เรื่องเด่น ปฏิบัติดียังมีโอกาสลงนรก (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)

ผู้ที่มีการปฏิบัติดี เช่นไม่ขาดศีล ๕ ไม่ขาดสรณคมณ์ แต่ถ้ามี "อารมณ์ฟุ้ง" ทำให้ตนเองไปเกิดในอบายภูมิ ๔ ได้

ขณะเดียวกันคนที่ไม่มีศีล หรือปรามาส พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจะต้องลงนรก

ยกตัวอย่าง "พระนางมัลลิกา" เป็นผู้ที่มีความประพฤติการปฏิบัติดีมากยากที่บุคคลอื่นจะพึงทำได้ อารมณ์ใจของพระนางเต็มไปด้วยอารมณ์กุศล เคยถวายอทิสสทานกับ องค์สมเด็จพระทศพล ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า..

พระพุทธเจ้า ๑ องค์ จะมีคนถวายอทิสสทานครั้งเดียวในชีวิต และคนที่จะถวายได้นั้นต้องเป็นผู้หญิง พระนางมัลลิกามีคุณงามความดีประเสริฐ เหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งผืน ถ้าบังเอิญไปเปื้อนอะไรนิดหนึ่ง จุดเด่นมันก็ปรากฏขึ้น

เรื่องมีอยู่ว่าคืนหนึ่งพระนางจะไปถ่ายปัสสาวะ และกลางคืนเขาดับไฟกันเพราะยังไม่มีไฟฟ้าใช้ บังเอิญเท้าขวาของพระนางสะดุดพระบาทของพระราชสวามี คือพระเจ้าปเสนทิโกศล เพียงเท่านี้พระนางเสียใจมาก คิดว่า ตัวเองทำความชั่วมาก ทั้งๆที่ความจริงไม่มีอะไรเป็นความผิด เพราะไม่มีเจตนา แต่พระนางมัลลิกาคิดเสมอจิตเศร้าหมอง สลดใจหนักใจว่าตัวเองทำความผิด



ต่อมาเมื่อวาระเข้าถึง พระนางทรงประชวร เวลาใกล้จะตายจิตประหวัดคิดว่า
เราเลวเหลือเกินที่เอาเท้าไปสะดุดพระราชสวามีเข้า พอตายจากความเป็นคน อาศัยความดีในด้านกุศล ร่างกายของพระนางเป็นนางฟ้าทัังตัว เครื่องประดับประดาก็เหมือนนางฟ้าทั้งหมด

แต่ปรากฏว่า อาศัยความข้องใจนิดหนึ่งจึงพาพระนางไปนรก ไม่ทราบว่าขุมไหนเหมือนกัน ในนรกสิ้น ๗ วันมนุษย์เพราะอาศัยที่จิตกลุ้ม หรือเศร้าหมองไม่ได้ทำชั่ว แต่คิดว่าชั่ว ทำกำลังใจของตัวให้เศร้าหมอง คิดว่าเราเลว

บรรดาญาติโยมที่เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ ขึ้นชื่อว่าอบายภูมิคือผลของความชั่ว ก็จงอย่าไปคิดถึงว่าเราจะต้องตกนรก

พระพุทธเจ้าตรัสเป็นบาลีพุทธภาษิตว่า..
"จิตเต สังกิลิฎเฐ ทุคติ ปาฏิกังขา"



บุคคลใดก่อนจะตาย ถ้าจิตใจเศร้าหมอง อารมณ์ไม่ผ่องใส ไม่เกาะบุญ เช่นไม่นึกถึงทานการให้ ไม่นึกถึงศีลที่เคยรักษา ไม่นึกถึงเทศน์ที่เคยฟัง ไม่นึกยอมรับพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วไปคิดเรื่องที่เป็นบาปเป็นอกุศล มันก็เป็นทุกข์



รวมความว่า ขอบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ระมัดระวังเรื่องจิตใจให้มาก ที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนให้ใช้ อนุสสติ คือ ตามนึกถึงความดี นึกยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ เรียกว่าเป็น พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ



พยายามนึกถึงศีลที่เราต้องปฏิบัติ
นึกถึงการบริจาคทาน
นึกถึงความดีของเทวดา
นึกถึงความตายที่จะเข้ามาถึง
นึกถึงอารมณ์ของพระนิพพาน
อย่างนี้เป็นต้น อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ต้องครบทั้งหมด

องค์สมเด็จพระบรมสุคตทรงสอนว่า..
ขึ้นชื่อว่าความชั่วที่ทำมาแล้ว ในกาลก่อนจงอย่าตามนึกถึงมัน นึกถึงความดีที่ทำไว้แล้วเท่านั้น ผลของความดีจะส่งผลให้เป็นสุข คือไปเกิดบนสวรรค์ได้



จากหนังสือพ่อสอนลูก (สีทอง) หน้า ๔๐๔-๔๐๕

หลวงพ่อพระราชพรหมญาณ
(พระมหาวีระ ถาวโร)
วัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

Credit: ขอขอบพระคุณที่มาจาก Facebook คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน