เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 4 ตุลาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,704
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,556
    ค่าพลัง:
    +26,395
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,704
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,556
    ค่าพลัง:
    +26,395
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตั้งแต่เช้าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ก็ติดต่อมา ให้กระผม/อาตมภาพพยายามหาวันว่าง เนื่องเพราะว่าคุณลูกเธอจะจัดทัวร์ไปเมืองซาปา ประเทศเวียดนาม กว่าที่กระผม/อาตมภาพจะไล่วันเวลา ไปได้วันว่างเพียงพอที่จะเดินทางได้ ก็ตกเดือนมีนาคม ปี ๒๕๖๗ โน่น..!

    ญาติโยมทั้งหลายอาจจะรู้สึกเหลือเชื่อว่า "การหยุดต่อเนื่องกันแค่ ๔ วัน หายากขนาดนี้เลยหรือ ?" ก็คงจะต้องบอกว่าหายากขนาดนั้นจริง ๆ หลายท่านที่นิมนต์กระผม/อาตมภาพมาแบบกระชั้น ว่าให้ไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดนั้นวัดนี้ ภายในวันมะรืน มะเรื่อง เหล่านี้เป็นต้น กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ถ้าจะนิมนต์เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน นิมนต์ข้ามปียังไม่ค่อยจะได้เลย..!"

    โดยเฉพาะวันอาทิตย์นี้ ยังต้องขออนุญาตยกเลิกการไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลให้หลวงปู่เจ้าคุณศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ) วัดพระธาตุหมื่นหิน เพราะว่าได้รับฎีกาหลวง ต้องใช้พัดยศออกงาน ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทางวัดพระธาตุหมื่นหิน โดยเฉพาะพระครูปลัดของหลวงปู่เจ้าคุณศิลายังบอกว่า "ให้ยกเลิกได้ แล้วก็รีบไปงานหลวงแทน จะได้เป็นเจ้าคุณไว ๆ"

    กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วยังออกอาการ "น้ำตาจิไหล..!" ขนาดเป็นแค่พระครู ยังหาเวลาว่างไม่ได้ ขืนเป็นเจ้าคุณไปมีหวังไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต..!

    เรื่องของการไปที่เมืองซาปา ประเทศเวียดนามนั้น ส่วนใหญ่ที่เขาไปกันเพราะต้องการจะดูหิมะ เนื่องเพราะว่าในรอบบริเวณเอเชียใต้ หรือว่าอาเซียนของเรานั้น มีแค่ ๒ ประเทศที่มีหิมะเป็นปกติ ก็คือประเทศพม่าและประเทศเวียดนาม

    ประเทศพม่านั้น หิมะตกหนักทุกปี ทางด้านเมืองมิตจีน่าของรัฐกะฉิ่น โดยเฉพาะเทือกเขาคากาโบราซี แต่ว่าทางด้านเมืองซาปาของประเทศเวียดนามนั้น ต้องลุ้นกันว่าดวงของท่านเหมาะสมกับหิมะหรือไม่ ? เพราะว่ามาบ้างไม่มาบ้าง ปีไหนถ้าหากว่าอากาศหนาวจากประเทศจีนกดดันลงมารุนแรง ก็ไม่ปรากฏหิมะ แต่ถ้าหากว่าอากาศหนาวไม่หนักมาก เหลือความชื้นอยู่บ้าง หิมะก็จะปรากฏขึ้น จึงเป็นเรื่องของดวงขนานแท้

    กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้ไปยังสถานที่นั้นมาก่อน จึงไม่รู้ว่าเจ้าที่เจ้าทางท่านเป็นใคร ไม่รู้จักมักจี่กัน
    เมื่อถึงเวลาก็ไม่รู้ว่าจะไปขอร้องกันอย่างไร นอกจากไปถึงสถานที่นั้น ๆ แล้ว ค่อยเปิดเจรจาผูกสัมพันธไมตรีกัน ถ้าหากว่าท่านเห็นใจ ก็ช่วยทำให้กระผม/อาตมภาพได้พบหิมะหน้าร้อนมาแล้วถึง ๒ ครั้ง..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,704
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,556
    ค่าพลัง:
    +26,395
    ครั้งแรกก็คือที่ยอดเขาทิตลิส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งหิมะถล่มลงมาหนักมาก โดยเฉพาะตกอยู่ในช่วงฤดูร้อนจนกลายเป็นข่าวใหญ่ แล้วมีการสืบย้อนหลังไปด้วยว่ากี่ปี ๆ เคยมีหิมะตกฤดูร้อนแบบนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อกระผม/อาตมภาพเปิดบันทึกส่วนตัว จึงเห็นว่าเป็นวันที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านขึ้นไปที่ยอดเขาทิตลิสเหมือนกัน แปลว่าเจ้าที่ของที่นั่นรักพระสายวัดท่าซุงมาก สงเคราะห์ "หลวงพ่อ" แล้วก็ยังสงเคราะห์ "หลวงลูก" ด้วย

