เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 28 เมษายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพตื่นเช้าตามเวลาเมืองไทย ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยขนาดไหนก็ตาม เมื่อถึงเวลาก็ต้องตื่นขึ้นมาภาวนาตามปกติ เรื่องพวกนี้อย่าปล่อยให้มีข้ออ้างเป็นอันขาด เนื่องเพราะว่ากิเลสนั้นมีมารยามาก เมื่อถึงเวลาก็จะบอกว่า "คราวที่แล้วยังได้เลย คราวนี้อีกสักนิดเถอะ..!" ดังนั้น..ถ้าเราไปผ่อนผันให้กับกิเลสเมื่อไร ก็แปลว่าเรากำลังหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเอง..!

    เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย อุทิศส่วนกุศล ก็ได้พบกับคนคุ้นเคย คือนภิสราเทวี ซึ่งเป็นเจ้าแม่หลักเมืองประเทศเนปาล แต่ว่าคุณเธอเป็นอินทกะ ก็คือเทวดาชั้นมหาอำมาตย์ มีอำนาจครอบคลุมกว้างใหญ่ไพศาลมาก กินแดนลงมาถึงตอนเหนือของทางอินเดียเลยทีเดียว..!

    ปรากฏว่าแม่เจ้าประคุณบอกว่า ในเขตจัมมู - แคชเมียร์นั้นยังอยู่ในเขตดูแลของคุณเธออยู่ด้วย วันนี้ให้กระผม/อาตมภาพแต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมสู้ความหนาวไปได้เลย ดังนั้น..เมื่อทำการสรงน้ำ แต่งตัว กระผม/อาตมภาพจึงใส่ทั้งกางเกงลองจอนห์และเสื้อฮีตเท็ค ตลอดจนกระทั่งถุงเท้าและรองเท้าหุ้มข้อกันน้ำ เรียกง่าย ๆ ว่าเตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ แล้วค่อยลงไปรอที่ล็อบบี้โรงแรม จนกระทั่งทุกคนลงมาถึงโดยพร้อมเพรียงกัน

    เนื่องเพราะว่าคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็น ซี ทัวร์นั้น ได้ไปขอกับทางโรงแรมว่าให้เปิดห้องอาหารให้กับพวกเราตอน ๖ โมงครึ่ง ซึ่งปกติแล้วหลักการสากลของโรงแรมก็คือ ๖-๗-๘ ก็คือ ๖ โมงก็ให้วางกระเป๋าหน้าห้อง เพื่อรอให้บรรดาบริกรมาขนไปเตรียมขึ้นรถ ๗ โมงรับประทานอาหาร ๘ โมงออกเดินทาง แต่ว่างานนี้ของเราขอให้เขาเร็วขึ้นครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

    ข้าวปลาอาหารอื่นนั้น กระผม/อาตมภาพไม่ค่อยใส่ใจ ฉันอาหารพื้นเมืองอินเดียไปอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวันนี้มีผัดในลักษณะของผัดผักรวม ใส่ผงขมิ้น ใส่มัสซาล่า ซึ่งต้องบอกว่า "อร่อยมาก" ไม่ทราบเหมือนกันว่าตนเองมีลิ้นทำด้วยอะไร ไม่ว่าจะไปกินข้าวปลาอาหารของชาติไหนก็อร่อยไปหมด และที่แน่ ๆ ก็คือไม่เคยรังเกียจอาหารชนิดใดเลย แม้กระทั่งอาหารบูด อาหารเสียก็เคยฉันมาแล้ว..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2023
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ทางด้านบริกรขนกระเป๋าขึ้นรถแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางตรงไปยังสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี แต่เนื่องจากว่าทางด้านประเทศอินเดียนั้น รถติดสาหัสเป็นปกติ และมีการตรวจเข้มเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามีการขัดแย้งกันในระหว่างเชื้อชาติและศาสนา ทำให้มีการก่อวินาศกรรมกันบ่อย ๆ พวกเราลงรถกันที่ประตู ๓ เมื่อทุกคนรู้ว่าจะไปศรีนาการ์ หรือที่คนไทยเรียกว่า ศรีนคราตามภาษาไทย เจ้าหน้าที่ก็ชี้ให้ไปที่ประตู ๘ สุดสนามบินเลย พวกเราจึงต้องเดินกันค่อนข้างจะยาวไกล ข้าวปลาอาหารใครกินมาน้อยหน่อย ก็มีหวังท้องร้องขึ้นมาใหม่อีกรอบเป็นแน่แท้..!

