย็นแล้วจะไปไม่รอด
จะขอเรียนถามหลวงพ่อว่าจะคืนสัจจะที่ซอยสายลมกับหลวงพ่อ แล้วให้หลวงพ่อบอกพระพุทธเจ้าอโหสิกรรมได้หรือเปล่าเจ้าคะ ?
หลวงพ่อ : เออ....เอาหนักแฮะ เอาอย่างนี้ซิ ย้ายไปถือกรรมบท 10 กินข้าวเย็นได้ ดีกว่าเยอะ เป็นทั้งศีลทั้งธรรม ได้ 2 อย่าง
ผู้ถาม : แล้วอานิสงส์คงไม่ต่างกัน ใช่ไหมครับ ?
หลวงพ่อ : อานิสงส์แข็งกว่าศีล 8 อ้าวจริงๆนะ ศีล 8 เราไม่ค่อยจริงกันนัก แต่ถ้าปรกติทุกวันก็ดี นี่มันปรกติไม่ได้นี่ ต้องเป็นบางเวลา ใช่ไหม
กรรมบท 10 เขามีทั้งศีลทั้งธรรม มโนกรรมนี่เป็นธรรม แล้วสังเกตุดูเป็นการตัดกิเลสได้ง่าย ฝึกตัดกิเลสไปในตัวเสร็จ
ผู้ถาม : เกี่ยวกับข้อไม่กินข้าวนี่ เวลาไปกินเลี้ยงมันเผลอไผลไปตักเข้า กว่าจะรู้ตัวก็เข้าไปครึ่งท้องแล้วแต่ไม่เจตนานะครับ
หลวงพ่อ : ความจริงถ้าเรารักษาศีล 8 ไม่ขาดนะ ที่เราสมาทานมัน 9 ข้อ "นัจจะคี" กับ "มาลาคันธะ"... -
"ใจที่สงบเย็น ทำให้ร้ายกลายเป็นดี" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ)
.
"ใจที่สงบเย็น ทำให้ร้ายกลายเป็นดี"
" .. ที่ท่านสอนให้ท่อง "พุทโธ" ก็ตาม
ให้ดู "ลมหายใจเข้าออก" ก็ตาม
นั่นคือการสอนเพื่อให้ใจ ไม่วุ่นวาย ซัดส่าย
เป็นวิธีที่จะให้ผลแท้จริงอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากอย่างใด
ให้มั่นใจว่า "การทำให้ความยากลำบากนั่นคลี่คลาย
จะต้องกระทำเมื่อจิตใจสงบเยือกเย็นเท่านั้น"
ใจที่เร่าร้อน ไม่อาจนึกคิดให้ปลอดโปร่งได้
"ใจที่เร่าร้อน ไม่อาจช่วยให้ร้ายกลายเป็นดีได้" .. "
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวขิรญาณสังวร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"ประโยชน์ของสมาธิ" (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)
.
"ประโยชน์ของสมาธิ"
" .. การที่เราทำสมาธิก็ "เหมือนการสะสมเมล็ดพันธุผักไว้" เมื่อมันแก่จัดพอถูกน้ำเข้ามันก็จะแตกกิ่งก้านสาขาเป็นต้นเป็นดอก เป็นใบ
เรามีสมาธิเป็นพื้นฐานสั่งสมไว้ "พิจารณาก็เกิดปัญญา รอบรู้" ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งด้านโลกด้านธรรมได้ง่าย "สอนจิตฝึกใจให้รู้ว่า อะไรเป็นธาตุ ขันธ์ อายตนะ" ฯลฯ ทุก ๆ ส่วนของร่างกาย "จนเราไม่ต้องกลัวแก่กลัวเจ็บกลัวตาย อีกต่อไป" .. "
ท่านพ่อลี ธัมมธโร -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
"เครื่องวัดความดี" (หลวงป่เทสก์ เทสรังสี)
.
