สาบานได้ถ้าผมอ่านเมื่อ 4 ปีที่แล้ว...ผมไม่เชื่อ

อยากให้ข้อความของคนคนหนึ่งที่โพสต์ถามอาจารย์ ระวี ภาวิไล ใน manager.co.th เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2549

เรียน อาจารย์ระวี และท่านอาจารย์รวมทั้งนักคิดนักวิทย์ทั้งหลายครับ ผมอยากเล่าเรื่องบางอย่างให้อาจารย์ฟังครับ ก่อนที่ผมจะไปพบจิตแพทย์เร็วๆนี้ ก่อนอื่น ..ผมไม่ฝักไฝ่ลัทธิใด ผมนับถือพุทธแบบไม่ค่อยไปวัด ถือศีลไม่ครบ5 เคยบวชเณรแค่เดือนเดียวตอนเด็กๆ (ไม่เคยชกใคร แต่ครั้งเดียวในชีวิต ผมชกเพื่อนเณร) ผมเป็นแค่คนธรรมดา เข้าผับ เที่ยวบ้าง แต่ไม่ค่อยดื่มเพราะเมาไว 10เดือนกว่าแล้ว ที่ผมต้องรับรู้เรื่องราวบันลือจักรวาลอันพิสูจน์ไม่ได้ และผมทิ้งเรื่องพวกนี้หนีไปไม่ได้เพราะมันมีแต่ผมคนเดียวที่ปกป้องคนกำความลับของจักรวาลนี้ไว้ได้ (บ้าจริงๆ)



หนึ่งในร้อยเรื่องมันคือเรื่อง ความลับของลูน่า luna ผมได้ยินคนนอนหลับคนนึงเล่าให้ผมฟังว่า ลูน่า เกิดมาแล้ว46ชาติ ทุกชาติเค้าเกิดเป็นกษัตริย์ เป็นผู้ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ทั้งหมด สร้างอาณาจักร สร้างพยัญชนะ อะไรต่อมิอะไรมากมายสารพัด เกิดเมื่อไรจารึกชื่อเมื่อนั้น อเลกซานเดอร์ จูเลียสซีซาร์ อาเธอร์ ซงซัน กัมโป(ธิเบต) สุริยะวรมันที่2 ชัยวรมันที่7 จิ๋นซีฮ่องเต้ เจงกิสข่าน พ่อขุนราม ตองเจ(พระนเรศวร) นิกกี้(เคนเนดี้) และอีกมากที่เรา นึกชื่อไม่ออก ผู้สร้างกามสูตร ทัชามาฮาล ปีรามิด กำแพงเมืองจีน .....เยอะมาก ลูน่าไม่เคยเกิดเป็นคนธรรมดา เค้าเป็นผู้นำมนุษย์ทั้งหมดตลอดกาล และเค้าเป็นผู้ที่นอสตราดามูสเอ่ยชื่อไว้ เป็นบุคคลในพุทธทำนายที่ว่าจะปรากฏกายขึ้นเมื่อกึ่งพุทธกาล (พ.ศ.2500 +)



บ้าที่สุดที่ตอนนี้เค้าเกิดมาแล้วในชาติที่47 เค้าเองคือพระศรีอาริยเมตไตรกับอมิตาภา ผู้นำพาโลกเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ทุกประเทศมีผู้นำจากการเลือกตั้ง แต่ทุกผู้นำต้องอยู่ใต้การปกครองของลูน่า ลูน่าจะเป็นผู้กำหนดพลังงานของโลก ซึ่งไม่ใช่น้ำมัน เป็นพลังงานที่ทุกเผ่าพันธ์ทั้ง46เผ่าของจักรวาลใช้กันอยู่ เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนยานให้บินข้ามกาแล๊กซีเป็นระยะทางหน่วยที่เรียกว่า โคโด (1โคโค=10,000ปีแสง)พลังงานนี้รีชาร์จกับแสงอาทิตย์ได้เหมือนโซลาร์เซลล์แต่มันประจุได้เกือบจะล้านส่วนต่อล้านส่วน คือรับแสงอาทิตย์ได้พลังงานที่มหาศาลดุจดั่งมันเป็นดวงอาทิตย์เอง และมันไม่มีวันหมด มีมากพอให้ทั้ง47เผ่าพันธ์(รวมมนุษย์ด้วย)ใช้ได้อีกเป็นล้านปี การมีและครอบครอง ไม่มีคำว่าค้าขายหรือเก็งกำไร แต่เราก็ไม่มีทางเดินทางไปเอามันมาใช้ได้ มีแต่รอเวลาที่เค้าจะเอามาให้




