**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Lo_olLo, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,971
    ค่าพลัง:
    +12,507
    วิชาธาตุกรณีย์
    จะ ภะ กะ สะ
    *********************

    (เล่าสู่กันฟังครับ เผื่อขอ อ.บุญเลิศสร้างพระสูตรนี้
    แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขอนะครับ)

    41dd53a03351dd2c.jpg
    พระพิมพ์มารวิชัย จะภะกะสะ
    สร้างในสมัยพระเมืองแก้วกษัตริย์ล้านนา

    ......คาถา จะ ภะ กะ สะ (บางท่านเรียกธาตุพระกรณีย์) ปรากฏในจารึกคาถาหัวใจพระสูตร ซึ่งจารึกด้วยอักษรล้านนาเป็นภาษาบาลี พบครั้งแรกที่วัดส้มสุกจังหวัดเชียงใหม่ บนพระพิมพ์มารวิชัย คาดว่าสร้างในสมัยพระเมืองแก้วกษัตริย์ล้านนา ราวๆ พ.ศ.2038 และค้นพบอีกครั้งบนแผ่นทองคำ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อายุราวพุทธศตวรรษที่ 20 พบที่จังหวัดสุโขทัย คาถาบทนี้เรียกว่า คาถากาสลัก หรือหัวใจคาถากาสลัก คือ จะ ภะ กะ สะ โดยจารึกดังกล่าวเป็นคำย่อมาจากคำสอนพระพุทธเจ้าเรื่อง "มงคลสูตร" โดยในคัมภีร์วชิรสารัตถสังคหะ รจนาโดยพระรัตนปัญญามหาเถระผู้พำนักอยู่วัดป่าแดง เมืองนัพพีสี (เชียงใหม่) ได้ขยายความไว้หัวใจมงคลสูตรนี้ มีหัวใจคาถาตามพระบาลีว่า

    จะ ย่อมาจาก จะชะ ทุชชะนะสังสัคคัง จงหลีกเลี่ยงการคบคนพาล
    ภะ ย่อมาจาก ภะชะ สาธุสะมาคะมัง จงคบหาสมาคมกับคนดี
    กะ ย่อมาจาก กะระ ปุญฺญมะโหรัตตัง จงทำความดีทุกวัน ทุกคืน ทุกลมหายใจ
    สะ ย่อมาจาก สะระ นิจจะมะนิจจะตัง จงระลึกถึงความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอนของสิ่งทั้งปวงตามธรรมชามติ

    *************************************

    thumbnail_FB_IMG_1751864960066.jpg
    ...วันนี้ครับ 7/7/2568 ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าพบท่านอาจารย์บุญเลิศ ที่สำนักงานบ้านพักของท่านที่ อ.ภูเรือ ซึ่งตอนที่ผู้เขียนไปถึง ท่านกำลังให้คณะลูกศิษย์ลูกหาของท่าน(เข้าใจว่าหน้าจะทำงานที่กรมศิลปากร) ตรวจสอบและชำระหนังสือคัมภีร์ใบลานต่างๆของท่าน ที่ท่านเก็บสะสมไว้ที่ได้รับสืบทอดมาจากครูบาอาจารย์ ในระหว่างที่ท่านปล่อยให้ลูกศิษย์ลูกหาท่านตรวจสอบคำภีร์อยู่นั้น ท่านก็หันมาคุยกับผู้เขียนครับว่า "ตำราบางเล่มนี้อายุมากกว่า 200 ปีนะสมัยอยุธยาโน่นเลย"
    FB_IMG_1751864972538.jpg

    1118.jpg
    ....แล้วสักพักท่านอาจารย์บุญเลิศก็หยิบ "บันทึกเล่มหนึ่งที่ท่านได้คัดลอกถอดมาจากคัมภีร์ใบลานอีกที" ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า "ที่ท่านบันทึกไว้นี้เรียกยันต์อะไรครับ" ท่านบอกว่า "ยันต์กาสลัก" แต่สมัยต่อมาครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า "คาถาธาตุกรณีย์" นั้นแหละ อันเดียวกัน

