คลังเรื่องเด่น
-
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
พระสารีบุตรประกาศความเลื่อมใสของตนในพระพุทธเจ้า | สัมปสาทนียสูตร
******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๗ -
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
"บุญฤทธิ์" คืออะไร อานิสงส์ที่เกิดจากบุญฤทธิ์ : หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
*******************************
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
ข่าวชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน (พระอาจารย์เล็ก) เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗
ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
เครือข่ายชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
ขอรวบรวมข่าวกิจกรรมการดำเนินงานของ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก)
เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เพื่อให้ทุกท่านได้โมทนาบุญในการทำงานของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
และเพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษารูปแบบการดำเนินงานของพระอาจารย์
ซึ่งท่านเป็นต้นแบบการทำงานของ ชุมชนคุณธรรมออนไลน์ Palungjit.org
ข่าวการดำเนินงาน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
หยุด!! ปั้นเด็ก เป็นผู้วิเศษ l ไม่รู้ต้องรู้
******************
ที่มา https://www.youtube.com/@ddtalkofficial -
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
พระวักกลิเถระ | ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้น้อมไปในศรัทธา (สัทธาธิมุติ)
อนุโมทนา ที่มา https://www.youtube.com/@Uttayarndham -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม
ความกลัวตายเป็นธรรมดาของสัตว์ทุกรูปทุกนาม บาลีบอกว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง
อาหาระ คืออาหาร , นิททัง คือการนอน , ภะยะ คือความกลัว , เมถุนะ คือการเสพกาม ท่านบอกว่า ๔ อย่างนี้เป็นปกติของสัตว์ทุกรูปทุกนาม สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง สามัญญะ ก็คือ ปกติธรรมดา
ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นที่ให้เกิดความต่างขึ้นได้ ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา มีแต่ธรรมเท่านั้นที่ทำให้คนต่างออกไปจากสัตว์
เพราะฉะนั้น..เรื่องความกลัวถือเป็นเรื่องปกติ แต่ทำอย่างไรที่จะไม่ให้กลัวจนขาดสติ ถ้ามานึกอีกที น่าขายหน้ามากเลย เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงมา ๓๐-๔๐ ปี ถึงเวลามัจจุราชยื่นหน้ามาหน่อยเดียว กลัวจนหัวหด ต้องประเภทยื่นหน้ามาก็กระโดดขี่คอ ไปไหนไปเลย อยากไปนานแล้ว ทำไมมาช้าจัง..!