เวลาที่ว่ามีทางออกแตกต่าง2ทาง คือเราได้ใช้ถ้ามนุษย์ถึงเวลาและสามารถทลายกำแพงความคิดของเราเองได้ หรือเราได้ใช้เพราะเค้ามารับเราบางคนไปจากโลกที่กำลังดับสลาย เค้าจะรับเราบางคนเท่านั้นไปเพื่อรักษาเผ่าพันธ์มนุษย์ไว้ ใครที่คิดว่าเคยเห็นยูเอฟโออันนั้นเค้ามาร์คคุณแล้ว มนุษย์เป็นสิ่งที่แตกต่างที่สุดในจักรวาล เรามีจิตใจ มีอารมณ์ความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง หัวเราะ ร้องให้ เกลียดชัง หลงไหล ส่วนพวกเขา มีแต่เกิดมา โตไป ดำเนินไป ตามกัน จัดสรร ทำตาม และตายลง เค้าไม่มีอารมณ์ ไม่ต่างจิตต่างใจ ใครเกิดมาเป็นอะไรก็เป็น เดินไปอย่างไม่มีแบ่งดีเลวผิดถูก มีแต่เส้นๆเดียวที่ให้เดิน เหมือนมด ผึ้ง แต่ร่างกายกับสมองมีการทำงานและวิวัฒนาการสูงกว่ามนุษย์มากนัก เราเลยแตกต่างทั้งชีวิต ความคิด บนนามธรรมแห่งจักรวาล




เราเหมือนจักรวาลมากที่สุดด้วยรูปธรรม ด้วยความที่เรามีจิตใจ ทำให้เรามีชั่วดีผิดถูก และทำให้เราเป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มีศาสนามารองรับความคิด รวมถึงมีพระเจ้า มีซาตาน พวกเค้าไม่เคยต้องการพระเจ้า เพราะไม่มีปรัชญาหรือสิ่งใดที่ทำให้เริ่มนึกถึงพระเจ้า มนุษย์จึงเป็นสิ่งเดียวที่เหมือนจักรวาลที่สุดคือมีด้านมืดและด้านสว่างในที่ๆเดียวกัน พวกเขารวมตัวกันมานานแล้วทั้งหมดในจักรวาลมี 46 เผ่าพันธ์ เค้ารอเวลาที่เราจะเข้าร่วมเป็นเผ่าพันธ์ที่ 47 นั่นทำให้เค้าไม่เคยแสดงท่าทีใดๆกับโลกว่ามาทำใม มาเยือนก็ไม่มาพูดคุย มาหาแบบไม่แสดงเจตนามิตรหรือศัตรู ไม่ได้มาครอบครองแล้วมาทำใมในเมื่อเราเองก็ไม่มีเทคโนโลยีอะไรที่จะต่อต้านเค้าได้เลยทำใมไม่บุกเราและจับเราเป็นทาษ เพราะ..เค้ากำลังรอลูน่า ลูน่าจะเป็นผู้เจรจากับประมุขของจักรวาล ถ้าไม่ใช่การขออพยพคนออกไป ก็เป็นการเจรจาเรื่องพลังงานในอนาคต เราสูบน้ำมันไม่ได้แล้ว นี่คือความจริง เพราะเมื่อมันหดหายไป มันทำให้เกิดแอ่งใต้ผิวโลก เกิดอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นจากใต้โลก ความแห้งแล้งจะเป็นตัวตอบโจทย์




เมื่อเราแก้ไขวิกฤติการณืนี้ไม่ได้ ภูเขาไฟจะประทุทีละลูก น้ำจะท่วมโลกภายในเวลา 24ชั่วโมงของวันโลกดับ ภายในวงกลมการหมุนรอบตัวเอง1รอบน้ำจะขึ้นมาหมดทั้งจากทะเลทั้งจากใต้ดินที่แตกระแหง โลกหมุน1รอบน้ำล้างได้รอบโลกพอดี ซึ่งเราหยุดยั้งการใช้น้ำมันไม่ได้ ถ้าหยุด โลกจะมืดในพริบตา การที่เรามีพลังงานแค่น้ำมันนั่นก็มีเหตุผล เราหาพลังงานอื่นมาใช้ในระดับมหภาคแทนน้ำมันไม่ได้หรอก นิวเคลียร์ ไฮโดรเจน โซลาเซลล์ ล้วนแต่มีข้อจำกัดในตัวเอง ในเวลาอันควร โลกต้องหยุดการใช้น้ำมัน ประเทศมหาอำนาจก็จบสิ้นอำนาจ ไม่มีมหาอำนาจอเมริกา โอเปค ไม่มีคนวางระเบิดสู้เอาบ่อน้ำมันคืน จบสิ้นผู้นำโลก ระบบปลาใหญ่ปลาเล็กหายไป ประมุขจักรวาลจะยื่นข้อเสนอเจรจา และผู้เจรจาไม่ใช่ผู้นำโลกอย่างอเมริกา จะไม่มีการเจรจาเพื่อให้ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำพลังงานนี้ไปใช้หาประโยชน์หรือสร้างความเป็นมหาอำนาจข่มประเทศด้อยกว่า แม้แต่ประธานาธิบดีอเมริกายังต้องนั่งทำตาปริบๆถ้าเค้าส่ายหน้าไม่คุยด้วย พลังงานนี้ ต้องเป็นไปเพื่อมนุษยชาติทั้งมวลจริงๆ ไม่มีซื้อขาย กักตุน เก็งกำไร




