ภาพแสงประหลาด ภาพปริศนา รูปถ่ายติดวิญญาณ///

\\\ภาพแสงประหลาด ภาพปริศนา รูปถ่ายติดวิญญาณ///

ภาพแสงประหลาด เหมือน พญานาค
นื่มันคืออะไร ใครรู้บ้าง?
แถม คลิป กดติดวิญญาณ ดูแล้วพิจารณาเอาเอง นะครับ
เพิ่มเติม ถ่ายติด แสงที่สังเวชนียสถาน อินเดีย

 

มี บทเพลงสวดมนต์ พาหุง บาลีและแปล
บทเพลงสวดมนต์ ชินบัญชร บาลีและแปล ลองฟังดูนะครับ ยังไม่มีเผยแพร่ในเว็ปที่ไหน ผมไม่อยากลดทอนคุณภาพเสียง โหลดเป็น zip เอานะครับ ไพเราะมากๆ
http://palungjit.org/showthread.php?t=139778

 

ไอ เส้นๆ นิ วิญญาณ งู มั้ง

55+

 

น่าจะเป็นทหารท่านพญานาคมั้งเห็นในรูปถ่่ายที่วัดท่านว่าเป็นพญานาคนะเรา บังเอิญถ่ายรูปอยู่ไม่รู้เหมือนกันไปติดรูปอะไรมา ตอนแรกติด รูปเดียวเห็นแล้ว งง งง มากๆๆๆ เกิดช๊อคในรูปที่เห็นเลย ถ่ายอีกหลายรูปติดๆกันก็ติดรูปอย่างที่เห็นจนเกิดเป็นลำแสงเล็ก ๆ แล้วก็หายไป
(smile)เลยนำมาให้ชมกัน ใครคิดเห็นยังไง บอกกันมั้งนะ

 

ผมก็เคยถ่ายได้ครับรูปแบบนี้

มันคือรูปของ สายคล้องกล้องอะครับ

 

กล้องอันนี้ที่ใช้ไม่มีสายอะไรครับ......... 55555

 

<<<เสียงจริงท่านพุทธทาส >>> พระธรรมคำกลอน<<<พุทธศาสนา กับ วิทยาศาสตร์>>>
http://palungjit.org/showthread.php?t=139901

 

มีรูปพระธาตุมาให้ชมครับที่วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่.สาธุ สาธุ สาธุ !!!!!!

 

เพิ่มภาพ แสงที่ถ่ายได้อีก ที่อินเดีย ครับ(smile)

 

ผ่านที่วัดบ่อยครับ แต่ไม่เคยเข้าไปชมสักที เป็นบุญตาคับ

 

ค่ะเคยถ่ายได้แบบนี้เหมือนกัน

 

พระธาตุสวยงามมากครับ...

 

ผมขออนุโมทนาบุญอันเกิดจากศรัทธาของคุณpongdoo ครับ
แต่เท่าที่วิเคราะห์จากข้อมูลรูปภาพ 6 ภาพแรกที่เป็นเส้นสีขาวๆนั้น
โอกาสที่จะเป็นสายกล้องมีถึง99%เลยทีเดียว
จากการเปรียบเทียบลักษณะของสายกล้องโอลิมปัส IR-300
ที่เป็นรุ่นเดียวกันกับกล้องที่คุณใช้ถ่าย...
และเป็นภาพถ่ายในเวลากลางคืน ค่า ISO-200 และสปีดชัทเตอร์1วินาที
ซึ่งค่านี้หากถ่ายมือไม่นิ่ง ภาพจะมีโอกาสเบลอทั้งภาพ
แต่หากมือนิ่ง แต่วัตถุขยับ องค์ประกอบอื่นๆอยู่นิ่ง ภาพที่ได้คือภาพวัตถุเคลื่อนไหวออกแนวจางๆเหมือนวิญญาณ ท่ามกลางองค์ประกอบอื่นๆที่ชัดเจน
ผมดูภาพที่ 1 2 3 6 แล้วไม่ติดใจใดๆ แต่ภาพที่4และ5ซึ่งเป็นต้นไม้ทำให้ผมซูมดูใกล้ๆ แต่สุดท้ายแล้วผลการวิเคราะห์ยังออกมาเช่นเดิมครับ