    ....ผู้เขียนเรียนสอบถามท่านต่อครับว่า "แล้วแปลว่าอะไรครับ" ท่านกรุณาอธิบายให้ผู้เขียนฟังว่า "คาถานี้แต่งเป็นกลบท แต่ละบทขึ้นต้นด้วย 2 พยางค์ เสียงสั้นซ้ำกัน 2 ครั้ง เหมือนกาใช้ปากจิกอย่างว่องไวลงไปบนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าคิดไม่ออกให้คิดถึงเครื่องพิมพ์ดีดนั้นแหละ เหมือนกิริยาปากของอีกาจิกลงไปเป็นอย่างเดียวกับที่เราใช้ปากกาเขียนหนังสือ คือ “สัก” ลงไป นั่นคือ “กาสัก” แล้วแผลงเป็น “กาสลัก” เป็นคำๆ

    ....ส่วนที่เวลาต่อมาครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า ธาตุกรณีย์ ก็เพราะท่านเห็นว่าคำว่า "กรณีย์" ในภาษาไทยแปลว่า "สิ่งอันควรทำ" ท่านเอาความหมายว่า "ถ้าใครอยากเจริญ ต้องเลิกคบคนไม่ดี(จะชะ ทุชชะนะสังสัคคัง) และคบหาแต่คนดี(ภะชะ สาธุสะมาคะมัง) ให้หมั่นทำแต่ความดีทั้งหลาย(กะระ ปุญฺญมะโหรัตตัง) และ พึงระลึกถึงความไม่ประมาทอยู่เสมอ(สะระ นิจจะมะนิจจะตัง) คือครูบาอาจารย์ท่านให้ชื่อตาม อุบายทางธรรมนั้นละ..."



    1.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า-กรมหลวงวชิรญาณวงศ์-696x932.jpg
    สมเด็จกรมวชิรญาณวงศ์(พระสังฆราชองค์ที่13)
    ....ผู้เขียนขออนุญาตถามท่านต่อครับว่า "แล้วคาถานี้ในทางเคล็ดวิชาท่านน้อมพลังงานมาใช้ทางใดบ้างครับ"

    ....ท่านอาจารย์บุญเลิศตอบว่า... "โอ้ว คาถานี้ดี108 นะ สมเด็จกรมวชิรญาณวงศ์(พระสังฆราชองค์ที่13) ตอนหม่อมคึกฤทธิ์(มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) ไปขอคาถาดีกับท่าน ท่านก็ให้คาถานี้แหละ
    จะภะกะสะ ท่านว่า ตัวท่านเองก็ท่องเป็นประจำเกิดปาฏิหารย์มาแล้วหลายต่อหลายครั้งเป็นที่ประจัก สมเด็จวชิรญาณวงศ์ท่านยังย้ำอีกว่า คำที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้วศักดิ์สิทธิ์ทุกคำ ผู้นำไปปฏิบัติก็เจริญจนถึงมรรคผลนิพพาน แม้นำมาสวดท่องก็มีปาฏิหารย์มีคุณวิเศษ..."


    503768737_3093345450869868_4626358723181527791_n.jpg
    ....คุยไปสักพัก ท่านอาจารย์บุญเลิศก็หันไปหยิบสมุดลายไทยที่ท่านจดไว้ แล้วเล่าต่อให้ฟังครับว่า "นี้ ยันต์ จะภะกะสะ แบบเต็มที่ผม(อ.บุญเลิศ) คัดลอกแล้วสืบต่อวิชาจนครบ เพราะตำราเดิมเป็นอักษรล้านนา และอักษรธรรมลาว(ธรรมอีสาน) ที่หายไปทำให้คาถาเต็มขาดๆเขินๆ ผมไปสืบจากครูบาอาจารย์จนครบ ทั้งไปสอบทานกับหลวงพ่อชอบ วัดราษฎร์บำรุง จ.ชลบุรี(หลวงพ่อชอบ อนุจารี) เพราะท่านแต่งและค้นคว้าเรื่องคาถากาสลักไว้ ผมเคยไปสอบทานกับท่านตั้งแต่ปี2528 ท่านให้ระเบียบบาลีมา ผมก็เอามาประติดประต่อกับใบลานเดิมที่เป็นอักขระธรรมอีสานและอักขระล้านนา จนมั่นใจว่าสมบูรณ์พอสมควรแล้ว..."

