เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 7 กันยายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,759
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,561
    ค่าพลัง:
    +26,401
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,759
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,561
    ค่าพลัง:
    +26,401
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ หลังจากที่ได้ตรวจแก้บันทึกการประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ทั้งครั้งที่ ๒ และวาระพิเศษครั้งที่ ๓ แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้พาคณะสงฆ์วัดท่าขนุน เดินทางเข้าไปยังวัดชะอี้สุวิมลธรรมาราม หมู่ที่ ๗ บ้านชะอี้ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมกันเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายเชียว สาขะยัง โยมบิดาพระอธิการสุชาติ ญาณพโล เจ้าอาวาสวัดชะอี้สุวิมลธรรมาราม

    ถ้าเป็นสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเป็นเจ้าคณะตำบลดูแลพื้นที่แห่งนี้อยู่ ถ้าเป็นช่วงนั้นเข้ามาในหน้านี้ก็ต้องทั้งขุดทั้งเข็นรถ กว่าที่จะไปถึงก็อาจจะเป็นวัน ๆ แต่ว่าในสมัยนี้มีองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งเป็นองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยกันดูแลพื้นที่ ก็มีการราดคอนกรีตเป็นระยะไปตามบริเวณหน้าหมู่บ้าน จึงทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก แต่ว่าก็ยังมีเรื่องของฝนฟ้าที่ตกต้องตามฤดูกาลจนเกินไป ทำให้การเดินทางมีอุปสรรคเช่นกัน

    ในเรื่องของงานศพ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นบิดามารดาของพระตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาสขึ้นไป ต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของบรรดาพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับเจ้าอาวาสขึ้นไป จะมาช่วยกันเป็นเจ้าภาพ ถวายกำลังใจให้แก่ท่านผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป โดยเฉพาะผู้ที่อายุยืนขนาดนายเชียว สาขะยัง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าได้มรณะลงด้วยอายุ ๘๑ ปี

    ถ้าหากว่าเป็นสุภาษิตจีน ท่านกล่าวเอาไว้ว่า "คนอายุถึง ๗๐ ก็เป็นเรื่องที่หาได้ยาก" โดยเฉพาะในสมัยก่อน มักจะเจ็บไข้ได้ป่วย ถึงแก่ชีวิตลงตั้งแต่อายุยังน้อยบ้าง ต้องออกรบทัพจับศึก ทำให้เสียชีวิตลงก่อนวัยอันควรบ้าง จึงทำให้มีสุภาษิตนี้ขึ้นมา แต่ว่าในสมัยนี้การแพทย์ต่าง ๆ ดีขึ้น จึงทำให้คนเรามีอายุขัยยืนยาวมากขึ้น

    โดยเฉพาะบุคคลที่มีปาณาติบาตน้อย ไม่จำเป็นต้องพึ่งเรื่องของการแพทย์ เฉพาะคุณงามความดีที่ตนเองสร้างสมเอาไว้ ก็ทำให้มีโรคน้อย มีอายุขัยยืนยาว คุณงามความดีตรงนี้ก็คือ เป็นผู้ที่เบียดเบียนคนอื่นสัตว์อื่นมาน้อย หรือว่าทำร้ายชีวิตคนอื่นสัตว์อื่นมาน้อย ทำให้เกิดมาชาตินี้มีโรคน้อย มีอายุขัยยืนยาว

     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,759
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,561
    ค่าพลัง:
    +26,401
    ถ้าหากว่านับอายุขัยในพระไตรปิฎก บุคคลสมัยนั้นอายุขัย ๑๐๐ ปีเป็นประมาณ ที่อยู่ถึง ๑๒๐ ปี ถือว่าเป็นเรื่องปกติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ถือว่าเป็นบุคคลที่อายุน้อยในสมัยนั้น เกิดจากการที่ในชาติหนึ่งท่านไปทำลายชีวิตรากษส ซึ่งมาจับคนกินเป็นอาหาร เพื่อที่จะเอารางวัลไปเลี้ยงพ่อแม่ของตน

    รากษสนั้นมีอายุได้ ๘๐ ปี บอกว่า "ถ้าท่านทำลายชีวิตของเรา เมื่อบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านก็จะมีอายุไม่เกิน ๘๐ ปี" แต่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอายุขัยว่าจะยาวหรือสั้น ด้วยกำลังใจของบุคคลที่เป็นพระโพธิสัตว์นั้น ถ้าเพื่อประโยชน์ของคนหมู่มาก เพื่อความสุขของคนหมู่มาก แม้ว่าตนเองจะต้องสิ้นอายุขัยตายลงไปเดี๋ยวนั้น ก็ยินดีที่จะทำ..!