    อีกครั้งหนึ่งก็จากการที่ไปยังด่านคุนจีรับ ซึ่งเป็นเขตของปากีสถานต่อกับประเทศจีน ในคณะปรารภกันว่าอยากจะเห็นหิมะ ทั้ง ๆ ที่เป็นฤดูร้อน แต่ว่าเจ้าที่ท่านจัดให้อย่างเต็มที่เต็มทาง โดยเฉพาะทางด้านผู้ติดต่อประสานงานของฝั่งปากีสถาน ถอดใจจะเดินทางกลับแล้ว เนื่องจากฝนตกหนัก เหตุเพราะว่าเทือกเขาคาราโครัมนั้น ส่วนใหญ่แล้วอากาศกลางคืนหนาวจัด กลางวันร้อนจัด จึงทำให้บรรดาภูเขาหินต่าง ๆ เกิดการหดตัวและยืดขยาย คือกลางคืนหดตัว กลางวันยืดขยาย แล้วทำให้ผิวหน้าของหินมีการแตกออกมาเป็นแผ่น ๆ หรือว่าเป็นก้อนที่เล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก

    เมื่อถึงเวลาสะสมรวมกันมาก ๆ โดนน้ำฝนชะเข้าก็ถล่มลงมาปิดถนน บางทีก็ทับรถยนต์หายไปทั้งคัน..! ทำให้ผู้ติดต่อประสานงานเกิดความกังวลว่าจะพาพวกเราไปตายเสียเปล่า ๆ จึงขอย้อนกลับ แต่ปรากฏว่าทันทีทันใดนั้น หิมะก็มาให้เห็นต่อหน้าต่อตา ถึงขนาดนายคาชาน ฟารุก ซึ่งเป็นไกด์ของทางฝั่งปากีสถานออกปากว่า "Snow OK, Rain not OK"

    กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ เนื่องเพราะติดนิสัยว่าเดินทางไปไหนก็ตาม จะตั้งใจตั้งแต่ก่อนเดินทางว่า "ขออุทิศส่วนกุศลที่ได้ทำมา โดยเฉพาะในส่วนของ ทาน ศีล ภาวนา แก่เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายที่รักษาตลอดเส้นทางที่ลูกได้เดินทางในวันหนึ่งคืนหนึ่งนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้อนุโมทนา และช่วยอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้ตลอดเส้นทาง" ดังนั้น..บางทีคำอธิษฐานแบบนี้ก็พากระผม/อาตมภาพเข้าป่าเข้าดง ไปยังเส้นทางที่ไม่ต้องการ เนื่องเพราะว่าถ้าผ่านไป เขาก็มีสิทธิ์ที่จะโมทนา จนกระทั่งต้องมาแก้ไขกันอุตลุดว่า "ถ้าใครทำให้ต้องหลงทางแบบนี้ ต่อไปจะไม่ให้อนุโมทนาบุญอีก..!"