คือเรายังไม่เห็นธรรมดา ถ้าเห็นธรรมดาว่าทุกรูปทุกนาม ต้องป่วย ต้องตายเป็นปกติ แล้วทำใจยอมรับได้ว่าปกติของสัตว์ ของมนุษย์เป็นอย่างนี้เอง ถ้าทำอย่างนั้นได้ ความตายไม่ใช่ของน่ากลัว ความเจ็บป่วย ความเจ็บปวดก็ไม่ใช่ของน่ากลัว ถึงเวลาก็ดูแลรักษาไปตามมารยาท ร่างกายนี้เป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม... -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เร่งรัดทำความดีให้มากที่สุด เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทาง
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เมื่อวันที่ ๔ ก.ค. ๒๕๖๖
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ มีข่าวที่น่าเสียใจของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็คือหลวงพ่อจอน (พระอธิการพรพจน์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดดงโคร่ง มรณภาพด้วยโรคมะเร็ง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นท่านไปผ่าตัดและให้คีโม บอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ย้ำแล้วย้ำอีกกับญาติโยมหลายครั้งว่า เรื่องของมะเร็ง ถ้าหากว่าพูดกันตามแบบของเรา ไม่ใช่แบบของหมอ ก็คือ "มะเร็งนั้นมีตัว" ก็แปลว่าก้อนมะเร็งนั้นเป็นรัง เหมือนกับรังมดหรือว่ารังผึ้ง ถึงเวลาเราไปทำลายรังมดหรือว่ารังผึ้ง มดหรือผึ้งนั้นก็จะแตกฮือออกไป ก็แปลว่าถ้าไม่ได้ทำด้วยความระมัดระวัง จนสามารถกำจัดเชื้อได้หมดจริง ๆ โอกาสตายมีสูงมาก..! เพราะว่าเมื่อเชื้อแตกฮือออกไปทั่วตัว ก็กลายเป็นว่ามีการแพร่ระบาดหนักยิ่งขึ้น
เรื่องพวกนี้พูดไปแล้วหมอสมัยใหม่มักจะไม่เชื่อ เนื่องเพราะว่าหมอสมัยใหม่ไม่มีความเข้าใจ แม้กระทั่งเรื่องปกติ อย่างเช่นธาตุภายในร่างกายของเรา การเจ็บไข้ได้ป่วยคือธาตุใดธาตุหนึ่งบกพร่อง หมอสมัยใหม่ไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้มา ก็จ่ายยาให้มาตามอาการ... -
"มีฤทธิ์เป็นผู้วิเศษ" แต่เอากิเลสออกไม่ได้ (อย่านำฌานไปใช้ทางที่ผิด) (วิธีอธิษฐาน) : หลวงปู่สรวง
"มีฤทธิ์เป็นผู้วิเศษ" แต่เอากิเลสออกไม่ได้ (อย่านำฌานไปใช้ทางที่ผิด) (วิธีอธิษฐาน) : หลวงปู่สรวง
9999999999999999999999999999999
ที่มา https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน
สวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน
"ลูกสวดมนต์ไม่ค่อยได้ ได้แต่นั่งภาวนา"
ภาษิตพระอรหันต์องค์หนึ่งท่านพูดไว้ เวลาที่ฉันไปหาท่าน ท่านบอกว่าไอ้สวดมนต์น่ะเป็นยาทานะลูกนะ ภาวนาเป็นยากิน
สวดมนต์ท่านบอกว่าเป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน การสวดมนต์ไม่ต้องสวดมากหรอก ว่า นะโม พุทธัง ธัมมัง สังฆัง เสร็จ อิติปิโส จบใช้ได้เลย ต่อไปเริ่มภาวนาเลย แค่นั้นพอแล้ว
"สวดจนเหนื่อยบางทีไม่มีเสียงจะสวด"
ก็ล่อกันเต็มที่
"ภาวนาพุทโธ นั่งทำวัตรกับเขาด้วย"
ใช่ๆ เราสวดไม่ได้เราก็ภาวนาไปเลย แล้วก็ถือเสียงสวดนั้นแหละเป็นสรณะไปเลย ถือว่าเสียงสวดมนต์ เราสวดไม่ได้ใช่ไหม ถ้าภาวนาเราจับเสียงสวดนั่นแหละ จับเอาจิตคล้อยตามไปเลย ถือเป็นสมาธิในนั้นเหมือนกัน
