Featured เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เหรียญพระพุทธสิหิงค์ จอมพลป. พิบูลย์สงคราม เหรียญตำนานแห่งความสำเร็จในการอธิษฐานแคล้วคลาดปลอดภัย รอดจากภัยครั้งยิ่ง
ใหญ่ในชีวิตท่านจอมพล

วัตถุมงคลล้ำค่าผลงานสร้างระดับชาติโดยบุคคลสำคัญของแผ่นดินยุคนั้น ถูกพวกพุทธพาณิชย์น้ำเน่ารุ่นหลังๆไม่เห็นหัวเห็นหางเพราะความรู้หางอึ่ง มุ่งแต่จะปั้นพระในนิทานนิยายออกมาขายคนโง่ๆ

เจอะเจอตรงไหนราคาหลักร้อยก็ควักกระเป๋าเก็บให้เกลี้ยง เป็นสมบัติประจำบ้าน ประจำตัวเถิด คุ้มครองชีวิตได้แน่ เหนือกว่าพระในนิยายนิทานล้านเท่า!!!

 

"หลวงปู่ศุข" พิมพ์วัดหัวหาด
ชินตะกั่ว-จาร "พุทธอุดโลก"
===============

วัดหัวหาดหรือวัดพิกุลงาม เป็นวัดที่สนิทชิดใกล้กับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่สุด เพราะวัดอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำเยื้องๆกัน เรียกว่าคนว่ายน้ำแข็งๆสามารถว่ายข้ามไป-มาได้ไม่ยาก

ความสัมพันธ์ของ หลวงปู่ศุข กับวัดหัวหาด จึงไม่ต้องพูดถึง หลวงปู่ชอบมาปักกลดเวลาออกธุดงควัตรใต้ต้นสมอวัดหัวหาดบ่อยครั้ง ปัจจุบันต้นสมอแห่งประวัติศาสตร์ยังอยู่ ส่วนคนวัดหัวหาดก็ข้ามฟากไปกราบหลวงปู่ ขอวัตถุมงคล บ้างก็ช่วยสร้างวัตถุมงคลกับวัดมะขามเฒ่า เป็นเรื่องปกติของคนโบราณที่ชอบ "ลงแขก" ช่วยเหลือวัดกับอาจารย์ที่เคารพรักศรัทธา ยิ่งนามและบารมีของ "หลวงปู่ศุข" ใครได้รับใช้ทำอะไรให้ถือเป็นบุญ เป็นกุศลติดตัวยันวันตาย!!!

พระหลวงปู่จึงตกมาอยู่ที่ชาวบ้าน"วัดหัวหาด" มาก เรียกกันคุ้นปากติดหูว่า พระหลวงปู่ศุข พิมพ์วัดหัวหาด หลวงปู่อนุญาตให้สร้างเรื่อยๆหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อชินตะกั่ว เมื่อเทใหม่ๆก็จะอาบปรอทขาววับ หากรักษาดี เนื้อตะกั่วก็ยังมีปรอทจับให้เห็นเป็นเอกลักษณ์

พิมพ์วัดหัวหาด มีทั้งแบบพิมพ์โบราณกับพิมพ์ที่ปรับปรุงสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับ "วัดส้มเสี้ยว" ที่แยกพิมพ์กับเนื้อออกง่าย จึงได้รับความนิยมรองลงมาจาก "วัดมะขามเฒ่า" ในกระบวนเนื้อชินตะกั่วด้วยกัน

เปิดกรุ...ส่ง "วัดหัวหาด พิมพ์พระพุทธ อุข้าง" ชินตะกั่วองค์งามสุดให้ร่วมบุญเพื่อความครึกครื้นของวันกลางสัปดาห์ต้อนรับเดือนมิถุนายน

=======4,500=======

ความงามที่แทบไม่ต้องบรรยาย การรักษาที่ดีทำให้ปรอทยังอาบผิวตามตำรา และตอกย้ำได้ว่า เป็นพิมพ์ที่หายาก ส่วนใหญ่พบเห็นแต่พิมพ์ข้างรัศมี โย้เย้ ฝีมือชาวบ้าน บัวเม็ด บัวขีด บัวตาราง

นี่เป็น "พิมพ์อุข้าง กลีบบัวชั้นเดียว"องค์พระทรงสังกัจจายน์หน่อยๆ ยืนยันว่าเป็นพระที่หลวงปู่ศุขเมตตาให้เป็นโภคทรัพย์ อุดมสมบูรณ์ความสุขดังชื่อท่าน และเมตตามหานิยม เช่นคติองค์มหากัจจายนเถระเจ้า เอกอรหันต์ผู้งดงามจนต้องจำแลงกลายร่างให้อ้วนลงพุงน่าเกลียด แต่ก็ยังเป็นสุดยอดแห่งเมตตามหานิยมมิรู้คลายยาวนานกว่าสองพันปี

