"เพื่อปิดโสตวิญญาน มโนวิญญาน และกายวิญญาน" 3 อย่างนี้มันคืออะไรครับผมไม่รู้จัก แล้วเวลาจะปิดทำอย่างไร ปิดกับเปิดต่างกันอย่างไรครับ
คนเราประกอบด้วยกายทิพย์ที่แนบสนิทกับกายเนื้อครับ กายเนื้อประกอบด้วย โสตวิญญาน เช่น เราได้ยินเสียงดังต่างๆ นั้นคือภาวะปกติ แต่ถ้าเรารวมจิตได้ภาวะนั้นจะถูกปิดไป คือเราไม่ได้ยินเสียงครับ กายวิญญานนั้นคือความรู้สึกต่างๆ เช่น รู้สึกร้อน หนาว การถูกปิดคือการไม่รู้สึกต่างๆครับ ส่วนมโนวิญญานนั้นคือลมหายใจ ถ้าเราไม่รู้สึกว่าหายใจ แสดงว่า ส่วนนั้นถูกปิดครับ คราวนี้ถ้าปิดได้หมดก็ฌานสี่ครับ
อ่อ เข้าใจแล้วครับ สมาธิคงต้องนิ่งกว่านี้ เดี๋ยวจะลองหาเทคนิคที่เหมาะกับผมดู ปัจจุบันยังได้ยิน ยังรู้สึกแต่ว่าแค่นิด ๆ ขอบคุณมากครับ เมื่อวานทำสมาธิตอนกลางวัน พอเข้าสมาธิได้ไม่ทันไรไม่รู้ใครทำอะไรเสียงดัง โป๊ก ๆ 2 ที เหมือนเคาะหรือตำครก ผมตกใจเด้งออกจากสมาธิเลย รู้สึกชาไปทั้งตัว ไม่รู้ใครนึกพิเลนมาทำเสียงดังเอาตอนนั้น :'(
ดินแดนของยักษ์ ต้องมีอาวุธไปครับ เพราะพวกเขามีโมหะค่อนข้างสูง แต่ถ้าอยากรู้เรื่องก็จะไปดูมาให้ครับ (เดี๋ยวใช้เกล็ดแก้วพญานาคเป็นอาวุธ) ในโลกทิพย์ต้องระวังตัวอยู่เสมอๆครับ เพราะอันตรายมากมายครับ
ไหนว่าจะไปปฏิบัติธรรม ทำให้ได้แบบนี้นะครับ จงทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อนด้วยสัมปชัญญะ ด้วยสติ ยังความยินดียินร้ายในโลกให้พินาศ กำหนดทำความเข้าใจว่า ตัวความเพียร คือ อาตาปีเป็นตัวสัมมัปธาน 4 ชึ้เข้ามาที่ตัวเรา คือ กายและใจ กำหนดรู้ตัวด้วยรู้ทั่วตัว และระลึกได้ไม่ลืมตัว แล้วทำความรู้สึกตัวว่า ที่นั่งอยู่นี้ คือ ตัวเรา เป็นตัวประธานพร้อมกระทำความเพียรในทุกอริยาบถ ขณะนี้เรากำลังทำความเพียรในอริยาบถนั่งคือ ตัวฐานที่ตั้ง ทำความเพียรเจริญสติโดยมีใจเป็นผู้กระทำ กระทำตามคำสอนของงพระพุทธเจ้าที่ชี้ว่า…. จงทำความเพียรเป็นอาตาปีที่ตัวด้วยสัมปชาโน มีสัมปชัญญะเป็นวิป้สสนา รู้ทั่วตัวเราทั้งหมด สติมา มีสติระลึกรู้ทั่วตัวเป็นสมถะ กำหนดไม่ลืมตัวให้ตัวตั้งอยู่โดยสงบเป็นปกติกาย ขณะนี้เรากำลังกระทำความเพียรให้กิเลสเร่าร้อน เพราะตัวเราหมายถึงกายและใจที่มีอวิชชาครอบงำที่จิต พระพุทธเจ้าจึงสอนอาตาปีชี้ลงที่ตัวเรา เมื่อทำความเพียรแผดเผากิเลสที่หัวใจเรา