เมื่อฉันเด็กๆ คนแก่สวดมนต์ไม่อยากให้จบ ชอบใจอยู่บท แต่ว่าไม่เหมือนแก แต่เมื่อเด็กๆว่าได้ อะไรนะ อิมัสสมิง มงคลจักรวาฬทั้งแปดทิศ (หัวเราะ) แล้วก็ว่าพร้อมฟังเพราะจริงๆ ไม่มีเครื่องบันทึกเสียงสมัยนั้น โยมเสงี่ยมแกยังว่าได้เลย
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 149 กรกฏาคม 2536 หน้า 14) -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
เรื่อง อสุรกาย
เรื่อง อสุรกาย
อสุร เขาแปลว่า ไม่กล้า ใช่ไหม ทีนี้เห็นเราหนี หลบ ถ้ายิ่งรู้เราเห็นแล้วหนีไกลเลย ผีที่น่ากลัวคือ สัมภเวสี ไม่ใช่อสุรกาย คนละพวกนะ คนละพวกกัน
อสุรกายนี่มันเข้าทุกบ้าน เทวดาที่รักษาบ้านเขาไม่ว่าเพราะอะไรรู้ไหม เขาไปกินเศษอาหาร เศษอาหารที่เขาทิ้งแล้วมันหิวใช่ไหม เขาทิ้งแล้วของบูดของเน่าเศษๆ มันก็กินตามเรื่องตามราว เดินหากินเรื่อยไป
ฉะนั้น อสุรกายที่เข้าไปบ้านใคร ภูมิเทวดาที่รักษาบ้านนั้นเขาไม่ว่า มันไม่ทำอะไรใครนี่กินแล้วก็ไปของมัน มันไม่หลอกคน พวกนี้มันกลัวคนแทนที่จะหลอกนะกลัว จึงมีนามว่า อสุรกาย
อสุรกาย นี่เขาแปลว่า ไม่กล้า
สุรา นี่แปลว่า กล้า ใช่ไหม สุระ หรือ สุรานี่เขาแปลว่า กล้า
สำหรับสัมภเวสี ความจริงปกติของมันนี่ก็ไม่น่ากลัว มันก็หิวเหมือนกันนะ
แต่เจ้าพวกนี้บางทีถ้าเห็นว่าเรามีบุญพอที่จะช่วยเขาได้ เขาจะแสดงตัวให้ปรากฏแสดงให้ปรากฏ ถ้าเราไม่เห็น บางทีก็ทุบตรงนั้นบ้าง ตีตรงนี้บ้าง ตุ๊บตั้บๆไปให้เรารู้ใช่ไหม ก็อุทิศส่วนกุศลให้
ทีนี้พวกเราก็แน่เหมือนกัน เขามาขอแบบนั้นด่าไปส่งเดชเลย หาว่าหลอก ความจริงไม่ใช่หลอก เขามาขอ เขาขอได้เฉพาะคนที่มีบุญพอจะให้เขาได้นะ... -
พระโสดาบันแต่งงานได้ไหม
พระโสดาบันแต่งงานได้ไหม
ผู้ถาม : สมมุติว่าพระโสดาบันเวลาไปแต่งงาน อยู่กับลูก อยู่กับผัว พระโสดาบันจะลดไหมเจ้าคะ?
หลวงพ่อ : ไม่ลด แต่งงานได้ผัวใหม่อีกคน ไขลูกมาทีละหนึ่งๆ ดีไม่ดี หรือ แฝดดกๆ ยิ่งมากใหญ่ ไม่ลด แต่เขามีแค่ศีล 5 คุม พระโสดาบันกับพระสกิทาคามียังแต่งงาน คนที่แต่งงานแล้วไม่ต้องเลิกกัน คนที่ยังไม่แต่งงานอยากแต่งงานก็แต่งได้ อันนี้ไม่ห้าม
อย่าง พระนางวิสาขา ท่านเป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุ 7 ปี พออายุ 16 ปีแต่งงาน ท่านมีลูก 20 คน
อย่างเมีย พรานกุกกุฏมิตร ท่านเป็นพระโสดาบันตั้งแต่ 7 ปี แต่งงานแล้วก็มีลูก 7 คน ที่ถามนี่คงจะสงสัยว่าพระโสดาบันจะแต่งงานได้ไหม ใช่ไหม
คนที่จะแต่งงานได้คือ
1. ปุถุชน
2. สาธุชน
3. กัลยาณชน
4. พระโสดาบัน
5. พระสกิทาคามี
รักษาแค่ศีล 5 ไม่เป็นไร ศีล 5 ไม่ได้ห้ามแต่งงาน
ผู้ถาม : พอเป็นๆ อยู่นี้ยังไม่ได้พระโสดาบันแต่ก็มาถวายสังฆทานหลวงพ่อเป็นประจำทุกเดือนและอธิษฐานว่า
"เมื่อลมหายใจจะขาดขอให้ได้ไปนิพพาน" อย่างนี้จะได้ไหมครับ?
หลวงพ่อ : ได้แน่! แต่อย่ากลับไปตีหัวปลานะ อยากไปนิพพานอย่าขาดศีล 5
ถ้าศีล 5 ไม่ขาด ก็เป็นพระโสดาบันอยู่ในตัวแล้ว... -
วิญญาณสิง
วิญญาณสิง
ผู้ถาม : หากที่ไหนเกิดอุปัทวเหตุมีคนตายมาก สถานที่แห่งนั้น จะมีวิญญาณสิงอยู่ และมีการตายแทนทุกที วิญญาณเก่าจะได้ไปเกิดจริงหรือเปล่าคะ?
