แล้วตกลง ควรเตือนหรือไม่เตือน ถึงจะดี

จากข่าว เด็กชาย ปลาบู่ จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตทางกฎหมาย พร้อมด้วยเสียงหัวเราะเยอะขำขัน ทั้งทางโลกออนไลน์ (หรือแม้แต่คนที่บ้านเราเอง)

ตอนที่น้ำท่วมหนัก ก็มีกระทู้ที่ตั้งว่า ถ้าคนมีญาณ/หมอดู/พยากรณ์ (ประมาณว่าแขนงไหนก็ได้) เก่งจริงทำไมไม่เตือน หรือเห็นบ้าง

ตกลงมุมนี้ กลายเป็นที่ถกเถียง เพ้อเจ้อ ของคนในเวปอื่นไป โดยเฉพาะเวปเสียดสี

แล้วถ้ามีจริง ต่อไปใครจะกล้าเตือนบ้าง

ชอบคำนี้จริง ..ถ้าเขื่อนแตก คุณคงจะพอใจ (ที่ ดช.ปลาปู่ทำนายถูก)

 

ถามว่าต่อไปใครจะกล้าเตือนก็ต้องบอกว่าไม่ต้องห่วงครับมีแน่นอนเพราะมันมีมานานแล้วไม่ใช่พึ่งจะมี

 

ไม่เป็นไร...ครับ

ประเด็นนี้...คงไม่ถึงขนาด...ต้องหยุดเตือนภัย

แต่เราควรพิจารณา...และแยกแยอะ...เรื่องราว...เพราะ...ข้อมูลต่างๆมีทั้งจริงและลวง

เราฟังหูไว้หู...เชื่อเฉพาะเรื่องที่ควรจะเชื่อ...นะครับ


.

 

จะบอกว่าจริงๆเรื่องนี้มีคนออกมาเตือนค่ะ(เตือนล่วงหน้าหลายเดือน) แต่รู้เฉพาะวงแคบเพราะเราเองก็เป็นหนึ่งคนที่รู้ก่อนแต่ตอนได้ทราบยังไม่ค่อยเชื่อเลย(เพียงแต่ยังดีที่บ้านน้ำไม่ท่วม) แต่ก็เป็นจริงดังคนมาเตือน ^^" เอาเป็นว่าเชือ่ไม่เชื่ออย่างไรก็ตามสติปัญญาของบุคคลเหล่านั้นเถอะค่ะ

 

เตือนต่อไปเถอะครับ แต่ขออย่างเดียว กรุณารับผิดชอบต่อข่าวสารที่นำเสนอด้วย
ความรับผิดชอบ แปลว่า ถ้ามีความชอบเช่นทำนายถูกก็ต้องรับความชอบนั้นไป ถ้าทำนายผิดก็ต้องรับความผิดนั้นไป ผมแปลอย่างนี้ถูกไหมครับ แล้วผมขอมากไปไหมครับนี่

 

เมื่อท่านเห็นคำเตือนภัยทั้งหลาย ก่อนที่จะถามใครๆว่าจะเกิดจริงหรือไม่
ลองหันกลับมาถามตัวเองก่อนดีไหม ว่าจะทำอย่างไร จะรู้สึกยังไงกับคำเตือนเหล่านั้น

บางทีท่านจะได้คำตอบก่อนที่จะตั้งคำถามเสียด้วยซ้ำ

ที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วเป็นจริงที่สุด คนดีธรรมะย่อมคุ้มครอง เป็นจริงแท้ แล้วจะกลัวสิ่งใดเล่า

 

เชื่อตามครูบาอาจารย์ในสายที่ตัวเองปฏิบัติ มาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บนี้
ไม่ไปอ่านที่อื่น เพราะมันควรจะเป็นการเตือนในพื้นที่ที่มีความสนใจร่วมกัน
หากนำไปเตือนหรือไปโพสต์ในพื้นที่สาธารณะอื่นๆ ที่มีความสนใจหลายหลาย
โดยไม่ได้มีพื้นฐานในการปฏิบัติ หรือพร้อม-ตั้งใจที่จะร่วมรับรู้ข่าวสารภัย
พิบัติ (จะโดยความเชื่อหรือศึกษาแบบฟังหูไว้หู) อันนั้นย่อมเกิดการโกลาหล

