การปฏิบัติที่แท้จริง คือ การทำให้หมดซึ่งกิเลส โดยให้อยู่กับปัจจุบัน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 23 กรกฎาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,552
    ค่าพลัง:
    +26,392
    IMG_0488.jpeg

    การทำสมาธิภาวนา สิ่งสำคัญคือสติที่รู้อยู่ตอนนั้น อย่าให้สติเคลื่อนออกจากลมหายใจเข้าออก ตามรู้เข้าไปว่าผ่านจมูกแล้ว ผ่านอกแล้ว ไปสุดที่ท้องแล้ว และออกจากท้องมาแล้ว ผ่านหน้าอกแล้ว มาอยู่ที่จมูกแล้ว ต้องให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ตรงนี้ อย่าไปคิดเรื่องอื่น คิดเรื่องอื่นเมื่อไรให้รีบดึงกลับมาตรงนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่ก้าวหน้า ถึงเวลาก็ฟุ้งซ่านอีก ใจหนึ่งคิด อีกใจหนึ่งก็ยังท่องพุทโธ ๆ อยู่ ก็เหมือนกับท่องอาขยาน

    การนั่งทำสมาธิภาวนาจุดสำคัญคือ ความสงบของใจ เรื่องอื่นเป็นของแถม ของแถมชนิดที่ต้องการหรือไม่ต้องการเขาก็ต้องให้มา ซื้อรถเขาก็ต้องให้ล้อมาแน่ ๆ ไม่ต้องไปตั้งหน้าตั้งตาหาล้อรถ ขอให้ซื้อรถต้องได้ล้อรถมาด้วยแน่ ๆ ท่านถึงให้เราภาวนาอย่างเดียว ถึงเวลาจิตทรงสมาธิได้ก็จะรู้เห็นเอง การรู้เห็นไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะเราอาจจะไปยึดติดกับสิ่งที่รู้เห็น ทำให้การปฏิบัติของเราไม่ก้าวหน้า

    การปฏิบัติที่แท้จริง คือการทำให้หมดสิ้นซึ่งกิเลส กิเลสจะหมดสิ้นได้เท่าไร เราจะละกิเลสได้เท่าไร อยู่ที่ความสามารถของเรา เรื่องอื่นเป็นเรื่องที่เขาแถมมาให้ สิ่งสำคัญของการทำสมาธิก็เพื่อความสุขในปัจจุบัน ทำให้จิตของเราไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าอนาคตเราทรงความดีได้ เราก็ไปเกิดในที่ดี อย่างเช่นไปเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหม หรือไปพระนิพพาน

    เราอย่าไปขวนขวายเพื่อการอยากรู้อยากเห็น ตัวอยากจะกั้นเราจากความดี ให้เราภาวนาไปอย่างเดียว ถึงเวลาแล้วผลนั้นจะเกิดขึ้นเอง ให้กำหนดสติอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับปัจจุบันแค่นี้ สิ่งที่เราคิดจะพาเราให้เราทุกข์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะคิดไปในอดีตก็ดี คิดไปในอนาคตก็ดี ล้วนแล้วแต่พาให้เราฟุ้งซ่าน ให้เราหยุดอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับการภาวนา หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ..นับหนึ่ง หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ..นับสอง นับไปเรื่อย ๆ ทำสักห้าสิบคู่ก็พอ

    ถ้าเราทำได้โดยไม่ฟุ้งซ่านไปกับอารมณ์อื่น ก็ถือเป็นยอดมนุษย์แล้ว ถ้าหากคิดแวบไปเรื่องอื่น..ให้ตั้งต้นนับใหม่ทันที ทำแบบนี้ให้ได้ทุกวัน ถ้าเมื่อยขา ปวดหลัง ก็เปลี่ยนอิริยาบถได้ เปลี่ยนไปยืน ไปเดิน ไปนอนก็ได้ แต่อิริยาบถนอนต้องกำหนดสติให้มั่นคงเข้าไว้ มิฉะนั้นจะเผลอหลับ
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...