Summer Sale โปรพิเศษ ลดราคาพิเศษทุกรายการ #สรุปรายการหน้าที่ 11

รายการที่ 132







พระพุทธนิมิตรพิชิตมาร
รุ่นพิชิตมาร ประทานทรัพย์ รุ่นแรก เนื้อดำดง ปีพ.ศ.2559
พระอธิการใจ ฐิตาจาโร วัดพระยาญาติ จังหวัดสมุทรสงคราม

#มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลขสวย 978)

#ข้อมูลของผู้สร้าง เนื้อโลหะดำดง เนื้อนี้แข็งแกร่ง ไม่ใช่เนื้อเหล็กน้ำพี้ครับ

#พระพุทธนิมิตรพิชิตมาร เป็นพระพุทธปางมารวิชัย ที่เคยเห็นทั่วๆไป แต่พระพุทธองค์นี้เป็นพระพุทธปางมารวิชัย โดยมีหนุมานแบกอยู่ แล้วใส่ซุ้มเรือนแก้วกับลายไทยเพื่อเป็นการบูชาพระพุทธองค์ที่ทรงชนะมารแล้วเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้คนรู้จักหาความสุขที่แท้จริง หลวงพ่อใจท่านได้ลงแผ่นยันต์มหาปราบแบบเต็มๆให้ ได้เอาไปหล่อทำชนวนแล้วลงยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า, ยันต์มงคลโสฬส, ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์, ยันต์พระพุทธเจ้า 16 พระองค์ ,ยันต์เกราะเพชร ,ยันต์ตรีนิสิงเห, ยันต์เสริมธาตุ-หนุนธาตุ ,ยันต์เจ็ดตำนาน แต่ต้องใส่ยันต์พระก่อนนะมหาปราบเอาไว้ใส่หลังสุดตอนหลอม เพราะหนุมานเขาเป็นมหาปราบลูกพระพายศัตรูพ่ายที่สำคัญอย่าลืมเอาตะปูสังฆวานรโบสถ์เก่าที่เก็บไว้ไปหลอมด้วยมันจะได้ดีมากๆ พระพุทธองค์ที่ออกมาให้บูชานี้ ใครได้ไว้ภายหน้าราคาจะแพงมากหายากสุดๆคนมีก็จะหวงแหนใครที่คิดไม่ดีกะเราจะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วทันตาเห็นเลยทีเดียวการที่เราบูชาสิ่งที่สูงสุดของพระสงฆ์ที่บรรพชาอยู่ในบวรพุทธศาสนาซึ่งพระพุทธองค์ท่านเป็น บิดา ผู้ให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่พระสงฆ์ทั้งหลาย เพื่อที่จะให้ช่วยคนให้พ้นจากทุกข์ ใครที่ห้อยหรือบูชาของที่สูงสุดของสงฆ์ทั้งหลายรับลองเลยว่าชีวิตจะไม่มีตกต่ำแน่นอน ยิ่งมีหนุมานแบกยกขึ้น มีความหมายว่าเป็นการยกฐานะ ยกให้สิ่งไม่ดีผ่านพ้นไป ไม่ให้โดนตัวเรา ชีวิตจะพ้นจากทุกข์ เทวดาจะคุ้มครอง เพราะตามลายกนกซุ้มข้างองค์เป็นการแสดงถึง เทพเทวดาถึง 16 ชั้นฟ้า ส่วนกนกข้างบัวที่นั่งแสดงถึง เทวดา-รุขเทวดาทั้งหลาย ทั้ง 15 ชั้นดิน ส่วนที่ข้างตัวหนุมาน มีลายกนก แสดงถึง เทวดา 14 ชั้นบาดาล ส่วนหนุมานที่แบกมีนัยยะว่า ผู้ที่มีอำนาจ วาสนา บารมีเยอะ มาคอยหนุนนำชีวิต ของผู้ที่มีไว้บูชา มีคำๆนึงที่หลวงพ่อท่านพูดขึ้นมาลอยๆว่า " พระพุทธองค์นี้ถ้าไม่นิมิตรมาให้เห็นคงทำออกมาไม่ได้ " จึงเอาคำพูดของหลวงพ่อใจมาใช้ตั้งชื่อองค์พระว่า " พระพุทธนิมิตรพิชิตมาร "