การลงเหล็กจารมาตรฐานด้วยยันต์ "พุทธอุดโลก" หรือม้วนโลก ลายมือหลวงปู่แผ่วเบาแต่ทุกเส้นติดชัด คงเส้นคงวาไม่มีขาด อาจมองยากกับภาพถ่าย เพราะคราบปรอทกับไขความเก่าขึ้นคลุม...แต่องค์จริงเห็นชัดเจนตาเปล่า ยิ่งลงกล้องจะเด็ดขาดประทับตาประทับใจ!

ขนาดไล่เลี่ยกับวัดปากคลองฯ และ วัดส้มเสี้ยว


ส่งท้ายด้วยภาพชัดๆด้านหลังกับ พุทธม้วนโลก ปิดทุกข์ ปิดโศก ขจัดอุปสรรคปัดเป่าปวงอันตราย เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดคงกระพัน มหาอุด ชุดใหญ่ไฟกระพริบ คือวัตถุมงคลที่ผ่านปราณบารมี + พลังจิตอิทธิเวทย์ไร้ใดเทียมของหลวงปู่

ชมแล้ว...ทุกท่านจงนอนหลับฝันดี มี "ความสุข" สุขเสมอ สุขตลอดไป สมดังมงคลนามหลวงปู่ที่เป็นอมตะไม่มีวันถูกลืมกว่าร้อยปี!!!!

 

ขอจองครับคุณอา

 

เครื่องมือรวนเล็กน้อย กระทู้เดียวซ้ำตั้งหลายยก ต้องไล่ลบอุตลุด ยังลบไม่หมด หลวงปู่ศุของค์งามก็โดนน้องคัมภีร์จองไปเข้าคู่กับองค์วัดส้มเสี้ยวซะแล้ว

ต้องโมทนายามดึกกับน้องคัมภีร์ที่อยู่เป็นเพื่อนกัน จัดส่งท่านเดินทางพรุ่งนี้ครับ และขอกล่าว สวัสดีราตรีสวัสดิ์กับน้องรวมทั้งสมาชิกที่เข้ามาชมในเวลานี้

ขอบารมีองค์หลวงปู่ผู้ทรงญาณเหนือกาลเวลาดูแล คุ้มครองทุกท่าน ดลบันดาลแต่ความ "สุข" มีโชคลาภ โชคดีทุกทิวาราตรีครับ

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 2282 6631 6 TH พลิ้ว

 

เรียนคุณอาครับ ผมโอนเรียบร้อยแล้วครับ กราบขอบพระคุณครับ ขอบารมีลป.ศุข คุ้มครองทหารของพระราชาทุกท่านครับ..

 

น้องคัมภีร์ อาราธนาบารมีองค์ปู่คุ้มครองทหารกล้าชาวไทย ซึ่งเขียนเรื่องนี้แล้วปวดกระดองใจกับนักกินเมืองไทย ที่มันทำศักดิ์ศรีประเทศชาติป่นปี้ ยอมก้มหัวให้ไอ้ชาติขี้ข้ามันลูบหัว ตบหัว หยามเล่น เป็นครั้งยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นตัวตลกในสายตาชาวโลก เพราะไม่กล้าทำอะไรกับผู้รุกดินแดน ได้แต่จะขอนั่งโต๊ะเจรจากับไอ้ชาติขี้ข้า ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับ "พระจ้าตากสินมหาราช" ทรงเหยียบใต้ฝ่าพระบาทเหมือนเหยียบมด ขยี้มด มาเก่าก่อน

ยังโชคดีที่ "ทหารไทย" ผู้มีเลือดรักชาติเต็มตัวทุกหยาดหยด ไม่ยอมทำตามไอ้นักกินเมืองเลวชาติบางคน ทหารกล้ายังไม่ยั่นและพร้อมรบไม่ยอมเสียดินแดนแม้ก้าวเดียว และส่วนใหญ่ไม่ฟังคำของไอ้นักกินเมืองชั่วชาติเหล่านั้น

มีประโยคน้ำเน่าที่ไอ้พวกปัญญานิ่ม พูดเอาดีเข้าตัว พูดแล้วฟังน่าสะอิดสะเอียนว่า...

"ประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบการปกครองดีที่สุด แต่เลวน้อยที่สุด"!

งั้น ต้องเสริมอีกประโยคว่า...

"การปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่วิธีดีที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ถูกต้องและ "เลวน้อยที่สุด" ในการปราบนักกินเมืองฉ้อฉล"!!!