    เจ้าหน้าที่ตรงปากประตูทำการตรวจเข้มตามเคย ก็คือดูทีละคน ไม่ว่าจะเป็นการดูหน้า ไล่รายชื่อว่าตรงกับตั๋วเครื่องบินหรือเปล่า ? โดยที่บ่นกระผม/อาตมภาพตามเคยว่าชื่อยาวมาก เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว พวกเราก็ไปทำการเช็คอิน

    กระผม/อาตมภาพเองนั้น กระเป๋าส่วนตัวเบามาก น้ำหนักประมาณ ๑๐ กิโลกรัมเท่านั้น จึงต้องรับหน้าที่นำกระเป๋าอาหารของทางเอ็น ซี ทัวร์ ๒ ใบไปด้วย เมื่อรวมกันทั้ง ๓ ใบแล้ว ปรากฏว่าน้ำหนัก ๓๑.๖ กิโลกรัม ซึ่งเกินจากน้ำหนักที่อนุญาตคือ ๓๐ กิโลกรัมไปมาก แต่ว่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ดำเนินการให้เรียบร้อยทุกอย่าง แล้วถามว่ามีพวกวัตถุต้องห้ามอย่างพวกแบตเตอรี่หรือว่าถ่านไฟฉาย โทรศัพท์มือถืออะไรอยู่ในกระเป๋าเหล่านั้นหรือเปล่า ? เมื่อทราบว่าไม่มีก็จัดการออกตั๋วขึ้นเครื่องบินให้ง่าย ๆ

    เมื่อกระผม/อาตมภาพเดินออกมาแล้ว ถึงได้ทราบว่าทุกคนเดือดร้อนกันอย่างหนัก ขนาดที่รับรองว่าไม่มีของที่เป็นของต้องห้ามแล้ว ก็ยังต้องเซ็นรับรองและให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย เผื่อมีปัญหาอะไร ทางด้านสนามบินจะได้โทรศัพท์ตามตัวได้ แล้วเราก็เข้าไปผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ซึ่งทุกคนจะต้องนำข้าวของทุกชิ้นที่น่าสงสัยออกมาวางไว้ในถาดทั้งหมด

    กระผม/อาตมภาพก็ยังคงทำตามปกติ ก็คือไม่ว่าจะเป็นพาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จ ตลอดจนกระทั่งโทรศัพท์มือถือ และโน้ตบุ๊ก ก็นำใส่ถาดส่งให้ทางเจ้าหน้าที่แต่โดยดี แม้ว่าจะเดินผ่านประตูเอ็กซเรย์ไปโดยไม่มีเสียงดัง เจ้าหน้าที่ก็ยังตรวจหน้าตรวจหลัง แล้วก็ขอให้เปิดกระเป๋าส่วนตัวให้ดูอีกรอบหนึ่งด้วย