    ดังนั้น..พระโพธิสัตว์จึงได้ฆ่ารากษส แล้วทำให้ชาตินี้เมื่อพระองค์ท่านบรรลุบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จึงได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาแค่ ๔๕ ปี เมื่อพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพานไปตามวาระกรรมที่ได้สร้างเอาไว้

    อีกท่านหนึ่งที่อายุขัยยืนยาวเกินประมาณก็คือพระพากุลเถระ พระพากุลเถระที่ได้ชื่อว่า "พากุละ" แปลว่า "๒ ตระกูล" ก็เนื่องเพราะว่าท่านเป็นลูกของมหาเศรษฐีอีกเมืองหนึ่ง เมื่อวันที่คลอด พี่เลี้ยงนำไปล้างตัวในแม่น้ำหน้าบ้าน ปรากฏว่ามีปลาใหญ่เห็นเป็นอาหาร ฮุบเอาเด็กทารกกลืนลงท้องไปเลย แต่ว่าด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ท่านได้สร้างเอาไว้ ทำให้ปลาใหญ่นั้นทุรนทุรายดิ้นรนไปจนถึงอีกเมืองหนึ่งก็ติดตาข่าย โดนนำไปจำหน่ายในตลาด

    คนใช้บ้านมหาเศรษฐีเมืองนั้นเห็นปลาตัวใหญ่มาก ถ้าหากว่าซื้อมาทำเป็นอาหารก็น่าจะเลี้ยงคนจำนวนมากได้พอเพียง เนื่องเพราะว่าในสมัยนั้นบรรดามหาเศรษฐีมักจะมีบริวารมาก เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้ซื้อปลาใหญ่ตัวนั้นกลับบ้านไป แล้วตั้งใจจะทำเป็นอาหาร

    แต่เมื่อผ่าท้องออกมา ปรากฏว่าพบเด็กทารกนอนหลับสบายอยู่ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่สร้างมา แม้อยู่ในกระเพาะปลาก็ไม่ได้มีอันตรายใด ๆ สามารถที่จะกลับคืนเข้าสู่ภาวะทารกในครรภ์มารดา คือหายใจทางผิวหนัง หรือว่าทางท้องแทน จึงทำให้รอดชีวิตมาได้..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,759
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,561
    ค่าพลัง:
    +26,401
    มหาเศรษฐีท่านนั้นพยายามเท่าไรก็ไม่มีลูก อยู่ ๆ ได้เด็กทารกจากท้องปลาก็ดีใจมาก รับเลี้ยงดูเป็นบุตรของตนเองด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าเมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปแล้ว ก็ทำให้มหาเศรษฐีอีกเมืองหนึ่งที่สูญเสียบุตรไป มั่นใจว่าเป็นลูกของตัวเอง จึงได้ยกกองกำลังของตนมา เพื่อขอลูกคืน

    มหาเศรษฐีบ้านนี้ไม่ยอมคืนให้ ตั้งทัพประจัญจะเข่นฆ่ากันแล้ว จนกระทั่งเดือดร้อนพระเจ้าปเสนทิโกศลต้องเข้ามาตัดสินให้ทั้ง ๒ ครอบครัวผลัดกันเลี้ยงดูคนละ ๓ เดือน จึงได้ตั้งชื่อแก่เด็กทารกนั้นว่า พากุลกุมาร แปลว่า กุมารของ ๒ ตระกูล

    เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมา เห็นทุกข์เห็นโทษของชีวิต ได้ออกบวชในบวรพระพุทธศาสนา บรรลุเป็นพระอรหันต์ ได้รับการแต่งตั้งจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเอตทัคคะ คือผู้ยอดเยี่ยมในทางมีโรคน้อย