ลองนึกดูนะครับว่าถ้าพลังงานมีให้ใช้ฟรีอย่างพอเพียงและไม่ขาดแคลนตลอดกาล โลกใบนี้จะเปลี่ยนไปยังใง ซึ่งการนำมาใช้มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแน่นอน อาจจะเป็นข้อบังคับมากกว่าด้วยซ้ำ นั่นคือ หมดสิ้นขั้วมหาอำนาจกันซะที อำนาจเดียวที่จะปกครองทุกผู้นำเป็นอำนาจของลูน่า ลูน่าคือผู้เจรจาครับ ไม่เจรจาเพื่ออพยพก็เจรจาเพื่อได้มา การที่เรามีพลังงานแค่น้ำมันนั่นก็เพราะ เผ่าพันธ์ของเราถูกจักรวาลกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว เราเหิมเกริมที่สุด เราดีเราเลว เราผูกไมตรีและเราก่อสงคราม เรานึกว่าเราฉลาดมีปัญญา แต่หารู้ไม่เราเหนือกว่าเขาอยู่เรื่องเดียว คือ อารมณ์



มนุษย์มีอารมณ์เป็นใหญ่ การทำให้มนุษย์ต้องอยู่ใต้กติกาของจักรวาลนั่นคือ กำหนดให้เรามีพลังงานแค่นี้ มีสสารที่สร้างสรรพสิ่งได้ดีที่สุดแค่ยานอวกาศ คล้ายๆกับว่า เจ๋งนักก็ให้มันเท่านี้แล้วกัน เมื่อมันไม่มีทางออกมันจะมาก้มหัวยินยอมเอง เราเลยหาสสารใดๆที่สร้างยานให้พ้นจากแรงโน้มถ่วงได้ดีกว่านี้ไม่ได้ หาพลังงานที่จะพาเราหลุดออกจากระบบสุริยะไม่ได้ และเรายังตั้งอยู่ในที่ๆไม่มีวันเดินทางไปถึงเผ่าพันธ์อื่นด้วยพลังงานของเราแบบตลอดกาล ออกเดินทางวันนี้ ไปอีก5พันปียังไม่เจอใครเลย ซึ่งนั่นก็ไม่พ้นลูน่าต้องมาทำหน้าที่ เธอว่า ลูน่า นอกจากเป็นผู้นำโลกยุคใหม่แล้ว ลูน่ายังเป็นผู้ที่มอบอำนาจไว้ให้กับประมุขของจักรวาลทำงานแทน แท้ที่จริงลูน่ากำลังทำงานก่อเจดีย์ด้วยเม็ดทรายเพื่อให้มนุษย์เดินทางไปถึงวันฟ้าใส เมื่อถึงวันนั้น อำนาจใดๆในจักรวาลจะถูกส่งมอบกลับมาคืนลูน่า และทุกเผ่าพันธ์จะดำเนินชีวิตไปตามกติกาของจักรวาล



ลูน่า เกิดเป็นคนแต่ไม่ใช่คน เป็นสิ่งที่สถิตย์มาในวิญญานของเค้าเองนับแต่เกิด มีรูปแบบเซลล์ที่แบ่งตัวได้ เหมือนสัตว์เซลล์เดียว แต่เซลล์สมองของลูน่าก็แบ่งตัวได้เรื่อยๆเช่นกัน ไม่มีกติกาว่าเซลล์สมองหยุดแบ่งตัวตอน5ขวบเหมือนมนุษย์ทั่วไป นัยตาของลูน่า มีแสงเล็กๆเล็ดรอดออกมาจากขอบตาดำจุดที่บรรจบกับตาขาวข้างขวา นั่นทำให้มีแสงส่องเข้าไปในเรติน่าเกิดเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ครอบครองจี้หินที่เป็นรูป3เหลี่ยมด้านไม่เท่า หินนั้นไม่ได้มาจากบนโลก ลักษณะคล้ายโอปอลแต่ละเอียดในเกล็ดสียิ่งกว่านัก ส่องหินนั้นดูแล้วจะรู้ว่านั่นคือแกแลกซีทั้งหมดในจักรวาล(หยั่งกะหนังเรื่องเมนอินแบลค) และบนแผ่นหลังของลูน่ามีไฝสามเม็ดที่ลากเส้นต่อกันจะกลายเป็นรูป3เหลี่ยมแบบเดียวกันกับจี้ของเขา



เค้าคือประมุขของมนุษย์ในชาติที่ 47 พามนุษย์เข้าร่วมกับเอกภพเป็นเผ่าพันธ์ที่ 47 เค้าเริ่มประสพชะตาชีวิตพลิกผันวันที่ 4 เดือน 7 ปี 2547รู้ตัวว่าเค้าคือลูน่าในปี 2547 ปีที่เกิดซึนามิและเริ่มต้นภัยธรรมชาติที่จะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะถึงวันนั้น ยอดคนตายเฉพาะคนไทยจากซึนามิ 7,447 คน หนักที่สุดที่ จ.พังงา จังหวัดที่มีเนื้อที่ 4,170ตารางกิโลเมตร เดินทางด้วยถนนสาย 4 ไปต่อสาย 4147และที่พูดถึงพังงา เพราะลูน่าเริ่มเรียนรู้ชีวิตและความตาย พลังของธรรมชาติจากที่นี่ และเพราะลูน่าเกิดมาแล้ว เค้าเป็นคนไทย