หลวงพ่อ : อย่างนั้นล่ะผีทะเลาะกัน มันอยู่นานๆ ก็เบียดกัน ตีกันอยู่นั่นแหละ ความจริงไม่เป็นอย่างนั้นนะ คือวิญญาณคนหรือสัตว์ที่ตายไปแล้วไม่อยู่ที่นั่น มันต้องมีที่ไป คือถ้าตายไปแล้ว
ถ้าอารมณ์เป็นกุศลก็ไปสู่สวรรค์ เป็นต้น ถ้าอารมณ์เป็นบาปในเวลานั้นก็ไปสู่นรก เป็นต้น มันไม่อยู่ตรงนั้นหรอก
ถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์บุญ ไม่ถึงเกณฑ์บาป เป็นสัมภเวสีก็ต้องไปที่อื่น
ความจริงถ้าจะมีคนตายซ้ำที่ตรงนั้น ก็เป็นกฎของกรรม คนนั้นจะต้องตายที่นั่น คือว่าผีไม่อยู่ตรงนั้น ก็คงจะต้องถกเถียงกันอีกว่า เอ๊ะ! ที่ตรงนั้นทำไมมีคนตายกันบ่อยนะ
ก็ต้องตอบตามหลวงพ่อว่า ถึงว่านะที่เขาจะต้องตายตรงนั้น
เรื่องนี้เคยมีคนเล่าให้ฟัง มีคนๆ หนึ่งแขวนพระเครื่องของพระชื่อดังองค์หนึ่ง เขาบอกว่าปืนยิงไม่เข้า แต่วันหนึ่งเกิดถูกยิงตายก็มีคนสงสัยไปถามหลวงพ่อองค์นั้น ท่านก็บอกว่า ลองพลิกศพให้ห่างจากที่ตรงนั้นซิ ปรากฏว่าปืนยิงไม่เข้าจริงๆ แสดงว่าเขาถึงที่ตายตรงนั้น... -
ฤกษ์การแต่งงาน
ฤกษ์การแต่งงาน
ผู้ถาม : องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เช่นไร ในเรื่องการแต่งงาน ขอหลวงพ่อช่วยโปรดอธิบายด้วยครับ และฤกษ์ดีของพระพุทธเจ้าให้ทำเช่นไร จึงจะเป็นมงคลครับ ?
หลวงพ่อ : เรื่องฤกษ์การแต่งงาน พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัส ท่านได้แต่เพียงแนะนำผู้แต่งงานว่า..
สามีควรจะปฏิบัติต่อภรรยา คือ
ยกย่องนับถือว่าเป็นภรรยา ไม่เหยียดหยามดูหมิ่นภรรยา ไม่นอกใจภรรยา คือ เจ้าชู้มอบความเป็นใหญ่ในบ้านให้ แต่คอยเตือนเมื่อเธอเผลอตัว ให้เครื่องแต่งตัวตามฐานะ ผู้หญิงชอบ ยกย่องและรางวัล แม้มีค่าน้อยก็พอใจ
ถ้าทำได้อย่างนี้ ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน
ส่วนภรรยาต้องปฏิบัติต่อสามี คือ
จัดงานดี ต้องดีตามที่ตนเห็นว่าดี และเป็นความดีที่มีความพอใจร่วมกันทั้งสามี และผู้ใหญ่และญาติโยมของสามีด้วย ถ้าดีคนเดียวประเดี๋ยวพัง สงเคราะห์คนข้างเคียงสามีดี ไม่เจ้าชู้นอกใจสามี รักษาทรัพย์ดี รู้จักเก็บหอมรอมริบไม่สุรุ่ยสุร่าย และขยันไม่เกียจคร้านในการงานทุกอย่าง
ถ้าสามีภรรยาคู่ใดทำได้อย่างนี้ ฤกษ์ดีตลอดเวลา แต่งตามพิธีหรือแต่งกันเองก็ฤกษ์ดี ไม่ต้องไปหาหมอให้ฤกษ์หรอกนะ
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 192 เดือนมีนาคม 2540 หน้า 98) -
ผีปลวก
ผีปลวก
หลวงพ่อ : มีเจ๊กคนหนึ่งแกเป็นช่างทอง แล้วก็เรื่องมีอย่างนี้ มีวัดอยู่วัดหนึ่งที่แกเห็นว่าทรุดโทรมมาก แกก็ไปช่วยบูรณะ บูรณะจนดีแล้วก็วัดนั้นไม่มีเมรุ ก็เลยช่วยสร้างเมรุ
ตอนช่วยสร้างเมรุนี่ ก็ต้องบุกป่าไผ่ใช่ไหม แกก็สั่งรถแทรกเตอร์ไปบุกป่าไผ่ ก็ไปบุกปลวกเข้า ก็ต้องเจอะหัวปลวกเป็นหัวปลวกใหญ่ พอบุกเสร็จเรียบร้อยแล้ว แกกลับมาบ้าน ไม่พูดไม่จานอนเฉย ข้าวปลาไม่กิน ไม่กินอะไรเลย