    ....ด้วยว่าเป็นของดี ผู้เขียนจึงขออนุญาตท่าน บันทึกภาพยันต์ได้หรือไม่ กลัวจะมีคนเอาไปใช้ต่อไหม? ท่าน(อ.บุญเลิศ) บอกว่า
    "นำไปลงเป็นวิทยาทานได้ ส่วนคนจะเอาไปใช้ต่อ ก็ได้ไปแค่ตัวยันต์คาถาเสกไม่ได้ไปหรอก ฮ่าๆ(ท่านหัวเราะ) จะลงมันต้องมีตัวเสก ตัวเสกเขาไม่บอกกันง่ายๆตัวยันต์ใครเขียนก็ได้ นี้ยันต์นี้ของโบราณเลยนะผมใช้อักษรดั้งเดิม คือ อักษรธรรมอีสานมาเขียนเลย..."


    thumbnail_20250707_123536.jpg
    ...ตรงนี้ท่าน อ.บุญเลิศ กรุณาอธิบายคุณวิเศษ(อุปเท่ห์) ตามเคล็ดของยันต์ให้ฟังครับว่า

    จะ ย่อมาจาก จะชะ ทุชชะนะสังสัคคัง จงหลีกเลี่ยงการคบคนพาล(ท่านว่าเคล็ดพลังงานคุณวิเศษ คือ ช่วยหลีกเลี่ยงจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง ไปไหนมาไหนแคล้วคลาดปล่อยภัยจากสิ่งไม่ดี ศัตรูหมู่มารไม่อาจทำร้ายได้)

    ภะ ย่อมาจาก ภะชะ สาธุสะมาคะมัง จงคบหาสมาคมกับคนดี(ท่านว่าเคล็ดพลังงานคุณวิเศษ คือ พบเจอแต่สิ่งที่ดี จะทำกิจการงานใดก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่มีอุปสรรค)

    กะ ย่อมาจาก กะระ ปุญฺญมะโหรัตตัง จงทำความดีทุกวัน ทุกคืน ทุกลมหายใจ(คำว่าปุญญะคำนี้ หมายถึง ประโยชน์,การให้ทาน ครูบาอาจารย์ท่านให้น้อมไปในเรื่องของ จาคะ คือการเสียสละเป็นประโยชน์ เมื่อมีการให้ย้อมมีอานิสงส์ เรื่องลาภสักการระเกิดขึ้น ดังนั้นจึงหมายถึง มีลาภมีทรัพย์มากนั้นเอง(แต่ทั้งนี้อุบายคือการรู้จักให้ทาน ทำประโยชน์เป็นสำคัญ)....)

    สะ ย่อมาจาก สะระ นิจจะมะนิจจะตัง จงระลึกถึงความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอนของสิ่งทั้งปวงตามธรรมชามติ(ท่านว่าเคล็ดพลังงานคุณวิเศษ คือ ให้อยู่ในความไม่ประมาท คำว่า นิจจะ หรือ นิจจัง นี้ ท่านหมายเอาความไม่เที่ยง เพราะเวลาลงวิชา ท่านจะต้องท่องปิดท้ายบทว่า "ทุกขัง อนิจจัง อนันตา" ความหมายคือ เมื่อเกิดทุกข์ไม่ว่าทุกข์กายหรือทุกข์ใจ ทุกข์นั้นย้อมอยู่ไม่นาน และย้อมหายไปด้วยอำนาจแห่งอนิจจัง(ไม่เที่ยง) อีกนัยยะหนึ่ง คือ ให้พึงระลึกถึงความไม่ประมาท เมื่อไม่ประมาทย้อมเป็นผู้ห่างจากความตาย(อัปปมาโท อะมะตัง ปะทัง "ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความไม่ตาย") ดังนั้น ด้วยเคล็ดนี้ผู้มียันต์ ย้อมไม่ตายโหงจากอันตรายทั้งปวง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2025
  2. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,971
    ค่าพลัง:
    +12,507
    วันนี้ 13 ก.ค. 2568 เวลาประมาณ 13.30 น. ผู้เขียนและคณะจัดสร้างพระพุทธประธานพร ได้นำพระทั้งหมดกราบขอเมตตา "หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปุญญวัณโณ" เมตตาอธิษฐานจิต ท่านเมตตารับไว้พิจารณาอธิษฐานธรรม 1 พระ(1 พระ คือตั้งแต่ 15 ค่ำ ไปถึง 8 ค่ำ อีกวันพระหนึ่งประมาณ 7 วัน) ครับ