บ้าดีมะครับ นี่คือ 1 ใน100เรื่องที่ผมกำลังได้รับรู้ ไม่ใช่จากวัด พระ หรือ หมอดู แต่ผมรับรู้จากผู้หญิงคนนึง สวย เซ็กซี อินเทรนด์ ฉลาด ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ชอบใช้ของแบรนเนม หรู ฐานะดี ไม่สูบ ไม่เล่นยา สุขภาพจิตเฮฮา แต่เวลาเธอหลับ เธอนอนน้ำลายไหล แล้วผมก็คุยกับเธอตอนเธอหลับ บางครั้งเธอกลายเป็นเด็กอายุ9ขวบ บางครั้งเธอเป็นคนทรงอำนาจในท่าทาง ผมไม่รู้ว่าเธอแกล้งบ้าหรือเธอเป็นโรคจิต แต่ผมกำลังจะพาเธอไปหาจิตแพทย์แล้วหละ ผมเองด้วยก็ต้องไปหา เพราะผมก็รับไม่ไหวแล้ว ยังมีเรื่องบ้ากว่านี้อีกเยอะครับ ที่เล่าไม่ไหว แต่ที่ผมส่งสารนี้มาเพราะผมคิดว่า อาจารย์ระวี น่าจะได้ฟังนิยายเรื่องนี้ บางทีมันก็มีอะไรให้เอะใจดีเหมือนกันน่ะครับ ผมเองไม่สามารถผูกโครงเรื่องได้ขนาดนี้หรอกครับ



ภาคผนวก..ที่ผมพอจะจำได้และอยากบอกผ่านนะครับ เธอบอกว่า ปราสาทหินพนมรุ้ง ถูกสร้างขึ้นด้วยมนุษย์ต่างดาว ด้วยศิลปะที่อยู่ในหัวของลูน่า กับผู้รับคำสั่งชาวต่างดาว เพื่อใช้ในการสร้างและวางรหัสสำหรับวันนี้ รหัสที่ลูน่าต้องตามไขเอาเอง สิ่งแรกที่ถูกสร้างในปราสาทก็คือ รูปศิวลึงก์ แล้วถึงได้วางส่วนอื่นครอบตามลงไป ปราสาทถูกขนย้ายมาด้วยยานรูปปีรามิดลำเดียว ใช้เวลาในการสร้าง 7ชั่วยาม จุดยอดของศิวลึงก์นั้นเป็นจุดหนึ่งที่จะเปิดมิติเหนือระยะทางในการติดต่อกับดาวอื่น และมันเชื่อมต่อกับปรางค์องค์กลางของปราสาทหินนครวัดได้



องค์พระนเรศวรมีพระนามตอนอยู่ที่พม่าว่า ตองเจ พระองค์ท่านทรงใช้เวลาทรงม้าตามไปง้อพระอัครมเหสีมณีจันทร์ จากอโยธยาถึงพิษณุโลก 4วัน ในขณะที่อัครมเหสีทรงม้าด้วยเวลา7วัน มเหสีมณีจันทร์มีบ่าวรู้ใจอยู่2คนคือ เนียน และ เย็น ทั้งคู่แอบรักแม่ทัพคนเดียวกัน เลยไม่ถูกกัน ทำให้โดนจับมาอยู่ด้วยกันจนกลายเป็นสหาย เมื่อเกิดขบถเมืองพิษณุโลก มเหสีมณีจันทร์นำพาทหารเข้าสู้ เพราะพระนเรศวรทรงออกทัพ ทั้งเนียนและเย็นต่างสู้จนตัวตายนอนเคียงข้างกัน


นิกกี้(เคนเนดี้) เคยฆ่าแฟนคนที่3ของมาริรีน มอนโรด้วยการฟาดหัวเข็มขัดลีไวส์ ตายคามือ โทรศัพท์สายสุดท้ายที่มาริรีนคุยด้วยคือ นิกกี้ แล้วเธอก็กินยาตาย ผมไม่ได้ถามว่ายาอะไร


คลีโอพัตรา ขึ้นนั่งบัลลังก์ตอนอายุ 14 ไม่ใช่ 17หรือ18


กองทัพของเตมูจินแทบไม่มีการล้มตายจากการรุกเข้าครอบครองดินแดนอื่นๆ เพราะแค่ทหารกับฝูงม้าก็มากมายละลานตาจนไม่มีใครกล้าสู้รบต่อกรด้วย เตมูจินใช้กลยุทธถึง 5รูปแบบในการเข้าตีจนข้าศึกไม่อาจต้านทาน เตมูจินเป็นผู้นำของผู้นำทุกเผ่า ได้รับเลือกเป็นผู้นำด้วยการโหวต(ยกมือให้คะแนน)จากหัวหน้าทุกเผ่า ชายาของเตมูจินมีลูก 7คน เธอไม่ใช่เจ้าหญิง เป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดาๆ เก่งงานบ้านเรือนมากๆ