"เครื่องวัดความดี"
" .. "อันความดีที่ว่านี้ถ้าทำอะไรลงไปแล้วคนชั่วสรรเสริญ อย่าไปเข้าใจว่าเป็นของดี" คนดีสรรเสิญเราจึงค่อยเข้าใจว่าเป็นของดี
"คนดี เป็นคนชนิดใด คนดี ก็คือคนมีเหตุมีผล ที่เรียกว่าความดี ดีอย่างไร ความดีที่เราทำนั่นไม่เปียดเปียนตน ไม่ทำไห้เสียผลประโยชน์ทั้งของตนและคนอื่น" คือไม่เป็นเครื่องกระทบกระเทือนทั้งตนและคนอื่น จึงจะเรียกว่าดี
ทำอะไรแม้จะดีแสนดี ก็ตามแต่มันเป็นเครื่องกระทบกระเทือนคนอี่นแล้ว ความดีอันนั้นใช้ไม่ได้ ไม่ใช่ของดี นี่เป็นเครื่องวัด ของดีของชั่ว
"เมื่อเข้าใจแล้วรู้แล้วก็มาวัดตัวของเราใจของเราดู แล้วมาวัดผลที่ทำนั่นอีก คือว่าไม่กระทบกระเทือนตนเอง ไม่ทำให้ตนและคนอื่นเดือดร้อนด้วย" จึงจะเรียกว่าตี .. "
"คุณค่าและประโยชน์ของพระพุทธศาสนา"
หลวงป่เทสก์ เทสรังสี -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
บันทึกการเดินทาง "สวรรค์บนดิน..ถิ่นกำเนิดเผ่าไต" ณ ประเทศจีน
บันทึกการเดินทาง "สวรรค์บนดิน..ถิ่นกำเนิดเผ่าไต"
ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เวลา ๐๖.๓๔ น. มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
จอดรถแล้วเดินไปครับ
กราบพระเอาฤกษ์เอาชัยก่อน
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
น้องการ์ตูน หัวหน้าทัวร์ครั้งนี้
มาถึงก็แจกเอกสาร ตรวจสอบจำนวนคน
ซองเอกสาร
ขาด "หม่าม้า" ที่ตรงเวลาอยู่คนเดียว..!
เริ่ม Check In
เวลา ๑๐.๒๐ น. เรียกให้ไปยืนรอ..!
ทำไมตัวเล็กแท้วะ ? หรือมีคนตัวใหญ่กว่า ?
ก่อนเหินฟ้า..! -
"ผู้มีทานประดับตน" (หลวงปู่มั่น ภูริท้ตโต)
.
"ผู้มีทานประดับตน"
" .. "ความดีที่ได้จากทานนั้นเป็นสิ่งตอบแทนที่เจ้าของทานได้รับอยู่โดยดีเท่านั้น อภัยทานควรให้แก่กัน" เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งผิดพลาดหรือล่วงเกิน "คนมีทาน .. ย่อมเป็นผู้สง่าผ่าเผยและเด่นในปวงชน" เป็นที่เคารพรักในหมู่ชน "จะตกอยู่ทิศใด ย่อมไม่อดอยากขาดแคลน จะมีสิ่งหรือผู้อุปถัมภ์จนได้" ไม่อับจนทนทุกข์
"ผู้มีทานประดับตน" ย่อมไม่เป็นคนล้าสมัย "บุคคลทุกชั้นไม่รังเกียจ ผู้มีทานย่อมเป็นผู้อบอุ่น หนุนโลกให้ชุ่มเย็น" การเสียสละจึงเป็นเครื่องคํ้าจุนหนุนโลก "การสงเคราะห์กันทำให้โลกมีความหมายตลอดไป" ไม่เป็นโลกที่ไร้ชาติขาดกระเจิงเหลือแต่ซากแผ่นดินไม่แห้งแล้ง แข่งกับทุกข์ตลอดไป .. "
"มุตโตทัย"
หลวงปู่มั่น ภูริท้ตโต -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
หน้า 17 ของ 414