    thumbnail_20250713_134613.jpg


    ....ในการนี้การคณะได้ถวายปัจจัยจำนวน 5000 บาท พร้อมผ้าสบงอาบน้ำฝน และเครื่องไทยธรรมต่างๆ น้ำดื่ม ให้แก่วัดป่าสัมมานุสรณ์ด้วยครับ

    ...ซึ่งพระทั้งหมดหลังจากนำบรรจุของมงคลใต้ฐานแล้ว นำส่งลงยันต์ประทับด้านหลังแล้ว ทางโรงงานก็เพิ่งส่งกลับมาให้โดยบรรจุหีบหอมาเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้พระเสียหาย และด้วยทางคณะรีบเพื่อให้ทันฤกษ์ยามที่จะกราบนิมนต์หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิต จึงยังไม่ได้แกะหอพราสติกออกมาดู ก็ได้มอบพระทั้งหมดให้ปู่อธิษฐานจิตก่อนแล้ว(แต่บรรจุไว้ในลัง)

    ....ดังนั้นไว้เดียวหลังจากหลวงปู่เมตตาแล้วจะนำมาแกะดูและลงภาพให้ท่านสมาชิกได้ชมกันอีกครั้งนะครับ

    thumbnail_20250713_175604.jpg

    ....และตอนนี้ผู้เขียนกำลังขอภาพ "ตอนที่คณะทีมงานนำของมงคลต่างๆบรรจุลงในผอบและบรรจุลงในองค์พระ ที่พากันไปบรรจุกันยังสำนักท่านอาจารย์บุญเลิศเพื่อมาลงให้สมาชิกได้ชมกันต่อไปนะครับ ตอนนี้ทีมงานกำลังหาภาพให้อยู่ครับ"

    จึงเรียนแจ้งให้สมาชิกทุกท่านทราบดังนี้ ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2025 at 20:30
  3. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,971
    ค่าพลัง:
    +12,507
    ยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์
    (โบราณจารย์ท่านเรียกว่า ยันต์กำลังพระพุทธเจ้า)
    ***********************
    thumbnail_20250712_135914.jpg

    ยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระอง
    สูตรอักขระเต็ม ของ อ.บุญเลิศ เชื่อบุญมี
    (ท่านอนุญาตให้สแกนจากบันทึกของท่านมาให้ชมเป็นวิทยาท่านได้ครับ)

    ....ยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์นี้ผู้เขียนได้มีโอกาสสอบถามท่านอาจารย์บุญเลิศครั้งเมื่อนำพระพุทธประทานพรที่หล่อเสร็จแล้วไปให้ท่านพิจารณา ท่านอาจารย์บุญเลิศจึงกรุณาเล่าดังนี้ให้ฟังครับว่า

    ...ยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ท่านอาจารย์บุญเลิศท่านเรียกว่า "ยันต์กำลังพระพุทธเจ้า" เนื่องจากยันต์นี้ได้นำพระนามของพระพุทธเจ้าตั้งแต่อดีต มาถึงปัจจุบัน และยังไปในอนาคตรวมแล้ว 28 พระองค์ และรวมอีกหนึ่งพระศรีอริยเมตไตรยที่ท่านจะมาตรัสรู้ในอนาคต(ยังเป็นพระโพธิ์สัตว์อยู่) เป็น 29 พระองค์ ลงในพระยันต์นี้ตามนัยยะแห่งตำราพระสูตร "พุทธปกิรณกกัณฑ์" ว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า (
    พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก)