องค์หญิงเหวินเฉิงแห่งซงซัน กัมโป เคยโดนกริชของพระสวามีแทงเพราะเอาพระวรกายเข้าขวางไม่ให้ซงซันแทงมเหสีภริขุตี เหวินเฉิง มาจากคุนหมิง ยูนนาน ภริขุตีมาจากเนปาล ทั้งคู่เข้าร่วมพิธีอภิเษกกับกษัตริย์ซงซัน กัมโป พร้อมกัน เหวินเฉิงเป็นคนฉลาดมากๆ เลยเลือกให้ภริขุตีเข้าร่วมอภิเษกด้วย เพราะตัวเองร่างกายไม่แข็งแรง รวมทั้งภริขุตีจะต้องช่วยเลี้ยงดูให้นมแก่บุตรของเธอ (ตริซุก)ก่อนเธอสิ้นใจ เธอขอร้องให้ภริขุตีช่วยดำเนินการสร้างวัดต่อ ให้ประชาชนสรรเสริญและจดจำซงซันว่าเป็นพระธรรมราชาที่ดี ในขณะที่ความเป็นจริง(ที่เธอบอก)ซงซันเป็นคนโหดมาก มีอำนาจมาก แค่ในช่วงเวลาที่ซงซันก้าวขึ้นบัลลังก์ ธิเบตก็กลายเป็นมหาอำนาจทันที ทุกประเทศโดยรอบไม่กล้าต่อกรและไม่อยากรบด้วยจึงได้ส่งเจ้าหญิงมาให้ซงซันกันหมด ซงซันรักเหวินเฉิงมาก เคยให้เหวินเฉิงนอนหนุนตักตลอด3คืนที่เธอป่วยหนัก เพราะคิดว่าจะถ่ายพลังให้เธอรอดได้ ซึ่งเธอก็รอดจริงๆ ทุกวันนี้ยังมีรูปปั้นหญิงหนุนตักชายอยู่ในธิเบต



เธอบอกผมว่า อลาสก้า....แล้ว3-4วันต่อมา อลาสก้า แผ่นดินไหว บอกตอนตี3ว่า ญี่ปุ่นนะ. 11โมงกว่าญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เธอบอก ตอนนี้บนโลกเรา มียานต่างดาวทั้งหมด ทุกมุมโลก 700กว่าลำ (อันนี้ผมว่าใครก็มั่วได้ ใครจะไปรู้ความจริง) ด้วยคำขอร้องจากทุกๆท่าน และด้วยพระปรีชา


วิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทุกวันนี้ยังถือว่าอนุบาลมากๆเมื่อเทียบกับนานาเผ่า เมื่อไรที่เราเอาวิทยาศาสตร์กับจิตผนวกกันได้เมื่อนั้นเราจะทะลุขีดขั้นครับ เธอว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงแต่อยู่ห่างจากเราเกินระยะ 1โคโด (10,000ปีแสง) ครอปเซอร์เคิลแต่ละอันเป็นเครื่องหมายของแต่ละเผ่าพันธ์ครับ นั่นคือการประกาศทำความเคารพต่อลูน่า อาวุธที่เค้าใช้กันมันไม่ใช่ปืนแบบเราๆ อาวุธของเขาเป็นตัวครับ เป็นตัวอาวุธ มันมีชีวิตที่พร้อมรับคำสั่ง และไม่เคยฝ่าฝืนคำสั่ง วิธีการณ์ปฎิบัติก็จะขึ้นอยู่กับระดับปฏิบัติการณ์ในความสมควรของประมุข อาวุธระดับสุดยอดของจักรวาลทั้งมวลมีลักษณะเป็นดาว ดาวดวงนึงที่สุกสว่างจากแสงของมันเอง แต่เมื่อถึงเวลาที่มันต้องทำงาน มันจะลุกใหม้โชติช่วงและเคลื่อนที่เข้าหาเผ่าพันธ์ที่แข็งขืนต่อกติกาของจักรวาล คำว่าแข็งขืนนั่นหมายถึงบางทีเผ่าพันธ์นั้นมีความจำเป็นที่ทำตามกติกาและคำสั่งได้ยาก ฟังดูเผด็จการแปลกๆ ดาวของประมุขแห่งจักรวาลอยู่ มีลักษณะเป็นวงเหมือนบวบ โคจรในแนวตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์สองดวง สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในดาว หมายถึงว่า เหมือนแมลงที่อยู่ในเนื้อบวบ แต่ในดาวนั้น มันเหมือนบวบที่ใส้ในกลวง และในใส้ในนั้น มันคืออวกาศที่อยู่ในดาวอีกที และมันเป็นอวกาศแน่นอนเพราะเค้าไม่ได้ใช้อ๊อกซิเจน ขนาดของใส้ในใหญ่พอจะเอาโลกของเราใส่ได้ถึง3ใบ เครื่องส่งสัญญานสื่อสารของนาซ่าขนาดเท่าตึก ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ เค้าสื่อสารด้วยจิต ลูน่า พระศรีอาริยเมตไตร ศาสดาของ ศาสนาที่จะรวมเป็นหนึ่งบนตรรกะแห่งพุทธ ไม่ใช่เพื่อคำว่านิพพาน หรืออรหันต์ แต่ต้องเป็นตรรกะแห่งพุทธเพราะ นี่คือตรรกะแห่งธรรมชาติ เหตุและผลดำเนินไปตามธรรมชาติของตัวมันเอง และมีแต่วิถีแห่งธรรมชาติเท่านั้นที่จะนำพามนุษย์ไปถึงจุดศูนย์กลางแห่งความเข้าใจในทุกสรรพสิ่งหรือวิถีแห่งการรู้แจ้ง