ส่วนเรื่องของวงกลมสวยๆ ที่ว่ากันว่าเป็นเทพเทวา เทพยดา หรือจตุคามที่ถ่ายติดกันบ่อยๆ
นั้น หาความรู้ได้จากที่นี่ครับ http://blog.eduzones.com/nunthida/987

ป.ล. กระผมไม่ได้มาลบหลู่ประการใดๆนะขอรับ
เพราะถ้าจะพูดกันเรื่องความเชื่อความศรัทธาส่วนบุคคล ผมเชื่อว่าผมเองก็มีไม่น้อยไปกว่าใครในกระทู้นี้เช่นกัน
ป.ล.2 หากคุณผู้เขียนกระทู้ยืนยันว่ากล้องไม่มีสายคล้อง ก็อาจเป็นอีก1%ที่ยกให้เป็นความศรัทธาที่ตัวกระผมเองก็ปรารถนาจะพบเจอด้วยตนเองบ้างซักครั้ง
ป.ล.3 เรื่องของแสงกลมใสๆ จะเป็นปรากฎการณ์ที่สร้างขึ้นได้เอง...หรืออาจจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวโยงกับภพอื่นใดบนโลกนี้ เราควรเปิดใจรับเอาไว้ทุกทาง เพราะไม่ว่าจะอย่างใด ทุกสิ่งล้วนคือธรรมะหรือธรรมชาติทั้งสิ้น

ข้างล่างนี้กล้อง+สายกล้องรุ่นเดียวกันกับคุณผู้เขียนกระทู้ และตัวอย่างของภาพที่สายกล้องบังเลนส์ขอรับ

 

อนุโมทนาครับ.........ปัตจัตตัง......
ครับ....ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ...ผมทดลองดูหลายอย่าง..คุณสังเกตุภาพดูให้ดีนะครับมันไม่เหมือนกัน...ผมถ่ายอย่างต่อเนื่องกันโอกาสที่จะเป็นสายกล้องนั้นก็ไม่มีเลยผมลองให้โปรแกรมให้แสงเพิ่ม..เพื่อหาว่าเป็นวัตถุอะไรมาติดแล้วเป็นการถ่ายโดยแหงนกล้องขึ้นบนท้องฟ้าครับ....ผมไม่ทราบว่าอะไรเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดแสงวัตถุนั้นถ้ามาเปรียบเทียบรูปของคุณ แสงดาวของหัวใจ ดู ดี ดี จะไม่เหมือนกันนะครับ...............ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันครับ.......เพราะผมจะไม่เชื่ออะไร ง่าย ง่าย
กาลามสูตร กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ

1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

<dl><dd>เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล</dd></dl>;36
ขอบคุณนะครับที่ให้ความรู้เพิ่มเติม.........

 

;36รูปภาพพระอาจารย์ เปลี่ยน ปญญาปทีโปครับศิษย์หลวงปู่แหวน
อาจารย์ของผมเองครับ..........
ถ้าผมมีปัญญหาจะปรึกษาท่านตลอดท่านสามารถเข้าเวปได้ืั

http://www.panyapatipo.com/

 

(smile)ศรัทธาความเชื่ออย่างพุทธมามกะ (smile)​

ฉันปฏิญาณว่าฉันมีความเชื่ออย่างพุทธมามกะซึ่งอาจจะแตกต่างจากความเชื่อของชนเหล่าอื่นความเชื่อของพุทธมามกะนั้นคือ
๑) พุทธมามกะเชื่อโดยตรงต่อเหตุผล และด้วยความเป็นผู้อยู่ในอำนาจ แห่งเหตุผลข้อนี้ย่อม ทำให้ความเชื่อของฉันมี พอเหมาะ พอสมไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไปและเคียงคู่กัน ไปกับปัญญาพุทธมามกะถือกันเป็นแบบฉบับว่าการเชื่องมงาย เป็นสิ่งที่น่าอับอายอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นจุดรวม แห่งความนับถือของพุทธมามกะนั้นเป็นผู้ที่รู้ และดำเนินไปตามหลัก แห่ง การใช้เหตุผลจึงเป็นผู้ กำจัด ความงมงายของโลก
๒) พุทธมามกะเชื่อว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่ได้บ่มพระองค์เอง มาเป็นเวลาเพียงพอจนสามารถลุถึงด้วยพระองค์เองและทรงชี้ทาง ให้มนุษย์มีความสะอาด ความสว่างและความสงบเย็น ได้จริงเมื่อได้ พิจารณาดูประวัติแห่งคำสอน และการกระทำ ของ พระองค์ แล้วคนทุกคน แม้กระทั่งผู้ที่ไม่นับถือ พระองค์ก็ยอ่มเห็นได้ ทันทีว่าพระองค์ เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยความสะอาด ความสว่างและความสงบถึงที่สุดจนสามารถสอนผู้อื่นในเรื่องนี้ธรรมะที่พระองค์ได้ทรงบรรลุนั่นเองทำพระองค์ให้ได้นามว่าพระพุทธเจ้า
๓) พุทธมามกะเชื่อว่า พระธรรม ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบรรลุและนำมาสอนนั้นคือความจริง อันตายตัวของสิ่งทั้งปวง อันมีอำนาจที่จะบันดาลสิ่งทั้งปวงให้เป็นไปตามกฏนั้นและโดยเฉพาะ ที่มีค่าต่อมนุษย์ มากที่สุด ก็คือกฏความจริง ที่รู้แล้วสามารถทำผู้นั้นให้ปฏิบัติถูกในสิ่งทั้งปวง และพ้นทุกข์สิ้นเชิงพระธรรมนี้มีอยู่สำหรับให้ มนุษย์ เรียนรู้และทำตาม จนได้รับผลจากการกระทำ เป็นความพ้นทุกข์ สิ้นเชิงทั้งทางกาย และ ทางใจ
๔) พุทธมามกะเชื่อว่า พระสงฆ์คือบรรดามนุษย์ ที่มีโชคดีมีโอกาสก่อนใครในการได้รู้ ได้ปฏิบัติและได้รับผลของการปฏิบัติในพระธรรมถึงขนาดที่พ้นจากทุกข์ยิ่งกว่า คนธรรมดา ด้วยความแนะนำ ของ พระพุทธเจ้าพระสงฆ์ จึงเป็นผู้ที่ควรได้รับ การนับถือและ ถือเอาเป็น ตัวอย่างและเป็นที่บำเพ็ญบุญของผู้ที่ประสงค์ จะได้บุญใครๆ ก็อาจเป็นพระสงฆ์ที่แท้จริงได้ ไม่ว่าชายหญิง บรรพชิต หรือฆราวาสเด็ก หรือผู้ใหญ่ มั่งมีหรือ ยากจน คนเป็นพระสงฆ์ได้ด้วยการประพฤติและการบรรลุธรรมที่มีอยู่ในตัวเขาไม่ใช่เพราะการเข้าพิธีหรือ การเสกเป่า ต่างๆ
๕) พุทธมามกะเชื่อว่าโลกนี้ไม่มีบุคคลใดสร้างหรือ คอยบังคับ ให้เป็นไปหากแต่เป็นสิ่งที่หมุนเวียนไปเองตาม กฏของ สังขารธรรม คือกฏธรรมชาติอันประจำอยู่ในส่วนต่างๆที่ประกอบ กันขึ้นเป็นโลกมันเป็น กฏธรรมดา หากแต่ว่ามีบางสิ่งบางอย่าง ลึกลับซับซ้อน ประณีตและมหัศจรรย์พอที่จะทำให้คน บางพวกหลงไปว่า มีผู้วิเศษคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้สร้างสิ่งต่างๆเมื่อมนุษย์เรามีความรู้เท่าทันความเป็นไปของสิ่งเหล่านี้ได้มากเพียงใด ก็สามารถปรับปรุงตนเอง ให้ได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นหรืออยู่กันได้ด้วยความผาสุกมากเพียงนั้นไม่ต้องมีคัมภีร์ ซึ่งอ้างว่า ส่งมาจาก สวรรค์คงมีแต่คัมภีร์ที่คนผู้เข้าถึงธรรมะแล้วรู้เห็นได้อย่างไรก็บอกไปอย่างนั้นจนผู้อื่นสามารถเข้าถึงธรรมะได้อย่างเดียวกัน ก็พอแล้วเราเรียก คนเหล่านั้นว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
๖) พุทธมามกะเชื่อว่า มนุษย์แต่ละคนล้วนมีกรรมหรือการกระทำของตนเองเป็นเครื่องอำนายความสุขและ ความทุกข์ แล้วแต่ว่าเขาได้ทำไว้อย่างไรในขณะที่แล้วมา ทุกคนมีกรรม เป็นของตนเองเป็นเครื่องปรุงแต่งตัวเอง บังคับ ความเป็นไปของตัวเอง โดยเด็ดขาดจนกล่าวได้ว่า เรามีกรรมนั่นแหละ เป็นตัวเราเองถ้าเขาอยากมีหรืออยากอยู่ในโลกที่งดงามเขาก็ต้องทำ กรรมดีโดยส่วนเดียว ถ้าเขาเบื่อต่อการเป็นอยู่ในโลก ทุกๆแบบ เขาก็มีวิธีทำให้จิตใจของเขาสูงพอที่จะไม่ทำอะไรๆให้เป็นกรรม อย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นมาได้และอยู่เหนือกรรมโดยประการทั้งปวงผู้ที่ทำกรรมชั่วไว้จักต้องได้รับโทษ หรือมีการทำคืนที่สมควรแก่กันเสียก่อนจึงจะพ้น จากกรรมชั่วนั้นเว้นเสียแต่เขาได้ทำกรรมดีไว้มากอีกทางหนึ่งถึงกับช่วยให้เขามีจิดใจสูงพ้นอำนาจของกรรมไปเสียก่อนที่มันจะให้ผลได้
๗) พุทธมามกะเชื่อว่าตัวแท้ของศาสนานั้น คือตัวการกระทำ ที่ถูกต้องตามกฏแห่งความจริงจนได้รับผลของการกระทำเป็น ความสะอาด ความสว่างและ ความสงบ จริงๆหาใช่เป็นเพียงคัมภีร์หรือ คำสั่งสอนหรือการสวดร้องท่องบ่นวิงวอน บวงสรวงไม่พุทธมามกะ มีศาสนาของตนๆอยู่ที่ กาย วาจา ใจอันสะอาด ของตนเองความสะอาด ความสว่าง และความสงบ นี้ คือ ความหมายอันแท้จริงของคำว่า พระพุทธ พระธรรมพระสงฆ์ ซึ่งที่แท้ทั้งสามองค์เป็นองค์เดียวกันพุทธมามกะ จึงทำใจของตนให้ปักดิ่ง ลงที่ ความสะอาดความสว่าง และ ความสงบเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ คือความเชื่อ ๗ ประการของพุทธมามกะ
;36