กิเลสตัวเร่าร้อนมันกลัวความเพียรความเอาจริงเอาจัง ไม่กลัวความขี้เกียจขี้คร้านในสันดานเรา ตัวไหนร้อนรุ่มในใจ พึงรู้ว่าตัวนั้นแหละเป็นตัวกิเลส ตัวไหนสงบไม่ร้อนเร่าตัวนั้นเป็นธรรม เพราะกิเลสมันเป็นตัวอวิชชา สังขารปรุงแต่งปิดของจริงอยู่เปลือกนอกเป็นตัวหลอกให้เกิดความหลง เกิดเป็นอุปทานให้หลงยึดมั่นถือมั่น เป็นต้นเหตุสมุทัยให้เกิดยินดียินร้าย กิเลสนี้มันห่อหุ้มจิตมันไม่ได้เข้าไปในลึกถึงแก่นกลางที่เป็นกลางเป็นตัวปกติ ตัวมัชฌิมา กิเลสเข้าไปไม่ได้ เพราะเป็นธรรมฐิติ ที่เรียกว่า ฐีติภูตัง 1.กำหนดรู้ตัวด้วยรู้ทั่วตัวตลอดตัว 2.กำหนดสติระลึกได้ไม่ลืมตัวตลอดเวลา พร้อมกำหนดคำบริกรรม พุทโธ ร่วมกับการรู้ตัวไม่ลืมตัว เพียรเผากิเลสให้รุ่มร้อน ตัวไหนร้อนตัวนั้นมันจะแสดงออกมา เช่น นิวรณ์ 5
เล่าเรื่องความฝันให้ฟังพลางๆก่อนแล้วกันครับ ย้ายห้องมาอยู่ในเมือง ฝันไปว่า เจ้าที่ที่อาศัยอยู่นั้นมาหา ท่านบอกว่า ดีใจที่มีคนสวดมนต์ แล้วแผ่เมตตาให้ด้วยครับ แถมยังนอนภาวนา ทั้งคืน เจ้าที่นั่นเป็นสัมภเวสีครับ คือ ยังไม่ถึงขั้นเป็นรุกขเทวดาครับ ในฝันก็เลยเฉยๆไม่ตอบอะไรครับ แล้วก็ฝันต่ออีกว่า เจอพญานาคตัวใหญ่ มีหลายหงอน ในฝันรู้สึกว่าเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง พญานาคกล่าวว่า เราอาศัยอยู่ในวัดนี้(วัดบรูพา) ท่านมาหาเราทำไม ไม่อธิษฐานขออะไรเลย ไม่เหมือนคนอื่น ที่ชอบอธิษฐานขอโน้นขอนี้ ในฝันก็เลยตอบไปว่า ไม่รู้ว่าจะขออะไรครับ มาไหว้พระ ทำจิตใจให้เป็นสุขมากกว่าครับ เมื่อคืนนอนตื่นทั้งคืน ฝันไปว่าไปปิดพัดลมแต่พัดลมไม่ยอมหยุดหมุน ลืมไปว่า กายทิพย์ทำอย่างนั้นไม่ได้ครับ เลยต้องถอยฌานให้ตื่นเพื่อจะปิดพัดลมครับ(ไม่ชอบนอนห้องแอร์ครับ)
เรียนคุณคุรุวาโร การที่เราสวดมนต์ แล้วแผ่เมตตาให้เจ้าที่เจ้าทาง หรือ ดวงจิต ต่างๆ ผู้ที่เรา แผ่ให้จะได้ส่วนบุญ อย่างไรบ้างครับ เช่นเมื่อได้รับการแผ่ส่วนบุญจากเราแล้ว เขาชื่นใจ สบายใจ ฯลฯ แล้วถ้าสวดแบบสั้นๆ ละครับ เช่น พุทธโธ ธัมโม สังโฆ แล้วแผ่ฯ เขาจะได้รับอะไรบ้างครับ ขอบคุณครับ
ประมาณว่าหยิ่งไม่สนใจสัมภเวสีรึป่าวนี่ เลยไม่ตอบอะไรไป อิอิ ผมอยากรู้เรื่องของกายทิพย์เพิ่มเติมอะครับ ว่ากายทิพย์ทำอะไรได้บ้าง ปรากฏให้คนมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ไหม หรือหยิบจับสิ่งของได้ไหม มันมีวีธีทำรึป่าวครับ เหมือนจะเคยอ่านเจอในหนังสือว่าสามารถทำได้ แต่ผมก็ไม่เคยเจอว่าใครทำได้สักที