เอ่อ ..คุณคิดว่าลูน่าจะต้องมีลักษณะเป็นยังใงครับ นักบวช ทรงศีล มาจากป่า ไว้เครา ถือไม้เท้ารึปล่าวครับ ... ลูน่าก็เหมือนพวกเรา เกิดยุคนี้ ก็เหมือนๆกัน ดูทีวี ใช้รีโมต อาจจะขับรถสปอร์ต หรือบิดมอเตอร์ไซค์ ตีเทนนิส เล่นเกมส์เพลย์ กินพิซซ่า ดีดกีตาร์ หรืออะไรก็ได้ เค้าไม่แตกต่างกับเราเลย เค้าเหมือนเราๆทุกคน นี่แหละครับ คนไม่เคยคิดอะไรมากกว่าสนุกอย่างผมพอมาฟังอะไรแบบนี้ ก็เอ๋อกินเหมือนกันนะครับ คร่าวๆนะครับยังมีอีกมาก ผมจำไม่ไหว


.... ขอบคุณอาจารย์ระวีนะครับ ผมดีใจที่ได้ระบายออกบ้าง อาจารย์ว่าเรื่องทั้งหมดน่าขำใหมครับ ผมเองยังต้องผจญกับเรื่องบ้าๆอีกมาก มากจนผมอยากจะบ้าแล้วหละครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ กรุณาส่งต่อข้อความนี้ไปยังคนที่คุณรัก

 

ก็เป็นความรู้ใหม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอติงนิดดนึง เรื่องการใช้สีของตัวหนังสือ น่าจะอ่านแล้วสบายตามากกว่านี้ ประมาณว่าน่าจะชัดเจนมากกว่านี้ ขอขอบคุณ..(ไม่ได้ตินะ..คงไม่ว่ากัน)

 

http://palungjit.org/threads/***-%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD-****.69318/page-3

#42 17-02-2008, 09:08 PM


*** โลกุตตระ ****

โลกุตตระอวตาร ทั้งหมด ๔๔๗ ปรางค์
คือ กระจายกำลังเป็น ๔๔๗ ปรางค์
เป็น ฐานยกกำลัง
เป็น ผู้หญิง ๔๐ ปรางค์
เป็น พระพุทธเจ้า ๕๒ ปรางค์ คือ เป็นตัวนำ เป็นสักขีพยานให้กับโลกุตตระ
เป็น มนตรี ๔ ปรางค์ คือ เป็นที่ปรึกษา
เป็น ธาตุ ๔ ปรางค์ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นองค์ประกอบ เป็นพี่เลี้ยง

พระองค์หนึ่ง มีกำลัง ยึดจริง ทำจริง เชื่อจริง ก็จะมีกำลัง ๔๔๗
เป็นอำนาจต่อรองกับจักรวาล

หัวหน้า สมเด็จพุทธาจารย์เฒ่า ....ทำหน้าที่ไปเยือนทุกถิ่น เพื่อโปรดสัตว์

มนตรี เป็นตัวถ่ายเท เบี่ยงเบน...กรรมสามารถหมดไปได้

หลักยืน ท่านส่งสัจจะมาให้....เชื่อว่าสัจจะมีผลตอบแทน
นอกนั้นเป็นอภินิหารของโลกุตตระ ที่จะหักเห แสง เสียง กรรม
ซึ่งปกติจะเป็นไปตามหลักธรรมชาติ

สิ่งที่เราเห็น และไม่เห็น...ก็มี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

 

http://palungjit.org/threads/สมเด็จ...กับ-ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม.178195/page-111

#2204 วันนี้, 11:32 AM

*** โลกุตตระอวตาร ****

ใบหน้า...คนที่อยู่บนยอดประสาทหินในเขมร
คือ....หน้าของโลกุตตระ ที่อวตารลงมาเกิดในยุคหนึ่ง
แต่นี่มันนานมากจนไม่มีผู้ใดรู้จัก
เรื่องที่เราได้ยินได้อ่าน เขาก็เขียนแต่งกันขึ้นมา
ช่วงเวลาจึงย้อนหลังไปไม่กี่ร้อยกี่พันปี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "









http://www.weekendhobby.com/offroad/...?page=3&id=517<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณที่แก้ไขให้.... อ่านสบายตาขึ้นเยอะเลย (ขออ่านใหม่อีกรอบ)

 

ลึกล้ำเสียจริง หากจะให้ข้าพเจ้าทำความเข้าใจคงต้องใช้เวลาหลายวัน

 

โลกุตตระ นี้คือ พระเจ้า หรือ...

เหนือกว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หรือ จึงสั่งสอนพระพุทธเจ้าได้

 

น่าสนใจดี รออ่านต่อค่ะ เพราะยังโยงไม่ถึงหัวข้อเรื่อง ยังไงช่วยย่อหน้าให้ด้วยนะคะ จะได้มีที่พักสายตาบ้าง...ขอบคุณค่ะ

 

โอว.......
The message you have entered is too short. Please lengthen your message to at least 20 characters.

 

แต่ประเด็นคือว่า คนที่ส่งจดหมายนี้ไป เป็นใคร

และผู้หญิงที่นอนหลับแล้วเล่าเรื่องให้เขาฟังมีจริงไหม

แล้วทำไมถึงเรื่องราวมันเงียบมาถึงปัจจุบัน

 

เหมือนจะเคยอ่านตั้งนานแล้วนะครับ ผมอ่านตอนนี้ดูอีกทีก็เฉยๆนะ
ลองเอาชื่อของประวัติบุคคลสำคัญ ที่ข้างบนได้กล่าวๆมา แล้วไปดูวันเกิด ของพวกเขาดูละกันนะครับ ผมว่าต้องมีที่อยู่ในยุคๆเดียวๆกัน

ลูน่า เกิดมาแล้ว46ชาติ ทุกชาติเค้าเกิดเป็นกษัตริย์ แล้วชาติที่ 47 หละยังเป็นอยู่มั้ย ?
แถมมีการบอกว่าเป็นคนไทยด้วย
สำหรับผม ผมคิดว่า ก็แค่สิ่งมีชีวิต ชีวิตหนึ่งที่ยังพอใจในการเกิด

ถ้าใครรู้ตัวว่าเป็น ลูน่า ก็บอกด้วยนะครับ เห็นเขาบอกว่าเป็นคนไทย

 

เคยอ่านแล้ว ถ้าจำไม่ผิด คุณ vincent 308 เป็นคนโพสใช่ไหม

 

งานประติมากรรมขั้นสูง

ผมก็มาจากต่างดาวเหมือนกัน มาหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความศิวิ

 

อยากรู้อีก มีอะไรที่สุดๆ ก็อยากให้โพสอีก / โมทนาสาธุ

 

ความเห็นเรานะ ตีความบนฐานที่ว่า คนที่โพส์ทถาม อ.ระวี เขาพูดความจริงไว้ก่อนนะ
ผู้หญิงที่เขาพูดคุยด้วยตอนที่ผู้หญิงเขาหลับไม่รู้ตัวเนี่ย เหมือนผู้หญิงเขาเป็นพวก
เสาอากาศของเครื่องรับการสื่อสาร อาจมีมีคนส่งสาส์นผ่านเธอ
เพราะคนพูดเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนคนละเมอพูดไปเรื่อย
ทีนี้ ใครจะเป็นคนส่งคลื่นสื่อสารมาก็อาจจะมีหลายฝ่าย ในความคิดเรานะ มันมีเรื่องจริงปน
เรื่องเท็จ ต้องพินากันเอาเอง เหมือนพวกไบเบิลโค้ดที่มีทั้งจริงมั่งไม่จริงมั่ง แล้วแต่จะคิดไป
แล้วก็บางที อาจมีหลายฝ่ายใช้ผู้หญิงคนนี้เป็นเครื่องมืออยู่ก็ได้
อาจมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดี ดูจากข้อมูลแล้วบางอันก็ดูจะเข้าท่าดี บางอย่างก็หลุดโลก
เหมือนมีคนส่งคลื่นมารบกวนให้ข้อมูลมันดูไม่น่าเชื่อถือ เราเชื่อว่ามีความจริงปนอยู่ที่เรา
ใช้ประโยชน์ได้ แต่บางอย่างก็ควรปล่อยวางไป เรื่องที่เค้าเล่ามันก็เข้าข่ายอจินไตย
คนไม่มีสติอ่านมากๆแล้วอาจหลงจนถึงบ้าได้ เหมือนผู้ชายคนนี้เขาก็บอกเอง ว่าจะทนรับ
เรื่องบ้าๆ ไม่ไหวแล้ว ต้องพากันไปหาจิตแพทย์ ฟังมากถ้าใช้เป็นประโยชน์ไม่ได้ก็จะ
ฟุ้งซ่านเสียสติเสียความมีชีวิตที่เป็นปกติเอาได้ แต่ถ้าเรามาอ่านกันข้างนอกไม่ได้อยู่กับ
ผู้หญิงคนนั้นก็จะมีผลต่อจิตใจเราน้อย เพราะไม่ได้รับข้อมูลโดยตรง ก็ไม่ต้องเชื่อมาก
หรือไปเชื่อมากเกินควร ฟังเอาเรื่องประดับความรู้ เปิดหูเปิดตาไว้ ก็ดี จะได้เป็นคน
รอบรู้ เวลามีเรื่องไม่คาดฝันเกิด ก็จะมีข้อมูลซับพอร์ตเรื่องได้ ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก็เหมือนฟังเป็นนิยายเรื่องหนึ่งที่มันยังไม่ได้เป็นความจริง

