เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 มีนาคม 2025 at 18:11.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,672
    ค่าพลัง:
    +26,533
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,672
    ค่าพลัง:
    +26,533
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ทางวัดท่าขนุนงดบิณฑบาตประจำวัน ๑ วัน เนื่องเพราะว่ามีการทำบุญอุทิศถวายหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๕ แล้วตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นอกจากวันที่ ๑๔ กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันทำบุญอุทิศถวายบูรพาจารย์วัดท่าขนุนแล้ว ทุกวันที่ ๑๔ ของเดือนนอกพรรษา ทางวัดจะหยุดบิณฑบาต เพื่อให้ชาวบ้านไปทำบุญใส่บาตรที่วัด ฟังการแสดงพระธรรมเทศนา และเจริญพระพุทธมนต์ถวายกุศลต่อหลวงปู่สาย ซึ่งได้กระทำต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

    ส่วนทุกวันที่ ๑๔ ในช่วงพรรษานั้น เนื่องจากว่าทุกวันพระมีการทำบุญเช้า และการแสดงพระธรรมเทศนาทั้งภาคเช้าและภาคค่ำแล้ว ดังนั้น..จึงเลือกเอาวันพระซึ่งใกล้วันที่ ๑๔ มากที่สุด หรือตรงกับวันที่ ๑๔ ได้เลยยิ่งดี ในการทำบุญอุทิศถวายหลวงปู่สาย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องหยุดซ้ำซ้อนกันหลายวัน

    กระผม/อาตมภาพอยู่แค่ฟังพระท่านขึ้นเทศน์ เมื่อตั้งนะโมฯ บอกศักราชเรียบร้อยแล้ว ก็ขอตัวเดินทาง วิ่งมาฉันเพลที่กลางทาง แล้วก็เข้าสู่หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล ถนนพุทธมณฑลสาย ๔ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เกือบจะไม่ทันการประชุมคณะกรรมการโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นทั้งคณะกรรมการหลักและอนุกรรมการด้วย

    วันนี้พระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ. ๙, Ph.D.) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ท่านต้องการความชัดเจนว่า คณะอนุกรรมการแต่ละฝ่ายที่ตั้งขึ้นมานั้น จะจัดงานอะไรเป็นการเฉลิมพระเกียรติบ้าง เพื่อที่การประชุมครั้งต่อไปจะได้ชี้แจงต่อทางองคมนตรี ซึ่งจะมาเป็นประธานในงานประชุมเดือนหน้า
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,672
    ค่าพลัง:
    +26,533
    เมื่อนั่งอยู่ในห้องประชุม ที่หนาวจับจิตจับใจได้ประมาณ ๑ ชั่วโมง กระผม/อาตมภาพก็ต้องขอตัว ฉันยาแก้ไข แล้วก็เดินทางกลับที่พักเลย ก่อนที่จะกลับออกมา ก็ได้เข้าไปหาท่านอาจารย์ประยูร (พระครูสุตรัตนบัณฑิต, ดร.) ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปัจจัยร่วมงานอบรมพระธรรมทูตรุ่นที่ ๓๑ ซึ่งมีพระภิกษุวัดท่าขนุนสอบผ่านเข้าไปอบรมอยู่ ๔ รูป

    ตั้งแต่ ดร.หนึ่ง (พระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร.) อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ได้สอบเข้าไปอบรมพระธรรมทูตแล้ว ทางวัดท่าขนุนก็มีการสอบเข้ารับการอบรมพระธรรมทูตต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ซึ่งทางวิทยาลัยธรรมทูตให้ความชื่นชมว่า พระภิกษุวัดท่าขนุนนั้นมีความคล่องตัวในภาษาอังกฤษสูงมาก จึงทำให้สามารถสอบผ่านเข้ารับการอบรมได้ครบทุกรูปที่สมัครเข้าไป

    ความจริงพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพก็จะเข้าไปเยี่ยมเยือนพระภิกษุวัดท่าขนุน ผู้เข้ารับการอบรมตามโครงการนี้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อเจอผู้อำนวยการธรรมทูตมาร่วมงานเอง จึงฝากถวายปัจจัยให้กับท่านไปก่อน ส่วนพรุ่งนี้ถ้าหากว่าท่านว่างเว้นจากการงาน ก็คงจะได้พบกันในงานที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเอง

    สำหรับวันนี้ เรื่องอื่นที่อยากจะพูดถึงก็มีหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็คือการจองวัตถุมงคลในเว็บไซต์วัดท่าขนุนนั้น ปัจจุบันนี้เมื่อดูหลักฐานการจอง การโอนเงิน และการส่งวัตถุมงคลต่าง ๆ แล้ว กระผม/อาตมภาพรู้สึกว่า
    ทางด้านเจ้าหน้าที่ของเว็บไซต์วัดท่าขนุน โดนเอาเปรียบจากบุคคลบางประเภท ซึ่งเมื่อจองวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วก็เอาไปจำหน่ายต่อ

    แต่ว่าด้วยความที่ต้องรอรับวัตถุมงคลภายหลัง ท่านก็เลยกลายเป็น "เสือนอนกิน" รับเอากำไรส่วนต่างไป โดยที่ผลักภาระในการส่งวัตถุมงคลให้กับทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนดำเนินการแทน ก็แปลว่าถ้าท่านเอาไปขายต่อ ๒๐ - ๓๐ ราย หรือว่าเป็น ๑๐๐ รายก็ตาม ผู้ที่จะต้องส่งวัตถุมงคลให้กับลูกค้าของท่านก็คือทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนนั่นเอง..!

    ในเมื่อเป็นดังนี้ กระผม/อาตมภาพจึงมาปรึกษาหารือกัน อยู่ในลักษณะที่ว่า ต่อไปถ้าหากว่าใครจองก็ส่งให้เฉพาะบุคคลนั้นเท่านั้น ส่วนเขาจองแล้วจะไปจำหน่ายให้ใคร ก็เป็นภาระของเขาที่จะต้องไปดำเนินการส่งให้ผู้ที่รับช่วงซื้อต่อกันเอง ไม่อย่างนั้นแล้ว ทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนก็ต้องแบกภาระหนักโดยใช่เหตุ เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็
    เป็นการหาช่องโหว่จากกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อที่จะก่อประโยชน์ให้เกิดต่อตนเองให้มากที่สุด ซึ่งทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนก็คงต้องคอยมาปิดช่องว่างรอยโหว่เหล่านี้ไปเรื่อย ๆ..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,672
    ค่าพลัง:
    +26,533
    เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นความฉลาดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าในภาษาบาลี ท่านก็แยกความฉลาดออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ก็คือ "กุสโล" คือความฉลาดที่จะสร้างบุญสร้างกุศล "โกวิโท" คือความฉลาดในการดำเนินชีวิต ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แต่ถ้าเป็น"เฉโก" ก็คือฉลาดแกมโกง เอาแต่ประโยชน์เข้าตัว ผลักชั่วให้คนอื่น เหล่านี้เป็นต้น

    ดังนั้น..ใครที่เคยประพฤติเอาไว้เช่นนี้ก็โปรดทราบว่าในครั้งนี้ถือว่ายกให้ท่าน แต่ถ้าหากว่าการจองครั้งต่อไป ซึ่งจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ต่อให้ท่านจองมาเป็น ๑,๐๐๐ องค์ ก็โปรดรับภาระไปแจกจ่ายเองก็แล้วกัน..!

    ในส่วนนี้จะว่าไปแล้ว ก็เป็นความผิดพลาดของเราอย่างหนึ่ง ซึ่งบางคนก็ตำหนิทางเว็บวัดท่าขนุน
    ว่า "ทำไมไม่จำกัดการจอง ?" กระผม/อาตมภาพเห็นว่าการจำกัดการจองนั้น อันดับแรกเลยก็คือท่านที่ตั้งใจจะจองมาก ก็เสียเวลาในการรอคอย เนื่องเพราะว่าบางทีท่านก็รับฝากมาจากบุคคลรอบข้าง แต่ในเมื่อจองได้แค่คนเดียวเท่านั้น หรือว่าองค์เดียวเท่านั้น แล้วคนอื่น ๆ มัวแต่รออยู่ ไม่เข้ามาจอง จด ๆ จ้อง ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็จะมาเข้าเหตุผลในข้อที่ ๒ ก็คือ ทำให้เกิดการล่าช้าต่าง ๆ ขึ้นมาได้