ดังนั้นข้อมูลเตือนภัยควรอยู่ในที่อันควร และควรส่งต่อข้อมูลให้แก่บุคคลที่ท่านเมตตาอย่างพิจารณา เมื่อท่านเข้ามาอ่านท่านต้องตัดสินใจไตร่ตรองด้วยตัวของ
ท่านเอง

ข้อมูลเหล่านี้ เป็นประโยชน์เฉพาะบางคนเท่านั้น หลายท่านที่รอดพ้น
ปลอดภัย หรือเปลี่ยนแปลงชีวิตไปสู่ความไม่ประมาท ไปสู่ความดีอื่นๆยังมีอยู่
กลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม กลุ่มทำความดี เกิดขึ้นมากมายนับตั้งแต่เริ่มเปิดการสนทนา
ในห้องนี้ขึ้นมา

ท่านเป็นกลุ่มไหน ท่านพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อความเชื่อของตัวเองหรือไม่ คงไม่มีใครไปสามารถรับผิดชอบแทนตัวของท่านได้ (สิ่งที่เราแสดงความคิดเห็น
เฉพาะสำหรับห้องเตือนภัยนี้ หรือในพื้นที่ส่วนตัวของผู้เตือนเท่านั้นค่ะ
ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่ไปโพสต์ในที่สาธารณะที่อื่น เพราะเงื่อนไขต่างกัน)

 

ก็มันเป็นกรรมของคนนะครับ ใครจะรอดก็อาจจะโชคดีได้รับฟังคำทำนาย เรื่องคำทานายส่วนมากจะรู้ในวงจำกัด แต่ของกรณีตาทองใบ คงจะหวังดี แต่ผิดที่ ผิดเวลา ม้้ง และก็คงเป็นกรรมของตาเองด้วยละครับ

ถ้าจะให้ดีก็ เขียนต่อท้ายไว้ด้วยว่า "เป็นการเตือนภายในเว็ปห้ามนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชน" ประมาณนี้มั้งเป็นการป้องกันตัวเอง

 

ฐนา ตอบได้ดีมากครับ คนที่เข้ามาเวปพลังจิตส่วนใหญ่มีพื้นฐานตามที่คุณกล่าวมา เป็นคนมีจิตใจดีซะส่วนมาก สนใจติดตามเรื่องภัยพิบัติ ศึกษาหาความรู้ การเตือนภัยเรื่องน้ำท่วม ผมได้ฟัง หมอเทพนม เมืองแมน บอกตั้งแต่ธันวาคม 2553 ว่ากรุงเทพฯจะน้ำท่วมปีหน้า คือ ปี 2554และต่อมาเดือนมิถุนายน ท่านไปออกรายการ เช้านี้คุยวู๊ดดี้ ก็บอกว่าภายในสามสี่เดือนกรุงเทพฯจะน้ำท่วม พิธีกรยังยิ้มไม่เชื่อเลย และก็ท่วมจริงตามที่ท่านเตือนไว้
คนที่คุยกันในเวปนี้บอกเตือนญาติเพื่อนและคนที่รู้จัก เตือนภัยให้ระวังไว้
กลุ่มคนที่เข้ามาเวปพลังจิต เป็นคนมีคุณธรรมมีเจตนาดีที่จะบอกเตือนภัยแก่ทุกคน ภัยพิบัติที่ยังไม่เกิด ใช่ว่ามันจะไม่เกิด บางอย่างเกิดแบบฉับพลัน การเตือนบอกเหตุจึงทำให้คนเข้ามาอ่านได้รับรู้ตระหนักว่าโลกมันเปลี่ยนแปลง ภัยธรรมชาติต่างๆจะเกิดขึ้นต่อไป

 

เดี๋ยวไปหาเทปย้อนหลังเช้าดูวู้ดดี้ เทปที่เทพนม เมืองแมนมาออก แล้วจะมาลงให้หน้าเวปนะครับ เพราะจำไม่ได้จริงๆว่าตอนน้ำท่วมก่อนหน้านั้นมีคนมาเตือนด้วย ถ้าเตือนจริง ก็ถือว่าอ.เมืองแมน แม่นสุดๆ ต่อไปทำนายอะไรไว้ ก็จะฟังไว้ก่อนครับ