    หลังจากนั้น ถึงได้มาเก็บข้าวของเข้ากระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วไปยืนรอทุกคน ซึ่งโดนตรวจเข้มขนาดให้ถอดเสื้อคลุมบ้าง แม้กระทั่งไฟฉายอันเล็กนิดเดียวก็โดนบังคับให้เอาออกมา ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่ามีปัญหาอะไร เพราะไม่น่าที่จะเป็นเครื่องมือเครื่องไม้ในการวางระเบิดได้ สรุปว่ากระผม/อาตมภาพนั้น เหตุที่สามารถผ่านได้ง่าย ๆ ตั้งแต่วันก่อนจนถึงวันนี้ ก็เพราะความเมตตาของเจ้าแม่นภิสราเทวี ที่ได้รับบัญชาจากท่านปู่พระอินทร์มาช่วยดูแล จึงทำให้เรื่องทุกอย่างที่ยากกลายเป็นง่าย ขณะที่คนอื่นเรื่องง่ายก็กลายเป็นยากไปหมด..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2023
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ปรากฏว่าเหลือเวลาแค่ ๘ นาทีก็จะเรียกขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงประตูขึ้นเครื่อง เจอแต่พี่น้องอิสลามเป็นร้อยเป็นพัน ซึ่งในส่วนของแคว้นจัมมู - แคชเมียร์นั้น ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จึงไม่น่าแปลกว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้จะเดินทางไปกลับด้วยเครื่องบินกันเป็นปกติ แต่โชคดีเหลือเกินว่าเครื่องบินของเรามีการเสียเวลาไป ๓๐ นาที ท่านที่มัวแต่ช้าอยู่ เพราะว่าโดนตรวจเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง จึงสามารถมาขึ้นเครื่องบินได้ทัน..!

    ครั้นขึ้นเครื่องได้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็หมดสภาพ นั่งภาวนาส่งใจเกาะพระนิพพาน อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่ทั้งหลาย ที่ดูแลตลอดตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง แล้วก็หลับยาวไปจนกระทั่งเครื่องลงที่สนามบินศรีนครา ซึ่งใช้ระยะเวลาบินจากสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี ประมาณชั่วโมงครึ่ง ระยะทางก็ประมาณกรุงเทพฯ - หาดใหญ่เท่านั้น

    เมื่อลงมากแล้วก็ตรงไปรับกระเป๋าที่สายพานที่ ๒ ซึ่งเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงแขกเร็วมาก ทำให้ได้ยินแต่คำว่า "Two" เท่านั้น เมื่อได้กระเป๋ามาเรียบร้อย พวกเราก็ต้องออกมากรอกหนังสือขออนุญาตเข้าเมือง ซึ่งในเรื่องของหนังสืออนุญาตนั้น ความจริงแล้วถ้าหากว่ามีมาให้เราก่อน แล้วกรอกข้อความทั้งหลายทั้งปวงให้เสร็จเรียบร้อย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

    แต่ว่าพวกเราเสียเวลาไปนานมาก ๆ เพราะว่าบรรดาพวกเราทั้งหลาย ส่วนหนึ่งนั้นก็เดาไม่ออกว่าสิ่งที่เขาต้องการให้เราตอบคืออะไร เหตุเพราะว่าเป็นศัพท์เฉพาะ ไม่ใช่ภาษาอังกฤษทั่วไป จึงต้องมีการ "ลอกการบ้าน" ส่งครู..!

    ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้น โชคดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ากรอกหนังสือยังไม่ทันจะครบ เหลืออีก ๔ ข้อ เจ้าหน้าที่ท่านคงรำคาญ ดึงไปพร้อมกับชี้ให้ดูว่า ตรงนี้ก็คือหมายเลขหนังสือเดินทาง เมื่อมองดูว่าตรงกันเสร็จ ก็ขีดอนุญาตให้ออกไปได้เลย พวกเรามารอจนกว่าจะครบคณะก็เป็นชั่วโมง แล้วขณะเดียวกัน ฝนก็ได้ตกลงมา ทำให้อากาศเย็นลดฮวบ ๆ ลงมา อยู่ในระดับ ๑๑ - ๑๒ องศาเซลเซียส กระผม/อาตมภาพได้แต่นึกขอบคุณเจ้าแม่นภิสราเทวีที่ให้แต่งตัวเต็มยศมา หาไม่แล้ว อากาศแบบนี้ มีหวังมาลาเรียเรื้อรังที่เป็นอยู่ได้กำเริบอย่างแน่นอน..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2023
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    แล้วพวกเราก็ต้องรอเอเย่นต์ด้านนี้ ซึ่งหารถมาให้แก่พวกเราจำนวน ๓ คันด้วยกัน เป็นรถตู้ของแดวูรุ่นทราเวลเลอร์ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกดีใจมาก เพราะว่ารถตู้มีถึง ๓ คัน ก็ไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดกัน เฉลี่ยกันนั่งแค่คันละ ๗ คนเท่านั้น แล้วก็วิ่งไปยังร้านอาหาร แต่ขอโทษเถอะ..ร้านอาหารทำไมถึงได้อยู่ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวขนาดนั้นก็ไม่รู้ !? พวกเราเดินทางไปถึงร้านอาหารเวลาบ่ายโมงครึ่งของทางด้านอินเดีย ก็แปลว่าเป็นเวลาบ่าย ๓ โมงของเมืองไทย ทุกคนเพิ่งจะได้กินอาหารมื้อกลางวันกันตอนนี้เอง..!

    ขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น
    กระผม/อาตมภาพได้ปรารภถึงเรื่องของสถานที่นี้ว่า แม้ว่าจะมีคลื่นโทรศัพท์ แต่ทุกอย่างถูกบล็อกหมด เมื่อถามทางด้านไกด์ที่ดูแลอยู่ เขาก็ไปตามบุคคลมา ๓ คน เพื่อที่จะดำเนินการให้โทรศัพท์ของพวกเราใช้การได้ ดูท่าว่าจะเป็นมืออาชีพอีกด้วย เนื่องเพราะว่ากรอกข้อมูลคล่องแคล่วมาก เพียงแต่ว่าเว้นที่ให้เรากรอกชื่อ ที่อยู่ และชื่อพ่อของตนเอง หลังจากนั้นก็มีการถ่ายรูป ซึ่งเขาก็ได้เตรียมผ้าขาวเป็นฉากหลังมาให้ด้วย เมื่อทำการลงทะเบียนแล้ว กระผม/อาตมภาพเองไม่สามารถใช้งานได้ ทางเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าต้องรอประมาณ ๒๐ นาที แล้วก็หันไปทำให้คนอื่นต่อไป

    แต่คราวนี้ถ้าหากว่าพวกเราช้าก็จะแย่ไปเลยทีเดียว เนื่องเพราะว่าทางด้านคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม อยากให้พวกเราไปชมสวนโมกุลนิสาทและสวนโมกุลชาลิมาร์ ซึ่งเป็นสวนของเจ้าผู้ครองนคร ตั้งแต่สมัยพระราชบิดาของพระเจ้าชาห์ จาฮาน ผู้สร้างทัชมาฮาล ปรากฏว่าพ่อเจ้าประคุณทั้ง ๓ คนกระโดดขึ้นรถตู้ไปทำการลงทะเบียนซิมให้กับพวกเราด้วย แต่ว่ากระผม/อาตมภาพ ไม่ว่าจะรีสตาร์ทเครื่องกี่รอบ ก็ไม่สามารถที่จะใช้งานได้..!

    เมื่อไปถึงสวนโมกุลนิสาท เดินเข้าไปข้างใน ทุกคนก็ไม่เป็นอันชมสวน เพราะว่าประการแรกนั้น ฝนเพิ่งจะตกเฉอะแฉะไปหมด ประการที่สอง คนที่อยากจะใช้งานโทรศัพท์มือถือได้ ก็พยายามที่จะลงทะเบียน จนกระทั่งชมสวนทั่วแล้ว ก็วนออกมาชมสวนโมกุลชาลิมาร์ เข้าไปในสวนชาลิมาร์ แล้วก็ยังมีการลงทะเบียนโทรศัพท์กันไม่เลิก..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2023
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,732
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,558
    ค่าพลัง:
    +26,399
    กระผม/อาตมภาพแปลกใจมาก จึงได้สอบถามจนได้ความว่า เขาต้องการให้พวกเราทุกคนลงทะเบียนโดยการซื้อซิมของเขาหมดทุกคน เพราะว่าเขาขายในราคาแพงกว่าปกติ ๑ เท่าตัว หลังจากที่ทุกคนลงทะเบียนเสร็จแล้ว เขาถึงจะเปิดให้ใช้งานได้พร้อมกัน