การแผ่บุญ กุศล นั้นขึ้นอยู่กับผู้ให้เป็นสำคัญครับ ถ้าเรามีสื่อคือพระภิกษุสงฆ์ ก็จะดีครับ โอกาสที่เขาจะได้จะมีมากกว่า แต่ถ้าเราสวดมนต์หรือเจริญกรรมฐานก็ได้เหมือน แต่จะน้อยกว่ากรณีแรกครับ
กายทิพย์นั้น อยู่คนละมิติกับเราครับ การจับสิ่งของนั้น ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครทำหรอกครับ เพราะต้องใช้พลังงานมากครับ การไม่ตอบเจ้าที่เพราะว่า ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรครับ ไม่ได้หยิ่งหรอกครับ
แล้วอย่างที่เขาว่า ผีทำให้ของหล่น หรือทำไฟดับนี้ เขาทำยังไงครับ แล้วกายทิพย์ของเราถ้าทำแบบนั้นจะได้ไหม มันจะต้องใช้พลังมากหรือป่าวครับ
การทำอะไรข้ามดินแดนนั้นค่อนข้างยากครับ ทำได้แต่ว่าเราจะมีกำลังพอหรือไม่ครับ เพราะผมไม่เคยทำ เช่น เมื่อคืนก็ทำไม่สำเร็จเพราะการเคลื่อนย้ายสิ่งของมันไม่ง่ายครับ ลองอนุญาติเล่าเรื่อง กบไสไม้ให้ฟังแล้วกันครับ ครั้งหนึ่งมีพระในเมืองสยามอยากรู้ว่า เกจิอาจารย์ท่านใดเก่งจริง ท่านจึงให้พระที่มีชื่อเสียงในเมืองสยามนั้น บังคับให้กบไสไม้นั้นเคลื่อนตัวไป เพราะเกจิส่วนใหญ่จะทำได้ โดยการเพ่งไปที่วัตถุนั้น แต่มีบางรูป เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน สามารถทำให้กบไสไม้นั้นหมุนตัวเองแล้วกลับมาได้ครับ นี่คือเรื่องจากบันทึกของพระสังฆราชองค์หนึ่งครับ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตเจ้าของกระทู้ตอบเรื่องนี้หน่อยนะ และคงต้องออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้วิเศษอะไร เป็นคนปกติธรรมดานี่แหละ การได้มาซึ่งความพิเศษของตัวเองเกิดจากการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วัยเด็ก และการได้เห็นด้วยตาเปล่า การได้ยินนี้ มันก็ได้มาอย่างฟลุ๊กๆ เคยอ่านเจอในกระทู้ของเวปนี้แหละ ก็เลยทราบว่าที่ได้มานี้เรียกว่าหูทิพย์ ตอนที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นิทานพญานาคนี่แหละ ก็เลยอยากรู้อดีตชาติของตัวเอง พยายามกลับไปนั่งสมาธิ...เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อนะ