#พระอธิการใจ ฐิตาจาโร พระเกจิขลัง พระดีมีวิชาแห่งลุ่มแม่น้ำแม่กลองที่พระเกจิต่างยอมรับ คนอัมพวาก็นับถือ ศิษย์เอกเรืองอาคมผู้สืบทอดวิชาสายสำคัญ ๖ สาย โดย สืบสายวิชาหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมจากหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี, สืบสายวิชาหลวงพ่อง้อ วัดดาวดึงส์และโยมพ่อใบ คำอึก, สืบสายวิชาหลวงพ่อบ่าย วัดช่องลมและหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัยจากหลวงพ่อหนู วัดภุมรินทร์และหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง, สืบสายวิชาหลวงปู่ใจ วัดเสด็จจากหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ และ สืบสายวิชาหลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครก จากหลวงพ่อน้อย วัดปากคลองและหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ โดยทุกสายวิชานั้น พระอธิการใจท่านเรียนมาอย่าง " รู้จริง " และ " ทำได้จริง "

#เรื่องเล่าพลังจิตกฤตยาคม พระอาจารย์ใจ ในงานพุทธาภิเษก หลวงพ่อหายโศก
หลวงพ่อใจกับพระอาจารย์บ๊ะ เมตตาอธิฐานจิต พิธีหล่อหลวงพ่อหายโศก วัดเทพสรธรรมาราม จ.ปทุมธานี

หลังจากงานหล่อหลวงพ่อหายโศกผ่านไป ญาติโยมหลายคนมาเล่าให้อาตมาฟังถึงความประทับใจในงาน ว่า รู้สึกเย็นใจ ชุ่มชื่นในใจ มีความสุขบอกไม่ถูก ทุกคนจะพูดในแนวเดียวกันเรื่องของความสุขความเย็นที่เกิดขึ้นลึกๆภายใน ซึ่งตัวอาตมาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แม้งานจะมีคนมากมาย ร่างกายอ่อนล้า แต่ใจเบาสบาย ร่มเย็นดีมาก อาตมาได้เล่าเรื่องเหล่านี้ให้หลวงพ่อใจ และพระอาจารย์บ๊ะฟัง ซึ่งท่านต่างมีความเห็นคล้ายกัน หลวงพ่อใจพูดว่า งานดีไม่มีบกพร่องใดๆ คนเยอะมากไม่น่าเชื่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่เขาลงมาช่วย มาโมทนากันมาก และขณะที่หลวงพ่อใจมาถึงก่อน ท่านได้เข้านั่งปลุกเสกเหรียญและวัตถุมงคลใต้ฐานท่านแม่กวนอิม เกือบ ๒? ชั่วโมง พระอาจารย์เทียนชัยเข้ามาดูแลความเรียบร้อย แอบมากระซิบว่า นี่หลวงพ่อท่านเสกทั้งวัดเลยหรือนี่..! ตอนนี้บรรยากาศดีมากๆดีจริงๆ ท่านมหา ท่านช่วยจุดธูปสื่อบอกพระแม่หน่อยสิ เพราะพระแม่มายืนเต็มพื้นที่คลุมงานทั้งหมด กดทับจนแน่นมาก ประกอบกับอำนาจจิตของหลวงพ่อใจก็แนบแน่นสนิทเป็นหนึ่งเดียวกันกับงานทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงวัตถุมงคลที่อยู่แค่ตรงหน้าหรอก เป็นจริงตามนั้น อาตมารู้สึกได้ถึงขุมพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาลในขณะนั้น สงบนิ่ง ร่มเย็นเป็นสุข สุขุม สว่าง เบากายเบาใจเหลือเกิน อาตมาเชื่อว่าญาติโยมที่อยู่ในเหตุการณ์ย่อมมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน เมื่อหลวงพ่อใจเสกเสร็จ ภาคบ่ายเรายกวัตถุมงคลทั้งหมดออกไปหน้าปะรำพิธี ช่วงก่อนเวลาเททอง มีฝนตกลงมา อาตมานึกในใจสื่อถึงท่านแม่ว่าเมื่อเช้าตอนบวงสรวงได้กราบทูลท่านเรื่องขอให้งานราบรื่น อย่าได้มีอุปสรรคใดๆ หรือแม้แต่ฝนขออย่าให้ตกในขณะทำพิธีเททอง แต่ตอนนี้ทำไมฝนตกล่ะครับ..? รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างเป็นความรู้สึกเบาๆว่า เจ้าโง่ ฉันจะพรมน้ำมนต์ปราบพื้นที่ และจัดระเบียบให้เรียบร้อยเสียก่อน แกทำหน้าที่ของแก ฉันจะทำหน้าที่ของฉันเพื่อโปรดลูกหลาน แต่หลังงานแล้วให้รีบกลับ เพราะหลวงพ่อหายโศกบุญหนักมาก ฝนจะตกอย่างหนัก อาตมารับรู้แล้วจึงสบายใจ เดินตากฝนเฉย เพราะรู้ว่านั่นคือน้ำมนต์ เมื่อถึงเวลาบ่าย ฝนหยุดตกขาดเม็ดแดดออกอ่อนๆ ยิ่งขณะที่เททองมีลมพัดโชยมาเป็นระยะๆ แม้แต่หลวงพ่อใจและพระอาจารย์บ๊ะท่านพูดเหมือนกันว่าฝนจะไม่ตกแน่นอนในเวลาเททอง...