ฝากไว้ให้เหล่าทหารกล้า....บารมีคุณพระศรีรัตนตรัย พระเสื้อเมืองทรงเมือง พระสยามเทวาธิราช และ พลังใจแรงกล้าของชาวไทย 70 ล้านคน จงคุ้มครองพวกท่านในการปกป้องศักดิ์ศรีของชาติและผืนแผ่นดินไทยที่บรรพบุรุษนักรบไทย เสียสละเลือดเนื้อต่อสู้เพื่อรักษามันไว้ ให้ลูกหลานชาวไทยอยู่อย่างเป็นสุขทุกวันนี้!!!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

โมทนาน้องคัมภีร์กับบุญ+ทานบารมี วันนี้หลวงปู่คงเดินทางถึงฝั่ง
ทะเลตะวันออก

 

เรียนคุณอาครับ หลวงปู่เดินทางมาถึงเรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ กราบขอบพระคุณครับ

 

หลวงปู่ศุข พิมพ์วัดหัวหาด องค์งามเด็ดเดินทางไปสมทบกับวัดส้มเสี้ยว องค์สวยเช้ง เป็นศิริมงคลให้รื่นรมย์อุดมสมบูรณ์ทางฝั่งทะเลตะวันออกเรียบร้อย โมทนาน้องคัมภีร์ มีแต่ความสุข มั่งคั่งไพบูลย์ ดั่งใจหมายทุกประการครับ

 

ลป.คำจันทร์ "หลวงปู่ฟอร์จูนเนอร์"
ตะกรุดโทน-เทพเจ้าเมืองน้ำดำ!!!
===============

ฉายานี้ได้มาเพราะประสบการณ์ลือลั่นสนั่นเมืองที่สุดแห่งปี ในการพกบูชาวัตถุมงคล "ตะกรุดโทน" เพียงหนึ่งเดียวของ "หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ" แล้วรอดชีวิตชนิดที่คุยได้เลยว่า...เหนือปาฏิหาริย์!!!

ภาพรถฟอร์จูนเนอร์ที่โดนรถบรรทุกทับพลิกทับทั้งคัน แบนแต๊ดแต๋ อีกนิดเดียวก็แบนราบกับพื้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561อย่าว่าแต่คนจะรอด สิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่ในรถก็รอดยาก...!

น่าเหลือเชื่อ และเกินจะเชื่อ...นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก คนขับซึ่งเป็นพนักงานการบินไทย เขยบ้านเมย รอดชีวิตเพียงมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย!!!
อีกหนึ่งภาพ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถ พบ "ตะกรุดโทน-หลวงปู่คำจันทร์" แขวนห้อยไว้หน้ารถเพียงดอกเดียว!!!

(((ขอบคุณภาพจาก "ผู้จัดการ ออนไลน์" ซึ่งภาพชุดนี้ก็แพร่หลายไปทุกสื่อทั่วประเทศ ไม่ต้องสาธยายว่าได้สร้างความฮือฮาในความมหัศจรรย์ครั้งนี้ขนาดไหน???)))

กระทู้เราเคยนำวัตถุมงคล "หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ" ให้สมาชิกร่วมบุญบูชามากที่สุด ไม่มีที่ใดเทียบเท่าเพราะเคยร่วมกุศลกับท่านด้วยการสร้าง "วิหาร-หอสวดมนต์" ติดต่อกันถึง 4 ปี กระทั่งวิหารนี้สำเร็จสมบูรณ์ เมื่อครั้งท่านพำนักสร้างความเจริญให้กับ สนส.คำป่าดู่ อ.กระนวน ขอนแก่น ท่านอยู่ที่นี่ยาวนานถึง 12 ปี

(((ใบฏีกาทอดกฐินกับท่านครั้งสุดท้ายในปี 2557= 11 ปีมาแล้ว ซึ่งท่านได้มอบวัตถุมงคลมากมายให้นำไปไว้ทำบุญสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อเนื่อง....รวมทั้ง "ตะกรุดโทน" ที่สร้างชื่อ สร้างประสบการณ์สูงสุดที่จะนำออกมามอบให้ร่วมบุญกันในวันนี้...!)))