อย่างเราก็ ดูพวกคอร์ปเซอร์เคิล มาพอสมควร คำว่า ลูนา จะหมายถึง พระจันทร์
พวกที่ decode corp cercle เขาจะพูดถึง lunar บ่อย รวมทั้งการเกิดจันทรคลาส
ก็มีใน corp cercle เยอะ เป็นสัญลักษณ์ บางที ลูนา อาจจะเป็น key master ก็ได้
ในทางดาราศาสตร์ พระจันทร์ ก็ถือเป็นดวงดาวที่สำคัญต่อโลก มีอิทธิพลต่อโลกสูง
และถ้าทุกดวงดาวมีจิตวิญญาณ ลูนา ก็ถือเป็นจิตวิญญาณที่มีอิทธิพลต่อโลกสูงมาก
เรื่องที่เขาเล่ามา ก็ฟังหูไว้หู ถ้าโชคดี เราเกิดมีบุญ ได้เห็นลูนาตัวจริงปรากฏตัวต่อโลก
เป็นบุคคลสาธารณะ ก็คงได้รู้ความจริงกันเองเมื่อถึงเวลา ถ้าเงียบๆอยู่ ก็คิดว่าเป็นนิยาย
ไซไฟ สนุกๆ เรื่องนึงที่มีคนมาเล่าให้เราฟังฟรีๆ เราคิดว่า ลูนา น่าจะเป็นผู้ชายนะ
หรืออย่าง ศาสนาคริสต์ เขาก็รอการมาของพระคริสต์ อิสลามเขาก็รอพระเมสิอารย์
ศาสนาอื่นๆเขาก็มีความหวังตามตำนานตามคัมภีร์ของเขา รวมถึงพุทธศาสนาของเราก็มี
แต่จะอาจจะเป็นคนละคนกันก็ได้นะ เพราะถ้ามาคิดรวมเป็นคนเดียวกันเดี๋ยวคนจะมาตีกัน
ตายซะก่อนด้วยเรื่องของความเชื่อความศรัทธาของใครของมัน จะกลายเป็นสงคราม
ศาสนาไปก่อนที่ความจริงจะปรากฏ เพราะคนเรามันขี้ระแวง ไม่ไว้ใจศาสนาอื่นก็มีเยอะ
กลัวศาสนาตัวเองจะถูกกลืน ถูกครอบงำ จนเสื่อมสูญหายไป ก็มี

ส่วนใหญ่เรื่องพวกนี้ใครเอามาเปิดเผย ก็ไม่มีใครเชื่อหรอก มันเกินจินตนาการที่จะเป็น
ความจริง และยังไม่ชัดว่าจะเป็นจริงหรือเป็นเท็จ คนส่วนใหญ่เขาก็เลยปล่อยทิ้งไป
จะไปยึดว่าเป็นเรื่องจริงก็อาจจะทำให้บ้าไปได้ เดี๋ยวต้องไปหาจิตแพทย์อีกคนเหมือน
คนโพสท์ละก็ ยุ่งเชียว อ่านได้ฟังได้ แต่อย่าไปคิดมากจนฟุ้งซ่าน ไม่เป็นอันกินอันนอน
หรือดีใจ หรือเสียใจ หรือตกใจจนเกินเหตุ จะเสียสุขภาพจิตได้

 

ลูน่า หมายถึง ดวงจันทร์ น่าจะเป็นคนที่นอสตราดามุสทำนายว่า
คนที่เป็นศรัทธาใหม่มีความเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ ผมว่าลูน่าไม่ได้เกิดเป็นบุคคลสำคัญในโลกนี้หรอกครับ เพียงแต่การทำงานของเธอทำให้เข้าใจว่าเป็นอย่างงั้น
เรื่องนี่เป็นเรื่องที่ผมรู้มาสักพักแล้ว ก่อนที่จะมาเจอเรื่องนี้ที่เวปพลังจิตครับ

 

พ.ศ. ๒๕๕๐ กึ่งพุทธกาล

 

เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วเหมือนกันค่ะ ยังเคยคิดถึงตัวเองเคยหลับแล้วพูดกับใครก็ไม่รู้เพื่อนที่นอนด้วยบอกว่าไม่ได้พูดภาษาคนแต่พูดนานเหมือนโต้ตอบกัน เพื่อนมันกลัวนั่งร้องไห้ทั้งคืนเลยค่ะ แล้วเพื่อนก็ย้ายไปไม่ยอมอยู่ด้วยอีกเลย ตอนนั้นพักอยู่บ้านน้าสาวค่ะ ดิฉันยังงงๆอยู่เพราะจำอะไรไม่ได้เลย

 

มีสติ
อยู่กับปัจจุบัน

จะไม่เป็นทุกข์จากการรับรู้ข้อมูลอดีต และทุกข์จากการคาดการณ์ไปยังอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

หลายเรื่องเชื่อมโยงให้ดูน่าเชื่อถือก็จริงบ้าง แต่ทุกอย่างล้วนอนิจจังไม่ใช่หรือ
การเห็นการรับรู้ของท่านอาจจริง แต่ในแง่ปรมัตถ์แล้วมันไม่จริง

อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด ตามเหตุและปัจจัย

ทุกอย่าง มันเป็นเช่นนั้นเอง

 

ถ้าเป็นการแต่งเรื่องขึ้นมา ก็ต้องยอมรับในอัจฉริยะของเขาละ..............