การปฏิบัติธรรมเป็นการทวนกระแสโลก

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 20 กุมภาพันธ์ 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    4EB41735-9E91-47F1-BD16-F81951F18BCA.jpeg

    การปฏิบัติธรรมเป็นการทวนกระแสโลก เหมือนกับเราว่ายทวนน้ำ เมื่อถึงเวลาออกแรงว่ายไปเต็มที่ พอได้ระยะที่เรารู้สึกว่าพอแล้ว เราก็ปล่อยมือ ก็จะไหลตามน้ำไป พอต้องการที่จะว่ายขึ้นมาใหม่ ก็ตั้งหน้าตั้งตาว่ายอีก แล้วก็ปล่อยไหลตามน้ำไปอีก

    ต่อให้เราขยันแค่ไหน ก็จะเป็นคนขยันที่ไม่มีผลงานอะไรเลย เพราะว่าทุกวันจะไหลตามน้ำไป แล้วถ้าหากว่าขี้เกียจขึ้นมาเมื่อไร ก็จะไหลไปไกลกว่านั้นอีก ยิ่งไหลไปไกลเท่าไร เราก็ต้องใช้เรี่ยวแรงในการที่จะว่ายทวนน้ำขึ้นมามากเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ท่านทั้งหลายเกิดความท้อแท้ แล้วท้ายที่สุดก็เลิกการปฏิบัติธรรมไปโดยปริยาย

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายรู้จักวิธีว่า เมื่อเลิกจากการนั่งสมาธิภาวนาแล้ว กำลังใจเราสงบแค่ไหน เราต้องประคับประคองรักษาอารมณ์ใจนั้นให้อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนอิริยาบถไป จากนั่งเป็นยืน เป็นเดิน เป็นนอน เป็นดื่ม กิน คิด พูด ทำ ใจเราต้องอยู่กับการภาวนาหรือลมหายใจโดยอัตโนมัติ

    ถ้าสามารถรักษากำลังใจไว้ในลักษณะนี้ได้บ่อย ๆ เราก็จะยืนระยะได้นานขึ้น จากที่ได้แค่ครู่เดียว เมื่อขยับเคลื่อนไหวสมาธิก็คลายตัวหมด เราก็จะเริ่มทำได้นานขึ้น จาก ๑ นาทีเป็น ๒ นาที ๕ นาที ๑๐ นาที ๑๕ นาที ครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเป็น ๑ ชั่วโมง ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง ครึ่งวัน ๑ วัน แล้วก็เป็น ๒ วัน ๓ วัน ๔ วัน ๕ วัน ๗ วัน ๑๐ วัน ๑๕ วัน จนกระทั่งสามารถรักษากำลังใจได้นานเป็นเดือน ๆ

    กำลังใจของเราเหมือนกับน้ำ ถ้าหากว่าไม่สงบนิ่ง มีการกระเพื่อมเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เราก็ไม่สามารถที่จะรู้เห็นอะไรได้ แต่ถ้ากำลังใจของเราสงบระงับ จะเหมือนกับน้ำนิ่ง สามารถสะท้อนสิ่งต่าง ๆ รอบข้างลงไปได้อย่างชัดเจน

    ลักษณะตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าท่านที่เป็นฆราวาสจำเป็นจะต้องทำงาน จะมีประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะว่าท่านจะสามารถลำดับความสำคัญก่อนหลังเร็วช้าของแต่ละงานได้ ต่อให้มีงานมากเท่าไรก็ตาม เมื่อเราลำดับความก่อนหลังเร็วช้าของงานได้ เราก็จะหยิบจับงานที่เร็วที่สุดซึ่งมาถึงก่อนเพื่อนขึ้นมาทำก่อน เรื่องอื่นก็วางเอาไว้ตรงนั้น ถ้าเป็นในลักษณะอย่างนี้ เราก็จะมีงานอยู่ตรงหน้าชิ้นเดียว มีปัญหาอยู่ตรงหน้าเรื่องเดียว ซึ่งไม่เกินกำลังที่เราจะแก้ไขได้

    แต่เนื่องจากว่ากำลังใจของท่านทั้งหลายมีความส่งส่ายวุ่นวายอยู่เสมอ ทำให้ท่านไม่สามารถที่จะรักษาสติเอาไว้อยู่กับเฉพาะหน้าได้ แยกแยะไม่ออกว่าอะไรก่อนหลังเร็วช้า เราก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้

    โดยเฉพาะท่านที่เอาหลาย ๆ เรื่องมารวมกัน ก็ยิ่งเป็นปัญหาที่กองใหญ่ขึ้น แล้วท้ายที่สุด ปัญหาเหล่านั้นก็หนักเกินกำลัง จนเราเครียด กังวล นอนไม่หลับ ซึมเศร้า แล้วแต่อาการมากน้อย

    ดังนั้น...การที่เรากำหนดสติอยู่เฉพาะหน้า ไม่ใช่ว่าสามารถทำได้เฉย ๆ จากที่กระผม/อาตมภาพกล่าวมา ทุกท่านจะเห็นว่ามีขั้นมีตอนในการที่เราจะค่อย ๆ ไป ตามลำดับ และอาจจะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการพากเพียรพยามยามทำจริง ๆ

    ธรรมบรรยายหัวข้อ "อานาปานสติเพื่อการเปลี่ยนแปลงภายใน"
    https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8428

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน #watthakhanun
    #ig: wat.thakhanun
    #tiktok: @watthakhanun
    #ชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
    #พระพุทธศาสนาช่วยโลก #พระสงฆ์ช่วยสังคม
    #พระครูวิลาศกาญจนธรรมดร #พระครูวิลาศกาญจนธรรม #พระอาจารย์เล็ก #หลวงพ่อเล็ก
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...