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บรรดาเจ้าที่กลัวว่าเราจะเดินทางกลับ เมื่อไปไม่ถึง เขาก็ไม่มีโอกาสได้อนุโมทนา จึงต้องรีบจัดหิมะมาให้ แล้วก็ตกกระหน่ำกันอย่างหนักมาก ซึ่งกระผม/อาตมภาพเดินลงไปข้างนอกรถแล้ว เพิ่งจะรู้ว่าหิมะ ซึ่งเวลากระทบตัวเราแล้วละลายเป็นน้ำนั้น เวลาอยู่ท่ามกลางพายุแล้ว เหมือนกับเม็ดทรายดี ๆ นี่เอง กระทบใบหน้าของเราเข้าไปแล้วก็เจ็บแสบไปหมด ถึงขนาดต้องตลบจีวรขึ้นมาพันหัวพันหูเอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วหิมะก็ไม่ปรานีปราศรัยกับพวกเราเลย..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,704
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,556
    ค่าพลัง:
    +26,395
    ดังนั้น..การไปเมืองซาปา ประเทศเวียดนาม ในครั้งนี้ ถ้าญาติโยมท่านใดจะร่วมทริปไป ก็ให้เข้าไปในเว็บเพจของกิฟท์จังพลังเวทย์ หรือว่าเติมเต็มทัวร์ แล้วลองไปจองดู กระผม/อาตมภาพก็ไม่แน่ใจว่าราคาจะเป็นสักเท่าไร เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วง "ไฮซีซั่น" ของเขาด้วย แล้วขณะเดียวกันก็ไม่รับรองด้วยว่าจะได้เห็นหิมะหรือไม่ ? ถือว่าเป็นเรื่องของการเสี่ยงดวงก็แล้วกัน แต่รับประกันความหนาวให้ว่าหนาวแน่ ๆ..!

    ส่วนเรื่องที่อยากจะพูดอีกก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน จากการที่มีเด็กอายุ ๑๔ ไปกราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพเองก็ยังเห็นว่ากฎหมายไทยนั้นอ่อนเกินไป เนื่องเพราะว่าเยาวชนทำผิดแล้วไม่ได้รับโทษแบบเดียวกับผู้ใหญ่ ทั้งที่ไปก่ออาชญากรรมถึงขนาดยิงคนเจ็บตายไปมากมายขนาดนั้น..!

    ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกตเหมือนที่กระผม/อาตมภาพสังเกตจะเห็นว่า เด็กคนนี้แต่งตัวเลียนแบบตัวละครในเกม ถึงเวลาก็เดินไล่ยิงคนอื่น ขึ้นไปทีละชั้น ๆ เหมือนอย่างกับฝ่าด่านบอสของแต่ละเกมไป ส่วนที่อยากจะตำหนิก็คือว่า ทำไมเด็กเขาถึงไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นโลกแห่งความจริง อะไรเป็นโลกในเกม ?

    การที่เราขาดสติขนาดนั้น ทำให้น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนของเราถ้าหากว่าไม่มีการรับโทษที่หนักสักหน่อยแล้ว ก็อาจจะมีการเลียนแบบตามกันในลักษณะนี้ในอีกไม่นาน ช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็มีเยาวชนหญิง ๒ คน ซึ่งเรียนอยู่แค่มัธยมปีที่ ๔ ลวงเพื่อนหญิงไปกดน้ำตาย เพราะว่ามีการแย่งผู้ชายคนเดียวกัน..!

    ลักษณะของเยาวชนก่อเหตุอาชญากรรมแบบนี้ กฎหมายบ้านเราต้องบอกว่าอ่อนมาก ความจริงแล้วมีวิธีดัดสันดานที่ดีกว่าการส่งเข้าสถานพินิจเยาวชน ก็คือส่งเข้ากรมทหารไปเลย ปล่อยให้ฝึกหนักเต็มหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรของนักเรียนนายสิบ หรือว่านักเรียนนายร้อย ถ้าหากว่าผ่านหลักสูตรแบบนั้นมา รับประกันว่าได้สติทุกคน..!

    เพียงแต่ว่าถ้าหากว่ายังไม่เลิกนิสัยเก่า เราก็อาจจะได้อาชญากรที่มีฝีมือร้ายกาจขึ้นมา ชนิดที่ตำรวจเอาไม่อยู่ แต่ขอยืนยันว่าถ้าใครทำแบบนั้น อนาคตก็คือตายโหงทุกราย..! เนื่องเพราะว่าถ้าคุณมีฝีมือระดับนั้น ก็คงไม่มีใครที่อยากจะค่อย ๆ มาจับเป็น เนื่องเพราะว่าเสี่ยงชีวิตทั้งของตนเองและของผู้อื่น