    ....ท่านอาจารย์บุญเลิศ ท่านเล่าต่อครับว่า "ตามตำราและตำนานแล้วครูบาอาจารย์ในอดีตท่านจะเรียกว่ายันต์กำลังพระพุทธเจ้า เพราะถือเอากำลังตามพระนามของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานทั้งหมด 28 พระองค์ และลงด้วยยันต์องค์พระแยกตามกัปที่พระพุทธเจ้าท่านมาจุติยังโลกให้เป็นสัญลักษณ์แทนองค์ท่าน เช่น
    สารมณฑกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ก็ลงยันต์องค์พระ 4 องค์(มีสูตรลงเฉพาะ) หรือ สารกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์ (ก็แยกสูตรลงเฉพาะ) แบบนี้เป็นต้นจนครบทั้ง 28 พระองค์ ส่วนองค์สุดท้าย ท่านยังไม่ขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า เลยยังไม่มีอุณาโลม(ไม่เรียกสูตรอุณาโลม) เพราะอุณาโลมใช้กับพระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ท่านก็เป็นพระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วแน่นอนในอนาคต นั้นคือพระศรีอริยเมตไตรย ครูบาอาจารย์ท่านจึงรจนา เพื่อน้อมกำลังท่านมาใช้ลงในยันต์นี้ด้วย"

    66282754_2420708004662415_2098174996785397760_n.jpg
    ยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์แบบอักษรย่อ
    ของ อ.เทพ สาริกบุตร

    ....อ.บุญเลิศ ท่านได้บรรยายต่อครับว่า "ตามตำรา
    อ.เทพ สาริกาบุตร ท่านจะลงแบบไม่เต็มพระนาม ท่านจะย่อลงมาในยันต์วงกลมแบบโลกธาตุ แล้วประดิษฐานเรียกสูตร พระนามย่อพระพุทธเจ้าทีละองค์แทน เช่น พระพุทธเจ้านามว่าทีปังกร ท่านก็ลง ตัว กะ(เป็นอักษรธรรมขอม) แบบนี้เป็นต้น ไปทีละองค์จนครบ 28 พระองค์ วนไปตามสูตร"

    ....ผู้เขียนสอบถามว่า "ทั้งสองสูตร คือลงเต็มพระนาม กับ ลงแล้วย่อพระนาม แบบไหนตามสูตรและดีกว่ากันครับ"

    ....ท่านอาจารย์บุญเลิศบอกว่า "ทั้ง 2 สูตรดีเหมือนกันอยู่ที่ความขยันของผู้ลง ฮ่าๆ(ท่านหัวเราะ) ถ้าครูบาอาจารย์ท่านขยันหน่อยก็ลงสูตรเต็ม และถ้าท่านเอารวดเร็วก็ลงแบบสูตรพระนามย่อ แต่ส่วนตัวผม(อ.บุญเลิศ) ชอบลงแบบพระนามเต็มมากกว่า เพราะได้กำลังใจดีกว่า อาจารย์(ท่านชี้มาที่ผม)ลองคิดดูนะถ้าลงตะกรุดด้วยพระนามเต็มพระพุทธเจ้าอีก 100 ปีข้างหน้ามีคนมาคลี่ตะกรุดดู อย่างน้อยถ้าอ่านอักษรขอมออกก็รู้ทันทีว่านี้คือพระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์แค่รู้แค่นี้ พระพุทธานุภาพก็มาถึงผู้อ่านแล้ว ผู้อ่านก็มีจิตใจน้อมไปในกุศลแล้วเห็นไม แต่ถ้าลงแบบย่อแม้ว่ามีพุทธคุณเหมือนกัน แต่ถ้าคนรุ่นหลังมาคลี่ดู ก็งง กันละทีนี้ จิตใจก็อาจจะลังเลสงใส ไม่แน่นอนเกิดวิจิกิจฉาขึ้นมาเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง แบบนี้พุทธคุณท่านก็ไม่มาแล้ว ฮ่าๆ(ท่านหัวเราะ) พุทธคุณเหมือนกันแต่การสืบ ให้ถึงคนรุ่นหลังมันต่างกัน"