ส่วนพระอาจารย์บ๊ะ เมื่อท่านมาถึงบายตึ๊กเจียประมาณเที่ยง ท่านเดินสำรวจงานเรื่อยไป ท่านว่า ตั้งแต่เดินเข้ามาก็เห็น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี และครูบาอาจารย์ในสายของหลวงพ่อใจเต็มวัด ท่านว่าหลวงพ่อใจไม่เคยทิ้งครูบาอาจารย์เรียกมาหมด อีกทั้ง เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ และ หลวงปู่สรวงของท่านเทียนชัยองค์ใหญ่นั้นก็ไม่ธรรมดา มีชีวิตหมด ช่วยกันทำงานใหญ่ ขณะเททองพระอาจารย์บ๊ะท่านว่า มองดูคนแล้วมันเยอะเหลือเกิน สายสิญจน์ที่เตรียมไว้ไม่พอแน่ ท่านจึงชักยันต์ในอากาศตามสายครูบาอาจารย์ของท่าน ทับแล้วทับอีก ซ้อนแล้วซ้อนอีก เพื่อป้องกันพิธี และมงกุฎพระพุทธเจ้าครอบไว้เหนือพิธีอีกครั้งหนึ่งเอาเป็นว่า ใครก็ไม่สามารถทำอันตรายพิธีได้เด็ดขาด ครูบาอาจารย์ในสายท่านๆก็เรียกมาหมดเหมือนกัน อย่างหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคเป็นต้น ส่วนโยมนั้นท่านได้ชักยันต์เกราะเพชรในสายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า คลุมตัวทุกคนที่มาร่วมงาน แม้ไม่ได้จับสายสิญจน์ก็ไม่มีปัญหา ท่านบอกท่านเขียนยันต์จนเพลิน แดดฝนทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะไม่รับรู้ สักพักท่านเห็นควันบุหรี่พุ่งขึ้นๆ ท่านนึกในใจว่า อะไรวะ..! มองดูไปเห็นหลวงตาสรวงนั่งสูบยาอยู่อย่างสบายใจ ในขณะที่ช่างกำลังโหมเตาหลอมเพื่อเททอง เสียงเป่าลมกระหึ่ม ไฟในเตาโหมขึ้นเท่าทวีคูณ หลวงตาสรวงคงช่วยเป่าลมคุมเตาหลอมด้วยมั้ง ส่วนเจ้าแม่นั่นก็ยืนคุมงานอย่างดี สายสิญจน์ที่โยงลงมาจากท่านสว่างไปหมด คลุมทั้งวัดเลยดีกว่า ไม่จำต้องกล่าวถึงเหรียญหลวงพ่อหายโศกที่ทำขึ้นมาอยู่ตรงหน้าพระอาจารย์บ๊ะ เรียกได้ว่าหลวงพ่อใจเองท่านก็เสกกันเต็มที่ อัญเชิญครูบาอาจารย์ในสายแม่กลองมาทั้งหมด