 

หากล่วงรู้กาลเวลาของภัยพิบัติ จะรู้ว่าเวลาเหลือน้อยแล้วครับ อาจจะช้าไปสำหรับการเตือน เพราะควรจะเป็นขั้นของการเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมการรับสถานการณ์ เตรียมสเบียง ปัจจัยสี่และสิ่งอื่นๆที่จำเป็นสำหรับดำรงชีพหลังขณะและหลังจากเกิดภัยพิบัติ

หากเวลานี้ใครไม่ได้เตรียมสถานที่เอาไว้ ก็อยากจะบอกว่าอาจจะสายเกินไปแล้ว เพราะหากมีสถานที่แล้วยังต้องเตรียมสาธารณูปโภคอย่างอื่นๆอีกมาก เช่น พลังงานทดแทนไฟฟ้า พลังงานทดแทนน้ำมัน เช่นโซล่าเซลล์ เตรียมเลี้ยงปลา เป็ด ไก่ ปลูกพืชผัก กินได้ รวมทั้งเตรียมบ้านที่ทนต่ออากาศหนาวจัดพร้อมทั้งอุปกรณ์ทำความอบอุ่น ฯลฯ

เวลาที่เหลืออยู่นั้น น้อยเต็มทีถ้าหากว่าต้องการจะเตรียมให้พร้อมสำหรับการดำรงชีวิตอยู่แบบไม่ลำบากนักหลังจากเกิดภัยพิบัติ

สรุป คนส่วนใหญ่มีสองประเภท ประเภทแรกคือเตรียมตัวอยู่ ก็คือผู้ไม่ประมาท ก็จัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ดำรงชีพและเสบียงต่างๆ เพื่อการดำรงอยู่ต่อไป ประเภทที่สองคือเตรียมตัวตาย ก็ไม่ต้องทำอะไร ใช้ชีวิตไปวันๆตามกระแสโลก ครับ

ผู้ที่มาเตือนผมอย่างต่อเนื่องนั้น มีทั้งหลวงปู่ทวด พระศรีอริยเมตตรัย พระพุทธเจ้าองค์ปฐม รวมทั้ง พระโลกุตตระต้นองค์ธาตุต้นธรรมที่เฝ้าดูการสั่งสมบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ท่านบอกว่าถ้าลูกเล็งเห็นว่าใครเป็นคนดีมีศีลธรรม ก็บอกเขาไป เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของเขา

อยากให้ฟังเสียง mp3 ที่ผมอัดเสียงท่านเหล่านั้นเอาไว้เตือนตัวเอง แต่กลัวว่าคนบางส่วนจะแตกตื่น โกลาหล ไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด ที่จริงทุกคนก็มีกรรมคอยจัดสรรกันอยู่แล้วครับ กรรมดีและกรรมชั่วเป็นตัวกำหนดทั้งสิ้น

 

การเตรียมการป้องกันรับมือไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดี แต่เมืองไทยเราแล้วมักเจอปัญหาวัวหายล้อมคอก ถึงได้เกิดความโกลาหลขึ้น อย่างสึนามิ ที่อ.สมิทธ ได้เตือนไว้จนโดนคนภูเก็ตและผู้ว่าฯสมัยก่อนว่าและห้ามแกเข้าภูเก็ต ต่อมาเกิดสึนามิคนตายหลายพันคน ล่าสุดทางภูเก็ตเชิญท่านไปสัมนาเรื่องภัยพิบัติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่านก็ไปตรวจดูศูนย์เตือนภัยต่างๆที่ภูเก็ต ปรากฏว่าอุปกรณ์ต่างๆชำรุดขาดความสนใจดูแลรักษา เหมือนไฟไหม้ฟาง พอเหตุการณ์เกิดขึ้นนานสักพักคนจะลืมไม่สนใจกัน เราน่าจะเอามาตรฐานความปลอดภัยแบบฝรั่งและญี่ปุ่นมาฝึกใช้กับคนไทย

 