    จนกระทั่งมีคนคำรามอยู่ข้างหูว่า "มิน่าเล่า..โบราณถึงได้บอกว่า ถ้าเจองูกับแขก ให้ตีแขกก่อน" เมื่อทางด้านคุณนวลจันทร์ได้ทราบ ขณะที่พวกเราไปดูโรงงานทอพรม จึงได้ไปบีบคอสอบถามเจ้าสามพระหน่อนั้น ถึงได้รับคำตอบว่าเป็นความจริง ก็คือต้องการให้พวกเราลงทะเบียนให้เสร็จทุกคนก่อน

    ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงลุกออกจากโรงงานทอพรม โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เนื่องเพราะว่าทั้งเปียกฝน ทั้งหนาว แล้วขณะเดียวกันพักผ่อนไม่พอ มาลาเรียเรื้อรังจึงกำเริบ อยากจะเข้าสู่ที่พักในคืนนี้ จึงทำให้ทุกคนลุกออกมาหมด โดยไม่มีคนสนใจซื้อหา ไม่ว่าจะเป็นพรมประเภทใดเลยสักผืนเดียว..! เจ้าสามแสบถึงได้รีบเข้ารหัสรอบสุดท้าย เพื่อใช้ทุกคนใช้โทรศัพท์ได้..!

    เมื่อเดินทางมาจนกระทั่งถึงริมน้ำ ซึ่งเป็นสระกว้างใหญ่ไพศาลมาก
    กระผม/อาตมภาพก็เห็นว่ามีเรือพายจำนวนมากต่อมากด้วยกันที่มารอรับลูกค้า ซึ่งก็คือบุคคลที่จะไปพักยังบ้านเรือ หรือที่เขาเรียกว่า House Boat หลายต่อหลายคนเมื่อพร้อมแล้ว เรือก็ออก พาตัดข้ามน้ำไปส่งยังอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ

    กระผม/อาตมภาพแทบจะได้เรือเป็นลำสุดท้าย ซึ่งระบบการจัดการนั้น ดูแล้วไม่น่าที่จะทำเช่นนั้น ก็คือควรที่จะให้โอกาสว่า บรรดาเรือทุกลำนั้นเป็นเรือรับจ้าง พาใครไปส่งก็ได้ค่าแรง ก็สามารถที่จะส่งทุกคนไปยังบ้านพักเรือได้ แต่ว่าเขารอให้เรือของทางเจ้าของบ้านพักเรือแต่ละลำมารับ กระผม/อาตมภาพจึงแทบจะเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง บ้านซึ่งเป็นเรือลอยน้ำขนาดใหญ่โตมหึมา แกะสลักเสลาสวยงามมาก เมื่อเข้าไปภายใน การประดับตกแต่งทำให้นึกถึงพระราชวังต่าง ๆ ในสมัยก่อนทางยุโรป โดยเฉพาะพระราชวังในประเทศเยอรมัน

    กระผม/อาตมภาพเมื่อเข้ามาได้สักครู่หนึ่ง พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ก็มาบอกว่า ทางเรือมี WIFI ให้ หลังจากที่พ่อเจ้าประคุณสามพระหน่อทำการเปิดให้พวกเราใช้งานได้ ปรากฏว่าไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ยูทูบ กูเกิ้ล หรือว่าวีแช็ต ใช้งานได้หมด ยกเว้นไลน์เท่านั้น

    กระผม/อาตมภาพก็เข้าไวไฟของทางเรือโดยที่ไม่มีความหวัง แต่ปรากฏว่าพอกดปุ๊บ ข้อมูลของไลน์ที่อั้นมาทั้งวันก็ทะลักทลายมาอย่างเต็มที่ จึงได้ยิ้มออกเสียที เพราะว่างานค้างส่งจำนวนมากมายมหาศาล แต่ว่าขอมาใช้เวลาในการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปอดตาหลับขับตานอนในการส่งงานต่อไป

    สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2023
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...