ได้เคยมอบทั้ง ตะกรุดสาริกาพกพา ตะกรุดเชือกข้อมือ เหรียญเสมา รูปหล่อพระอุปคุต...ทุกอย่างกลายเป็นของหายากและมีราคาไม่น้อย และหายากเอาการในท้องตลาดเวลานี้ เนื่องจาก "หลวงปู่คำจันทร์" ได้ย้ายจากขอนแก่นมาอยู่ที่ วัดบ้านเมย จ.กาฬสินธุ์ เมืองน้ำดำ วัดบ้านเกิดและสร้างความฮือฮาที่สุด

กระทั่งบังเกิด ฉายา "หลวงปู่ฟอร์จูนเนอร์" ถูกยกย่องให้เป็น "เทพเจ้าแห่งเมืองน้ำดำ" ดังกล่าว

ปัจจุบัน หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ ละสังขารแล้วในวัย 92 ปี 72 พรรษา ณ วัดบ้านเกิดของท่านเอง ซึ่งท่านสร้างให้เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในช่วงปัจฉิมวัยผู้คนหลั่งไหลไปสักการะท่านวันละหลายร้อย-พันทุกวัน

เปิดกรุที่เก็บรักษาไว้อย่างดี "ตะกรุดโทนคู่ชีวิต"หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ ท่านลงแรงถักเอง ทุ่มสมาธิพลังจิตสูงสุดจารเอง มอบให้เป็นกรณีพิเศษในฐานะที่ได้ร่วมบุญกฐินกับท่านติดต่อกันถึง 4 ปี ชมภาพเล่าเรื่อง และเชิญร่วมบุญบูชา ของหลักพันปลาย-หมื่น ในหมู่ผู้เสาะแสวง แต่มอบอย่างไม่รุนแรง...

=======2,700=======

ตะกรุดสุดยอดแห่งประสบการณ์ สำหรับผู้คนยุคปัจจุบันที่ชีวิตต้องเสี่ยงภัยบนท้องถนนและภยันตรายมากมาย ตะกรุดโทนนี้ หลวงปู่คำจันทร์ สั่งไว้ว่า...ไม่มีข้อห้าม!!!

ปกติตะกรุดชุดก่อน หลวงปู่มีข้อห้าม 2-3 ข้อ...ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น ห้ามดื่มเหล้า ห้ามเข้าที่อโคจร....!

แต่ "ตะกรุดโทน" นี้ หลวงปู่บอกว่า ลงแก้-กันสารพันเสร็จสรรพ อย่ากระทำผิดกฏหมายอย่างเดียว พกพาติดตัวได้ทุกสถาน

อีกด้านของตะกรุด มีเชือกไนลอนถักเหนียวอย่างดี ยาวเหลือเฟือร้อยได้รอบเอว กับไหมพรมถักป้องกันตะกรุดเสียหาย

ความยาว 3.5 นิ้วเกือบ 4 นิ้ว ลูกคั่นป้องกันเชือกบาดตะกรุดชำรุด งานฝีมือเรียบร้อยสวยงาม

ประวัติ "หลวงปู่คำจันทร์" พอสังเขป
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

--นามเดิมของท่าน "คำจันทร์ ทองห้า"
--เกิด วันพฤหัสฯ 4 ส.ค. 2475 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง
--บ้านสวนโคก ต.ดงลิง อ.กมลลาไสย จ.กาฬสินธุ์
--บิดา'นายพรหม'-มารดา'นางคำมา' พี่น้อง 5 คน
--ปี 2497 อุปสมบท วัดบ้านเมย กาฬสินธุ์
--ปี 2503 สอบได้นักธรรมตรี-โท-เอก
--ปี 2505 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านเมย-เป็นเจ้าคณะตำบลดงลิง
--ปี 2511 เป็นพระอุปัชฌาย์
--ปี 2516 พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี "พระครูปริยัตยานุวัตร"
--ปี 2538 เจ้าคณะตำบลชั้นโท ราชทินนามเดิม ขณะนั้นจำพรรษา วัดสมัยสำราญ อ.บึงกาฬ หนองคาย ซึ่งท่านอยู่ตั้งแต่ 2520 และธุดงควัตรสร้างวัด สร้างโบสถ์ วิหารไปหลายสถานที่
--ปี 2545 จำพรรษา สนส.คำป่าดู่ บ้านฝาง อ.กระนวน ขอนแก่น เป็นเวลา12 ปีเต็ม
-- ปี 2558 กลับมาอยู่ "วัดบ้านเมย" ตามคำขอร้องของคนบ้านเกิด และมรณภาพ ในปี 2566 ทิ้งผลงานเพื่อพระพุทธศาสนาไว้หลายแห่ง

หากท่านผู้อ่านต้องการทราบประวัติยอดเยี่ยม หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ มากกว่านี้ เพียงพิมพ์ชื่อท่าน ก็จะได้พบความจริงอันน่าเหลือเชื่อ และคลิปประวัติน่าสนใจมากมาย ดูเพลิน อ่านสนุกสมกับฉายา...เทพเจ้าเมืองน้ำดำ!!!