= ลดพิเศษ 1250 Baht

 

พื้นทราย - 26/12/2567 EMS : D 9272 8397 1 TH ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 133



เหรียญพระพรหม 4 หน้า เนื้อทองแดง ปีพ.ศ.2552
หลวงพ่อบุญลือ ฐานโชโต วัดคำหยาด จังหวัดอ่างทอง

= ลดพิเศษ 250 Baht

 

รายการที่ 134



ผ้ายันต์มหารวยใหญ่หลวงพ่อกลาง หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่กอง
ที่ระฤกอายุ 105 ปี จัดสร้างปีพ.ศ.2545
หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

= Sold Out

25/2/2568 EMS : ED 1308 2258 6 TH ขอบพระคุณครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 135









เหรียญระฆังเงิน มหาโชคลาภ" เนื้อกะไหล่เงิน
หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง

รุ่นนี้พิเศษ หลวงพ่อเกษม ได้อธิษฐานจิตถึง 2 วาระ
- ครั้งแรก วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2537 (ตรงกับวันปิยะมหาราช)
- ครั้งที่สอง วันที่ 28 พฤจิกายน พ.ศ.2537 (ตรงกับวันครบรอบวันเกิด)

= ลดพิเศษ 250 Baht

 

รายการที่ 136








พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์ ไตรมาส ปีพ.ศ.๒๕๔๓ #พิเศษ มีจารหมึกสีทอง
หลวงพ่อเฉลิม เขมทสฺสี วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

#พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์ ไตรมาส ๒๕๔๓ วัดพระญาติการาม
พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์ เป็นพระที่ทางวัดพระญาติการาม จัดทำขึ้น
และกดพิมพ์กันเอง ผมสมด้วยมวลสารมากมาย ตามแบบฉบับของวัดพระญาติ อธิฐานจิตไตรมาส โดยหลวงพ่อเฉลิม เขมทสฺสี เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์แบ่งออกด้วยกัน 3 พิมพ์
๑ พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์
๒ พระสมเด็จหลังยันต์เฑาะว์ ตะกรุดทอง (มีบางส่วนที่จารย์อักขระ เป็นของที่ระฤก หลวงพ่อเฉลิม อายุ ๙๐ ปี)
๓ พระสมเด็จหลังยันเฑาะว์ เกศทอง ตะกรุดทอง