    ในเมื่อมีการเตรียมการพร้อมไปในลักษณะอย่างนั้น แม้กระทั่งการแต่งตัว ก็แต่งตัวพร้อมในลักษณะเหมือนอย่างกับไปเล่นเกม แล้วจะไปอ้างว่าป่วยเป็นโรคจิตนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เนื่องเพราะว่าการตัดสินใจ วิจารณญาณทุกอย่างของเขายังสมบูรณ์เป็นปกติ เมื่อเห็นหน่วยจู่โจมมา แล้วตัวเองกระสุนหมด ก็ยังรู้ว่าควรที่จะยอมจำนน ลักษณะนี้ กระผม/อาตมภาพเชื่อว่าไม่ใช่ผู้ป่วยจิตเวชแน่นอน แต่ว่าก็เป็นเรื่องของทางด้านตำรวจ อัยการ และศาลจะตัดสินอีกทีว่าจะลงโทษกันแบบใด
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,704
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,556
    ค่าพลัง:
    +26,395
    แต่จุดที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือว่า ถ้าหากกฎหมายของเรายังอ่อนอยู่ในลักษณะแบบนี้ โอกาสที่จะเกิดการเลียนแบบจะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบุคคลที่เห็นว่าการทำชั่วแล้วเพื่อนฝูงให้การยกย่อง หรือว่าพ่อแม่หันมาสนใจ ต่อให้หันมาสนใจแบบด่าว่า ลูกก็ยังถือว่าพ่อแม่สนใจ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ทิ้งให้ลูกอยู่กับเงิน ทิ้งให้ลูกอยู่กับโทรศัพท์ ทิ้งให้ลูกอยู่กับเกม ซึ่งเป็นตัวอันตรายทั้งสิ้น..!

    โดยเฉพาะการทิ้งให้ลูกอยู่กับเงิน ถ้าหากว่าไปโรงเรียนแล้วมีเงินไปจับจ่ายใช้สอย ก็มักจะดึงดูดยาเสพติดเข้ามา เนื่องเพราะว่าพวกค้ายาเสพติดเมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้มีเงิน ถ้าติดยาแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องหาเงินมาซื้อยาได้ ก็พยายามไปตีสนิท หลอกลวงจนกระทั่งติดยา แล้วกลายเป็นทาส หาเงินบำรุงบำเรอให้กับพวกเขาต่อไป บรรดาพ่อแม่ทั้งหลาย ต้องให้ความเอาใจใส่กับบุตรหลานของตนเองให้มากกว่านี้ จะอ้างว่าทำงานจนไม่มีเวลาไม่ได้ คำว่าพ่อ คำว่าแม่นั้น ต่อให้ไม่ว่างขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องมาให้ความสนใจกับลูก ๆ ของตนเอง

    วันก่อน กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะได้ดูคลิปที่เพื่อนฝูงส่งมาในกลุ่มไลน์ เป็นการโฆษณา ต้องบอกว่าเครื่องอาบน้ำยี่ห้อหนึ่ง ที่มีสัมผัสละมุนเหมือนกับมือแม่ แล้วก็ทำให้กลายเป็นเด็กสุขภาพจิตดี จนกระทั่งเติบโตขึ้นมา เพื่อนฝูงจะกลั่นแกล้งอย่างไร ก็สามารถที่จะรักษาอารมณ์ใจของตนเองไว้ได้ ซึ่งทุกคนก็หลงทางตามไปหมดในตอนแรก คิดว่าเป็นเรื่องของนักเลงนักเรียนเหล่านั้น เป็นต้น

    แต่มาหักมุมตอนท้าย กลายเป็นโฆษณาเครื่องอาบน้ำของยี่ห้อนั้น ต้องขอชมว่าท่านครีเอทีฟผู้คิดเรื่องนี้ขึ้นมา แล้วสามารถผูกเป็นโฆษณาขึ้นมาได้ สมควรที่จะได้รับรางวัลระดับโลกเป็นอย่างยิ่ง..!

    ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ควรที่จะทำอย่างในโฆษณา ก็คือให้ความเอาใจใส่ลูกตั้งแต่เล็ก ๆ เด็กที่เติบโตขึ้นมา จะได้เป็นบุคคลที่มีสุขภาพจิตสมบูรณ์ ไม่ใช่ขาด ๆ เกิน ๆ แล้วแต่เวรแต่กรรม แล้วก็กลายเป็นปัญหาสังคม ถึงเวลาก็มาหงายไพ่ว่า "ลูกฉันเป็นคนดี" "ลูกของฉันเป็นกำลังหลักของครอบครัว" เรื่องพวกนี้เมื่อมาพูดทีหลังก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่กลายเป็นขยายความโง่ และความไม่ใส่ใจในครอบครัวของตนเองมากกว่า..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...