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า สาเหตุที่พระพากุลเถระมีโรคน้อย เพราะว่าในอดีตเคยสร้างวัจกุฎี คือส้วม ถวายวัดเอาไว้ เพื่อช่วยปลดทุกข์หนักเบาให้แก่พระภิกษุสามเณร เกิดมาชาตินี้จึงเป็นผู้มีโรคน้อยมาก นอกจากความหิวตามปกติของร่างกายแล้ว แม้แต่สมอสักชิ้นหนึ่งที่จะฉันเพื่อรักษาโรคของตนเองก็ไม่เคย

    ท่านอายุยืนยาวมาจนถึง ๑๕๐ ปี แล้วเบื่อหน่ายชีวิตซึ่งเต็มไปด้วยความทุกข์ จึงได้เข้าสู่ห้องของตน เข้ากรรมฐานถอดจิตทิ้งกายไปเฉย ๆ จึงกลายเป็นบุคคลที่อายุยืนที่สุดในพระไตรปิฎก ก็แปลว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น อายุขัยสั้นกว่าปกติของคนยุคนั้น และพระพากุลเถระอายุขัยยืนยาวกว่าพระ หรือว่าคนในสมัยนั้น เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ล้วนแล้วแต่บุญเก่ากรรมเก่าที่ตนเองได้กระทำมา
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,759
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,561
    ค่าพลัง:
    +26,401
    ส่วนคนในสมัยปัจจุบันของเรานี้ ถ้าหากว่านับอายุขัยตามการคำนวณที่ว่า ระยะเวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี อายุขัยของคนจะลดลง ๑ ปี จากที่อายุขัย ๑๐๐ ปีเป็นประมาณในสมัยพุทธกาล เมื่อผ่านมา ๒,๕๐๐ กว่าปี อายุขัยก็ลดลงประมาณ ๒๕ ปีครึ่ง..!

    ดังนั้น..บุคคลในยุคปัจจุบันนี้ ถ้าอายุถึง ๗๔ ปีครึ่ง แปลว่าเป็นผู้ที่อายุขัยอยู่ในประมาณการแล้ว ถ้าอายุเกินกว่านั้น ก็แปลว่าท่านทั้งหลายอายุเกินกว่าเกณฑ์ปกติ

    การที่นายเชียว สาขะยัง โยมบิดาพระอธิการสุชาติ ญาณพโล เจ้าอาวาสวัดชะอี้สุวิมลธรรมาราม เป็นผู้มีอายุขัยยืนยาวมาถึง ๘๑ ปี ก็แปลว่าเป็นบุคคลที่มีกรรมน้อย มีการเบียดเบียนคนอื่นสัตว์อื่นมาน้อย ทำให้อายุขัยยืนยาว เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นผู้ที่มีบุญ มีลูกชายได้บวชจนกระทั่งเป็นเจ้าอาวาส แล้วทำให้บรรดาเจ้าคณะพระสังฆาธิการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ต้องร่วมกันมาบำเพ็ญกุศลอุทิศให้

    จึงถือว่าเป็นผู้ที่ประกอบไปด้วยปุพเพกตปุญญตา คือบุคคลที่สั่งสมบุญมาดีตั้งแต่อดีต ทำให้มีบุคคลอื่นมาสร้างบุญสร้างกุศลให้ยังไม่พอ ผู้ที่สร้างบุญสร้างกุศล ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าคณะปกครองในคณะสงฆ์ ซ้ำยังมีลูกชายบวชให้จนเป็นเจ้าอาวาสอีกด้วย

    ท่านเป็นผู้ที่สร้างบุญสร้างกุศลมาดีแล้ว ควรที่จะเป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่นได้ว่า บุคคลที่เบียดเบียนคนและสัตว์มาน้อย ย่อมมีอายุขัยยืนยาว บุคคลที่รักษาศีล ปฏิบัติธรรม มีเมตตาเป็นปกติ ย่อมเป็นบุคคลที่มีจิตใจเยือกเย็น มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส ไปที่ไหนก็มีบุคคลที่ยินดีต้อนรับ เหล่านี้เป็นต้น

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...