#ว่าด้วยเรื่องสมเด็จ วัดพระญาติการาม ปี ๒๕๔๒-๒๕๔๓
...เอาปูนขาวผสมมวลสารเเล้วเอาน้ำอ้อยเคล้าให้เข้ากันเเล้วชิมดู ถ้าหวานเเหลมใช้ไม่ได้ ถ้าหวานปะเเล่มๆ ใช้ได้ ทำเสร็จผมท้าเลยเเช่น้ำไว้เดือนนึงก็ไม่ยุ่ย..
...หลวงปู่เจ้าคุณเฒ่า ได้เล่าถึงการสร้างพระพิมพ์สมเด็จปี ๒๔๙๖ ไว้ จึงเป็นเเรงบันดาลใจในการสร้างพระพิมพ์สมเด็จในปี ๒๕๔๒-๔๓ ในปี ๒๕๔๒ นั้นทางวัดพระญาติการาม ได้จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้น เป็นรุ่นที่ ๒ อย่างเป็นทางการ หลังจากสร้างในสมัยหลวงปู่อั้น ในปี ๒๔๙๖ ในกาลนี้ ได้จัดสร้างในราวๆ เดือน กุมภาพันธ์-เมษายน ของปี ๒๕๔๒ โดยการจัดสร้างกันเองในวัด ได้นำปูนขาวผสมกันกับมวลสารศักดิ์สิทธิ์ของทางวัดมากมายซึ่งหลวงปู่ท่านชี้ให้นำมาใส่ซึ่งมีอยู่ราวๆ สิบกว่าขวดโหลเเละควบคุมด้วยตัวท่านเองโดยกำชับว่า "อย่าใส่มากจะดำไม่สวยใส่อย่างละปลายช้อนกาเเฟก็พอใส่มากดำปี๋ไม่สวยหรอก" (เคยรั้นท่านเเอบใส่เยอะดำจริงๆจึงไม่ได้ปั๊มพระเเต่อุดใต้ฐานพระบูชาหลวงปู่อั้นไป) เเล้วทำการตำผสมน้ำมันตั้งอิ๊ว ในช่วงเช้าราวๆ 8.45 หลังทำวัตรเช้าเสร็จ ต้องใช้เวลาการตำราวๆ 1-2 ช.ม. จึงจะใช้ได้ ถ้าตำน้อยเนื้อไม่เข้ากันเวลาปั๊มจะยากซ้ำส่วนต่างๆก็ไม่ชัดเมื่อปั๊มออกมา จากนั้นก็นำมาปั๊มด้วยเเป้นพิมพ์เพียงอันเดียว ทีละองค์ๆจนหมดส่วนที่ตำมา ซึ่งกว่าจะหมดได้เพราะเเป้นพิมพ์มีอันเดียววันหนึ่งๆก็ปาไป 4 -5 ทุ่ม- เที่ยงคืน ในบางวันที่ตำเยอะก็เลยเที่ยงคืนก็มี และเนื้อที่ตำเเล้วนั้นไม่สามารถเหลือได้เพราะหากเหลือจะเเข็งเสียเปล่าไปโดยปริยาย ก็มีพระคุณเจ้าในวัดเป็นส่วนใหญ่ในการสร้าง มีศิษย์วัด คือคุณพุทธิกร คุณปรีชา 2-3 คน เป็นผู้ร่วมทำ โดยทำอยู่ เกือบ 3 เดือน พระจะทำช่วงเช้าไปถึงเพล เเล้วมาปั๊มช่วงบ่ายไปถึง เกือบๆ 4 โมงเย็น เพราะจะต้องลงทำวัตร ศิษย์วัดกลับจากโรงเรียน ก็มาช่วยปั๊มต่อในช่วงนี้ไปถึง 6 โมง- 1 ทุ่ม ราวๆ 2 ทุ่ม ก็มาช่วยกันปั๊มต่อไปจนถึง 4-5 ทุ่ม ดังกล่าวไว้ข้างต้น จนมีคำพูดกันที่เล่นทีจริงว่า "ปีนี้วัดเปิดโรงงานนรก" หลังจากนั้นก็นำไปไว้ในอุโบสถ ทะยอยๆไปเรื่อยๆ

= ลดพิเศษ 399 Baht

 

รายการที่ 137





พระคันธารราฐ เนื้อผงมวลสาร
หลังนารายณ์ทรงครุฑ ยันต์โสรฬมงคล รุ่นสมโภช ๕๐๗ ปี
วัดหน้าพระเมรุราชิการาม (พระอารามหลวง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีพ.ศ.2553