ต่อมาสัก 3-4 วันผ่านไป แล้วก็ภรรยาแกให้ลูก 2 คนเป็นคู่แฝดอายุสัก 10 ปีได้มั้ง เดินมาหา ถามทำไม บอกแม่ให้หลวงน้าไปที่บ้านสักหน่อย ตอนนั้นหลายปีแล้วนะ ถามทำไม บอกเตี่ยไม่สบาย ไอ้เราก็ไป พอไปแล้วแกบอกว่าไม่สบาย เราก็หมดท่าเหมือนกัน ไม่ใช่หมอนี่ อาตมามีหน้าที่เป็นหมอดูอย่างเดียว นั่งดูเฉยๆ ใช่ไหม ไม่ใช่หมอรักษา
เขาถามทำไม ก็พูดไม่ออกบอกเอาอย่างนี้แล้วกัน ขอน้ำสักขัน ทำน้ำมนต์ จะเอามาทำน้ำมนต์ ไม่ใช่อะไรเอามาทำไปเฉื่อยๆอย่างนั้นแหละ ไม่ใช่หมออยู่แล้ว ก็พอดีเขาจุดธูปจะทำน้ำมนต์
ตอนจะทำน้ำมนต์ บังเอิญจิตเป็นสมาธิพอดี ก็มีพวกที่อยู่ที่ปลวก มันไม่ใช่สัตว์ปลวก มันเป็น "ผีปลวก"
ลักษณะของผีปลวก
ผีปลวกนี่ตัวใหญ่ๆ... -
การโอ้อวดใดๆนำมาซึ่งความเสื่อม" (จะทรงอภิญญาต้องมีสมาธิแก่กล้าฌาน 4 สมบูรณ์ ) หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
"การโอ้อวดใดๆนำมาซึ่งความเสื่อม"
(จะทรงอภิญญาต้องมีสมาธิแก่กล้าฌาน 4 สมบูรณ์ ) /หลวงปู่สรวง ปริสุทฺโธ
ที่มา
https://www.youtube.com/@LokuttaraDhamma -
เทศน์วันวิสาขบูชา วันพุธที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
เทศน์วันวิสาขบูชา วันพุธที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติ ฯ
บัดนี้ อาตมภาพจักแสดงพระธรรมเทศนาในอัปปมาทกถา เพื่อเป็นเครื่องประดับสติปัญญา เพิ่มพูนบารมี เสริมสร้างกุศลบุญราศีแก่ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันวิสาขบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้
ญาติโยมทั้งหลาย วันวิสาขบูชานั้น เป็นที่รู้ทั่วกันว่า เป็นวันประสูติ คือ วันเกิด วันตรัสรู้ คือ วันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรารู้ทั่วถ้วนถึงธรรมทั้งปวง และวันปรินิพพาน คือ วันที่พระองค์ท่านเสด็จดับขันธปรินิพพาน หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงไปแล้ว
ญาติโยมทั้งหลาย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น เป็น ๑ ใน ๔ สิ่งที่เกิดได้ยากที่สุดในโลกนี้ ก็คือ การเกิดมาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ต้องบำเพ็ญบารมีมานับกัปกัลป์อนันตชาติ ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะ มีปัญญามาก บรรลุธรรมได้เร็วที่สุด อย่างน้อยก็ต้องบำเพ็ญบารมีมา ๔ อสงไขย กับ ๑... -
ชาวเลโซโทนั่งไหว้ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 ซาบซึ้งพระเมตตา แผ่ไพศาลถึงแอฟริกา
ชาวเลโซโทนั่งไหว้ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 ซาบซึ้งพระเมตตา แผ่ไพศาลถึงแอฟริกา
ที่มา https://www.youtube.com/@ThailandLOVERR -
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ -
ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม ก็จะเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้
เรื่องที่เราอธิษฐานไว้ บางอย่างก็เป็นสิ่งที่อันตราย ฟังแล้วแปลก ๆ อย่างเช่น การขอเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบัน ถ้าทำไม่สมกับที่อธิษฐานไว้ ขอยืนยันว่าอันตรายมาก ในเมื่ออธิษฐานขอจะไปพระนิพพานชาตินี้ ตัวอธิษฐานบารมีจะค้ำอยู่ จะเจ็บป่วยทรมานหรือโดนรถ ๑๘ ทับยับเยินขนาดไหนก็ยังตายไม่ได้หรอก ต้องตัดร่างกายนี้ให้ได้เพื่อไปพระนิพพานก่อน เนื่องจากว่าเราไปตั้งเป้าเอาไว้แล้ว
ลองนึกดูว่า ถ้ารถยนต์วิ่งแค่สูบเดียวแถมยางแตกอีก ๔ ล้อ จะไปถึงจุดหมายปลายทางอีท่าไหน ก็ต้องลากกันถูลู่ถูกังไป ดังนั้น..ท่านที่อธิษฐานขอพระนิพพานในชาติปัจจุบัน บางท่านสถานการณ์ครอบครัวบีบคั้นมาก แทบจะน้ำตาร่วงอยู่ทุกวัน หารู้ไม่ว่าเป็นเพราะเราทำเอง เพราะบุคคลที่ไม่เห็นทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม บุคคลที่ไม่เห็นธรรมจะเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้ กลายเป็นเราซ้ำเติมตัวเองให้ลำบาก
แล้วทำอย่างไรถึงจะแก้ไขได้ ? ก็ต้องพิจารณาให้เห็นจริงว่าการเกิดมานี้มีแต่ความทุกข์ ร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์ โลกนี้มีแต่ความทุกข์ ไม่มีอะไรที่อยากได้ใคร่ดี มีความปรารถนาอย่างเดียวคือหลุดพ้นจากกองทุกข์เหล่านี้ไปสู่พระนิพพาน
พิจารณาให้มั่นคง มั่นใจ... -
ต้องการธรรมะปลอบใจ
ต้องการธรรมะปลอบใจ
ผู้ถาม : ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อ ขอธรรมะหน่อย พ่อผัวรถชนตาย ต่อมาผัวถูกรถชนตาย อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่าจะมีธรรมะอะไรสำหรับกรอกจิตกรอกใจในยามนี้บ้างคะ?
หลวงพ่อ : ทุกข์จะกรอกใครล่ะ?
ผู้ถาม : กรอกคนเป็นซิครับ
หลวงพ่อ : กรอกคนเป็น คนเป็นจะรับหรือเปล่า ธรรมะก็ให้คิดว่าความตายนี้เป็นของธรรมดา เกิด แก่ เจ็บ ตาย อันนี้เขาได้ยินอยู่เสมอแล้วนี่นา ท่าจะรับไม่ไหว
ทางที่ดีมีทางเดียว เรื่องตัวไม่ให้เป็นอย่างนั้น คือปล่อยสัตว์จะได้อภัยทาน
จะบอกว่าอย่าเสียใจไปเลย อันนี้เป็นไปไม่ได้ คนที่ไม่เสียใจในขั้นนี้ก็ต้องเป็นพระอนาคามี ถ้ายังไม่ถึงอนาคามียังร้องไห้อยู่ พระโสดาบัน สกิทาคา ยังร้องไห้กันอยู่ โสดาดูเหมือนจะร้องไห้แบบมาราธอน แกไม่ร้องรวดเดียว แกร้องติดต่อกันเรื่อย ถ้าใครพูดถึงเป็นร้องไห้อยู่ พระโสดายังร้องไห้ สกิทาคาก็ยังมีแต่เบามากกว่าพระโสดาบันหน่อย ถ้าไม่มีการร้องไห้จริงก็ถึงอนาคามี แต่ความอ่อนไหวในจิตยังมีอยู่ แต่ไม่ออกมาข้างนอก อนาคามีนี่ ถ้าหากจะไม่หวั่นไหวจริงๆคืออรหันต์ เป็นไปตามขั้น
ถ้าหากเราจะไปแนะนำเรื่องธรรมะจริงๆ ความตายเป็นของธรรมดา ไปไม่รอดหรอก...
หน้า 16 ของ 414