    th-2.jpg
    หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม

    ....ผู้เขียนขออนุญาต สอบถามท่านเรื่องพุทธคุณของยันต์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์นี้ ท่านอาจารย์บุญเลิศถึงกับร้องเสียงหลง ท่านบอกว่า "โฮ นี้นามพระพุทธเจ้านะ ใครจะเกินพระพุทธเจ้านี้ไม่มีละ ยันต์นี้มีพุทธคุณแบบฝนแสนห่า รู้ไมคือใช้ได้สารพัดว่างันเถอะ ถ้าใช้ไปสู้รบตบมือกับใคร คนสมัยก่อนจะเสียบตะกรุดนี้ไว้ยอดปรายธงของแม่ทัพโบราณว่าอย่าว่าแต่คนเลย แม้เทวดามาเองก็ยากจะเอาชนะ(เทวดายังเกรงพุทธบารมี) หรือจะใช้ห้ามฟ้าห้ามฝนเวลามีบุญงานสำคัญก็ยังได้ สมัยก่อนหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม ท่านจะลงยันต์สูตรนี้แล้วเอาไว้ยอดธงธรรมจักรเวลามีบุญมีงาน ถ้าไม่อยากให้ฝนฟ้าตกท่านก็อธิษฐานแล้วยกธงนี้ปักไว้กลางลานวัด คิดเอาว่า
    ฝนตกโดยรอบไม่กล้าเข้าในวัดเลยละ คนก็ทำบุญได้สบายใจ" นี้คุณวิเศษมากเพราะน้อมกำลังพระพุทธเจ้าท่านมา เทวดาก็มารักษาด้วย" คุณวิเศษยันต์พระพุทธเจ้า28พระองค์นี้สารพัดละตามแต่อธิษฐาน นำติดตัวนี้เสริมวาสนา เอาว่าใครดวงถึงฆาตรจะตายในช่วงนี้ พกบูชาตะกรุดนี้ติดตัวรอดทุกคน ไปทำมาหากินที่ไหน "ความตกต่ำจะไม่มีละ" อืมนี้เรียกพุทธคุณแบบฝนแสนห่า

    ....แล้วท่านยังพูดติดตลกตอนท้ายครับว่า "เดียวนี้เขาไม่ได้นำไปใช้บูชาเพื่อห้ามฟ้าห้ามฝนแล้ว เขาเอาไปบูชาห้ามจน ฮ่าๆ(ท่านหัวเราะ)"

    ....ผู้เขียนก็เลยลองๆถามท่านดูครับว่า ท่านพอมีลงไว้บ้างไหม อ.บุญเลิศท่านก็บอกครับว่า "มีอยู่ให้คนถักเชือกไว้ 14-15 ดอกนี้แหละ สร้างไว้สืบวิชาเฉยๆ ลงไว้วันไหว้ครูตั้งแต่ปี 2554 แต่ยังไม่ได้แจกใครละเพราะลืม(ใช้เสียบยอดบายศรี)"

    thumbnail_1752530632856.jpg

    ....ผู้เขียนก็ถามท่านต่อเลยครับว่า
    "ลงแบบเต็มหรือลงแบบย่อครับ กระผมขอบูชาต่อได้ไหม เพื่อนำไปสร้างพระ" ท่าน อ.บุญเลิศ ก็กรุณาให้คนไปหยิบให้ในเซฟของท่านครับ แล้วมานับดูได้ 15 ดอก(ไม่ได้ม้วน 1 แผ่น) แล้วท่านก็คลี่แผ่นที่ยังไม่ได้ม้วนให้ดู แล้วท่านบอกว่า"นี้ลงเต็มนะ สูตรเต็ม" แล้วท่านก็กรุณามอบให้ผู้เขียนทั้งหมดเผื่ออาจจะได้ใช้ในการกุศลต่อไปครับ(แต่ท่านเอาคืนกลับไป 2 ดอก)

    ....ดังนั้นตะกรุด "พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ หรือ กำลังพระพุทธเจ้า หรือ ตะกรุดพระพุทธฝนแสนห่า" ที่ผู้เขียนได้มา "ได้นำเข้าอธิษฐานจิตพร้อมพระพุทธประทานพร โดยเมตตาธรรมหลวงปู่บุญฤทธิ์ อยู่นะครับไว้มีโอกาสจะนำออกให้บูชาสำหรับท่านที่สนใจต่อไปครับ(อาจจะมอบสมนาคุณครับ)..."

    thumbnail_20250715_030135.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2025 at 10:18

แชร์หน้านี้

Loading...