#"พระคันธารราฐ"พระพุทธรูปงามล้ำค่าอีกองค์หนึ่งในวัดหน้าพระเมรุ ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารน้อย หรือวิหารสรรเพชญ์ ซึ่งมีขนาดกว้างเพียง6 เมตร ยาว16 เมตร โดยพระคันธารราฐ เป็นพระพุทธรูปศิลาเขียวปางปฐมเทศนาสมัยทวารวดี ประทับห้อยพระบาทบนดอกบัวบาน สันนิษฐานว่าสร้างระหว่างพ.ศ. 1000-1200 ซึ่งพระยาไชยวิชิต(เผือก) แม่กองบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 จารึกไว้ว่า อัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุที่อยุธยา ทว่ามีบันทึกในสมัยรัชกาลที่ 5 ว่าอัญเชิญมาจากวัดพระเมรุ จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบพระพุทธรูปทวารวดีขนาดใหญ่หลายองค์
พระพุทธรูปพระคันธารราฐ

#องค์นี้เป็นพระพุทธรูปศิลาเขียวประทับนั่งห้อยพระบาทที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ไม่กี่องค์ในเมืองไทย โดยมีความเก่าไล่เลี่ยกับยุคสมัยของโบโรบูดูร์ หรือบรมพุทโธ บนเกาะชวาในอินโดนีเซียเมื่อกว่า1,000 ปีมาแล้ว นับเป็น1 ใน6 พระพุทธรูปที่สร้างจากศิลาที่มีอยู่ในโลก และเป็น1 ใน5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย ไม่ควรพลาดที่จะมากราบสักการะท่านอย่างยิ่ง
พระคันธารราฐพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันมีผู้ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าต้องการสิ่งใดให้มากราบไหว้ขอต่อท่าน แล้วจะสำเร็จสมดังปรารถนา....

#รุ่นสมโภช 507 ปี วัดหน้าพระเมรุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปีพ.ศ.2553 ได้จัดงานพิธีพุทธาภิเษกสมโภชสมโภชน์ครบ 507 ปี ณ อุโบสถวัดหน้าพระเมรุ โดยมีพระเกจิอาจารย์ร่วมพิธีปลุกเสกหลายองค์ อาทิ.....
-หลวงพ่อรวย วัดตะโก
-หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
-หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
-หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
-หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
-หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสววรค์
-หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
ฯลฯ

#ด้านหน้า/องค์พระคันธารราฐ ด้านหลัง/พระนารายณ์ ทรงครุฑยันต์โสรฬมงคล เป็นตบะมหาอำนาจอย่างยิ่งนัก...!

= ลดพิเศษ 199 Baht

 

รายการที่ 138







เหรียญพระพุทธรัตนแสงแก้ว หลังแม่พระธรณี นิโรธสมาบัติ ปีพ.ศ.2556
ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย

#ปลุกเสกในพิธีนิโรธกรรมครั้งที9 ในวันที่ 16 มกราคม ปีพ.ศ.2556 ณ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

ด้านหน้า : พระพุทธรัตนแสงแก้ว ด้านหลัง : แม่พระธรณี

ครมาอริยชาติท่านเป็นศิษย์ศึกษาวิชาและศาสตร์ทางล้านนานมามากมายจากหลายครูบาอาจารย์ ได้แก่ ครูบาจันติ๊บ,ครูบาชุ่ม,ครูบาดวงดี,ครูบาจันทร์แก้ว,ครูบาอินตา,ครูบาผัด ฯลฯ

นับว่าทานเป็นพระอาจารย์ แม้อายุยังน้อย แต่คงแก่เรียนมาก วิชาทั้งหลายที่ท่านศึกษามาทานได้
ทดลองแล้วว่าหาได้จริง และช่วยสงเคราะห์ผู้คนได้จริง หายากแล้วในปัจจุบันที่จะมีผู้รู้จริงแบบท่าน

= ลดพิเศษ 199 Baht

 

รายการที่ 139




เหรียญมหาเทพ พระนารายณ์เหยียบโลก พระมหาพรหม ปีพ.ศ.2510
หลวงพ่อบุญจันทร์ เจริญธรรม สำนักอบรมศีลสมาธิปัญญา(หัวหิน) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