    และโดยเฉพาะท่านที่อยากได้ ไม่สามารถจะฝากจอง ก็ต้องเข้าไปสมัครยูสเซอร์เนมเพิ่มขึ้นมา เพื่อที่จะได้จองเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ถึงเวลาแล้วเมื่อทุกคนประดังเข้ามาพร้อม ๆ กัน บางทีทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนอาจจะ "ล่ม" เพราะว่ารับคนจำนวนมากขนาดนั้นไม่ไหวก็มี ดังนั้น..จึงขอสรุปว่า เรื่องนี้ในครั้งต่อไปที่ท่านจอง ก็จงเตรียมตัวที่จะส่งให้กับลูกค้าที่รับช่วงต่อจากท่านเองไปด้วย

    เรื่องต่อไปที่อยากจะพูดถึงก็คือ เมื่อเช้าที่ผ่านมานั้น ทางพระสงฆ์วัดท่าขนุนของเราได้มีการให้ศีลและบอกศักราช แต่ว่าอยู่ในลักษณะ "อ่อนซ้อม" การที่ท่านทั้งหลายขึ้นสู่ธรรมาสน์นั้น มีเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย ถ้าหากว่าเป็นงานทำบุญถวายหลวงปู่สายก็เดือนละครั้ง แต่ถ้าหากว่าเป็นช่วงเข้าพรรษา อย่างน้อยก็มีเวลา ๗ วัน การซักซ้อมแค่ให้ศีลและบอกศักราช ไม่น่าจะเกินความสามารถ แต่เด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบัน บางทีก็อ่านภาษาไทยไม่แตกบ้าง เว้นวรรคไม่ถูกต้อง จนทำให้ความหมายเสียไปบ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่เราต้องฝึกฝนขัดเกลาตัวเองให้หนักยิ่งขึ้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,672
    ค่าพลัง:
    +26,533
    ในบางส่วนที่กระผม/อาตมภาพเคยนำท่านทั้งหลายอุทิศส่วนกุศล อย่างเช่นว่า "ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด" ก็มักจะมีบุคคลรุ่นใหม่ว่า ขอให้เทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราช ฯลฯ ซึ่งคำนี้ไม่ได้ใช้คำว่า "ขอให้" แต่ว่าเป็น "ขอ...จง" จะเป็นคำสันธานซ้อนคำสันธานอยู่ในประโยคยาว ๆ ก็คือ "ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราช จงอนุโมทนาฯ"

    ดังนั้น..ท่านที่ใช้คำว่า "ขอให้" จึงเป็นการใช้คำที่ผิดหลักภาษาไทย แล้วก็ดันไปอวดรู้เสียอีกว่า กระผม/อาตมภาพนำผิด หรือว่าตกหล่น..!

    เรื่องพวกนี้เราเป็นเจ้าของภาษา อย่างไรเสียก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจเพียงพอที่จะแนะนำกับชาวต่างชาติ หรือว่าบุคคลที่เรียนมาน้อยกว่าด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ การใช้คำว่า กับ แก่ แด่ ต่อ และ หรือ ก็ยังใช้กันผิดพลาดเป็นจำนวนมาก

    ในงานประชุมบรรดาเจ้าหน้าที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตอนช่วงบ่ายวันนี้ ยังมีการถกเถียงถึงการโยกย้ายบุคลากร ว่าใช้คำว่า "ย้าย" ตอนไหน ใช้คำว่า "โอน" ตอนไหน แล้วก็สรุปว่าคำว่า "โอน" นั้นเป็นการโยกย้ายบุคลากรข้ามหน่วยงาน แต่ว่าการ "ย้าย" นั้น เป็นการย้ายบุคลากรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงขนาดต้องมีการประชุมกันเพื่อตกลงกันในการใช้คำให้ถูกต้อง กระผม/อาตมภาพก็ชักจะรู้สึกสงสารภาษาไทยขึ้นมาเต็มที พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงคิดอักษรไทยขึ้นมา เพื่อที่ให้เราท่านทั้งหลายจะได้จดจารจารึกต่าง ๆ เอาไว้เป็นหลักฐานกันลืม และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น แต่ปรากฏว่าการเรียนรู้ของพวกเรากลับถอยหลังไปอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า ภาษาพ่อภาษาแม่ของเราแท้ ๆ แต่ไม่สามารถที่จะใช้งานให้ดีได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...