 

ผมก็เอ่อ ไม่ได้ว่าไรคุณนะ แต่ผมก็เล่นกล้อง ผมคิดนะว่าคงเป็นสายกล้องโดนแฟลชแบบเต็มๆเลยออกมาขาวซะขนาดนี้ อิอิ www.rwoot.igetweb.com

 

ครับท่าน
ส่วนในเรื่องของการเปรียบเทียบ
ที่ว่าภาพไม่เหมือนกัน
กระผมขออธิบายว่า การโฟกัสของภาพที่กระผมเอามาให้ดูเป็นการโฟกัสชัดลึก ทำให้วัตถุหรือสายกล้องเบลอไป และไม่มีการยิงแฟลช
เพียงแต่ผมเสนอความคิดเห็นที่ได้จากการวิเคราะห์ และจากประสบการณ์ของตัวเองให้ท่านได้รับฟังในกรณีที่กล้องมีสายคล้อง แต่เนื่องจากได้ย้อนอ่านขึ้นไปเห็นว่าท่านบอกว่ากล้องของท่านไม่มีสาย...ถ้าหากไม่มีแล้วจะเป็นสายไปได้อย่างไร...

ส่วนหลักกาลามสูตรที่ท่านได้ยกมานั้นขออนุโมทนาสาธุ

 

:z12 ขอบคุณครับ....คุณแสงดาวของหัวใจ.......อนุโมทนาครับ;enter
สาธุ....สาธุ...สาธุ....ขอให้สุข...ในรสพระธรรมครับ

 

รูปร่างที่พระนอนอ่ะ ไม่แปลกอะไรหรอก ถ่ายที่ไหนก็ติด มันเป็นฝุ่น วงการถ่ายภาพรู้กันดี
ไม่เชื่อลองเอาผมช๊อกเขีียนกระดาษ มาตบ แล้วถ่ายภาพดู
หรือถ่ายที่มีความชื่นก็จะติด เป็นดวง ดังภาพ