#เนื้อตะกั่ว พิมพ์ 2 หน้า เลี่ยมกรอบกันน้ำพร้อมบูชา

พระนารายณ์เหยียบโลก : มหาอำนาจ
พระมหาพรหม : เมตตามหานิยม

#สมเด็จพระบรมครู(หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา) หลังจากท่านละสังขารปี พ.ศ. 2497 ได้ 4 วัน แล้วมาจุติหรือมาเกิดด้วยวิธีโอปปาติกะในร่างของนายกิมเส้ง แซ่เตียง ซึ่งเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และท่านบอกว่าท่านคือหลวงพ่อกบ ชื่อจริงนั้นคือ “บุญจันทร์ เจริญธรรม” (หนังสือโอปปาติกะปาฏิหาริย์)

เครดิตข้อมูล : หนังสือ หลวงปู่ เดินหน อิเกสาโร โดย ฅนขลัง คลังวิชา

= Sold Out

27/2/2568 EMS : ED 1426 3193 8 TH ขอบพระคุณครับ

 

shaj - 25/2/2568 EMS : ED 1308 2258 6 TH ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ

 

MATHS - 27/2/2568 EMS : ED 1426 3193 8 TH ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 140



รูปภาพรุ่นพระธรรมธาตุ หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี (ครูบากฤษดาสร้างถาย)

#ขนาด 4 x 6 นิ้ว รูปภาพรุ่นนี้ทัน หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี และ ครูบากฤษดา สุเมโธ อธิษฐานจิต

= 399 Baht

 

รายการที่ 141













สมเด็จพระเจ้าตากสิน หลังยันต์พุทธเกษตร เนื้อผงมวลสาร ปีพ.ศ.2524
หลวงพ่อกัสสปมุนี เถราจาริย์ วัดปิปผลิวนาราม จังหวัดระยอง

#สร้างชุดเดียวกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ยันต์พุทธเกษตร

#เลี่ยมกรอบกันน้ำสวยงามพร้อมบูชา

เครดิตข้อมูล : คุณเนาว์

= ลดพิเศษ 2900 Baht

 

รายการที่ 142








เเหวนพิรอดมหายันต์นอโม รุ่นเเรก ปีพ.ศ.2563
พ่อท่านผ่อง ฐานุตฺตโม วัดแจ้ง จังหวัดพัทลุง

#เนื้ออัลปาก้า ไซส์แหวน 58

มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลขสวย ๙๙)

#เเหวนพิรอดมหายันต์นอโมรุ่นเเรกเเห่งสายเขาอ้อ ตักศิลาไสยเวทย์อันเรืองอาคม พ่อท่านผ่องวัดเเจ้งประธานจัดสร้าง ที่รวมพุทธคุณตามความเชื่อโบราณมาไว้ด้วยกัน

เเหวนพิรอดนอโม. เป็นเเหวน มหามงคล เเห่งสายเขาอ้อ. ที่รวมตำรับวิชาเเห่งสำนักเขาอ้อมาไว้ด้วยกัน เชื่อกันว่ารุ่นนี้มีพุทธคุณเท่าทวี พุทธคุณจาก3 ส่วนคณาจารย์เเห่งตักศิลาเขาอ้อ. รวมเป็นหนึ่ง

ส่วนเเรก พระปรมาจารย์พ่อท่านทองเเห่งเขาอ้อ ครูใหญ่ เเละพ่อท่านปาลวัดเขาอ้อ โดยได้อันเชิญยันต์ครู นอโม 29 มาไว้ที่เเหวนเพื่อเป็นความเป็นสิริมงคลสูงสุด. เเละประกอบพิธีอัญเชิญสัพวิชานิ้วเพชร เพื่อลงในอักขระต่างๆ. ที่นำมาผสม ไว้ในเเหวนรุ่นนี้