จะใครเตือนเราก็รับฟังหมดค่ะ
แล้วมาพิจารณาว่า เราจะไม่ประมาทอย่างไรดี เตรียมการให้เพียงพอสำหรับตนเองและครอบครัว ให้มีสติ ถ้าภัยมาถึงตัว สวดมนต์ไหว้พระให้มากขึ้น และก็อยู่กับสติตนเองให้มาก ๆ เพราะพวกที่รอดมาได้ ก็พวกมี สติ ทั้งนั้นค่ะ และยังเอา สติ กลับไปช่วยผู้อื่นต่อ ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ควรเอาอย่างและยกย่องคอยช่วยเหลือกันต่อไป

จะเกิดไม่เกิด ก็อีกเรื่อง อย่างน้อยก็มีสติ และ มีการเตรียมการ

ควรให้มีการเตือนกันต่อไปค่ะ เพราะ เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิด ถึงเรียกว่าการเตือนภัย

(จะแตกตื่น หรือมี สติ ก็ควรเริ่ม หัด ๆ ไว้บ้างค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระ ของใคร มากเกินความจำเป็น)

 

ถ้าผมรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจริงๆผมก็จะเตือน แต่มี ปล อย่าเชื่อผมเพราะผมคือคนบ้า

 

เค้าจะเตือนกันแค่ครึ่งเดียว

ส่วนคนฟังก็ต้องคิดตามให้มากๆ

 

สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตน

 

.....................

 

...................................

 

ใครเตือนอาไรมา ก็เชื่อไว้ก่อนแต่ไม่ตื่นตูมค่ะ มีสติิอยู่ค่ะ หากภัยไม่เกิดจริงตามคำเตือน ก็จะมีแต่คำว่า ขอบคุณ และไม่เป็นไร ดีใจเสียอีกค่ะที่ไม่เกิดขึ้น และไม่โทษผิดคนเตือนภัย คิดดีเสมอว่า คนเราทำผิดก็แก้ไขตนเองได้เสมอ ต้องขอบคุณเขาเสียอีกที่อุตส่าห์หวังดี เจตนาดี

หากภัยมา ก็ขอบคุณเขาค่ะที่มาเตือนเรา เราก็รอบคอบมากขึ้นและมีสติไว้
ดิฉันเชื่อว่า คนเรา อย่ามัวแต่ทำอาไร ตามความพอใจหรือไม่พอใจของตนเองเลยค่ะ และไม่ดีต่อจิตภายใน ไม่มีใครทำอาไรถูกใจเราไปเสียหมดหรอกค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุงทองใบค่ะ เชื่อว่า ใครเล่าที่อยากจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ลุงคงไม่มีเจตนาและรู้เท่่าไม่ถึงการณ์ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นแบบนี้ ให้อภัยลุงเถิดค่ะ ท่านตำรวจ ลุงเขาก็ประชาชนชาวบ้านซื่อๆใจดีมีเมตตาคนหนึ่งนะคะ สาธุ เบื้องบนสอนเสมอว่า จงมีแต่คำว่า สำนึกเมื่อทำผิดและขอบคุณเมื่อมีสุขหรือได้สิ่งดีๆจากผู้อื่น การทำนายภัยพิบัติไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เป็นความลับของสวรรค์ค่ะ เป็นเรื่องของกรรม ไม่มีมนุษย์ใดจะเดาใจธรรมชาติได้หรอกค่ะ อย่าไปยึดติดกับคำว่า "แม่นได้รับคำชมไป ทำนายไม่แม่้นโดนลงโทษ" ไร้สาระจ้า เตือนให้คนหันมาเปลี่ยนแปลงภายใน ตนเองดีกว่าค่ะ

 

คร่าวๆ คนกับความเชื่อ มี 3 แบบ 1. ใครบอกอะไรมาปั๊บ เชื่อปุ๊บ

2. ใครบอกอะไรมา ยังไม่เชื่อ ขอคิดก่อน แล้วถึงเชื่อ

3. ใครบอกอะไรมา ยังไม่เชื่อ แต่หาข้อมูลให้รอบด้านก่อน แล้วถึงตัดสินใจว่า จะเชื่อ รึ ไม่เชื่อ