ส่วนที่สอง. สายศิษย์พระอาจารย์นำ พระครูสิริวัฒนาการ หรือพระอาจารย์ศรีเงิน อาภาธโร เเห่งวัดดอนศาลา. เเละท่านขุนพันธรักราชเดช พระเกจิเเละฆราวาสชั้นครูสายเขาอ้อ มีการจัดสร้างเเหวนพิรอดเป็นการส่วนตัวหลายรุ่น อันมีความเชื่อว่า. พิรอดนั้นจะมีพุทธคุณทางด้านเเคล้วคลาด ปลอดภัย เเละกันสิ่งอุบาตทั้งปวงได้ ศัตรูจะเข้ามาเบียดเบียนไม่ได้ จึงนิยมพกติดตัวตลอดเวลา เป็นครื่องรางชิ้นสำคัญของสายเขาอ้อที่ขาดไม่ได้

สวนที่สาม สายพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคร คือต้นเเบบ เเห่งเเหวนหัวนะโม. ที่สุดแห่งสุดยอดตำนานแห่งพระเครื่องแดนใต้ แหวนหัวนะโม พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ จันทสุวัณโณ (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) วัดสวนขัน อ.ช้างกลาง นครศรีธรรมราช จัดสร้างราวปี พ.ศ.2511 พุทธคุณ ครอบจักรวาล ทั้งด้านโชคลาภ และเจริญรุ่งเรือง ในหน้าที่การงานหรือธุรกิจต่างๆ อักขระ “นะโม” เป็นอักษรปารวะของอินเดียโบราณ เป็นเครื่องรางของขลัง” ประกอบพิธีตามคัมภีร์ไสยเวทหรืออาถรรพเวทเพื่อป้องกันภยันตรายทั้งปวงในราชอาณาจักร อักขระนะโม จึงเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรทะเลใต้

ในกาาจัดสร้างครั้งนี้จึงนำเอาเอาต้นเเบบทั้งสามเเขนงวิชาเเห่งสำนักตักศิลามาไว้ด้วยกันเพื่อก่อเกิดพุทธคุณตามความเชื่อโบราญ โดยทั้งสามส่วนจากสัพวิชาของครูทั้งหลายจึงบังเกิดเป็นเเหวนพิรอดนอโม ขึ้น. ที่เด่นทั้งด้านมหากัน กันสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง เเละเสริมในด้านโชคลาภ ค้าขาย. เงินทอง โดยลงอักขระนอโมของครูเขาอ้อใต้เเหวน จงขนาบข้างหัวนะโมพ่อท่านคล้าย.

#โดยมีพิธีปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่โดยคณาจารย์สายเขาอ้อพัทลุง นครศรีธรรมราช 9 รุป อันประกอบด้วย
1. พ่อท่านผ่อง วัดเเจ้ง
2 พ่อท่านเชียร วัดเขาอ้อ
3 พ่อท่านกันภัยวัดดอนศาลา
4 พ่อท่านจรูญ วัดเขาเมืองเก่า
5 พ่อท่านเเผ้ว สำนักสงฆ์ไสหลวง
6 พ่อท่านเกิ้ง วัดควรไม้บ้อง
7 หลวงช้าง วัดวังหอม จ.ตรัง
8 พ่อท่านชู วัดควนพนางตุง
9 หลวงภัทร ที่พักสงฆ์ควนไม้บ้องครับ จ.นครฯ

#แหวนพิรอดนอโม คาถานอโม 29 เป็นมหายันต์ที่ว่าด้วยคาถาที่สร้างมาก่อนภาษาใดๆ ในโลก
ทุกสรรพสัตว์ ธาตุสี่ ต้องว่าด้วยพระคาถานอโมทั้งสิ้น...เป็นยันต์ปฐมมนต์คาถาของสำนักเขาอ้อ
#ศักดิ์ศรีรุ่นแรก มาแรงมากรุ่นแรกในการจัดสร้าง แหวนพิรอดนอโมรุ่นแรก หลวงพ่อผ่อง วัดแจ้งพระเกจิชื่อดังเมืองลุง
รุ่นเเรกมันต้องมี
#เเหวนพิรอดนอโม #รุ่นเเรก #พ่อท่านผ่องวัดเเจ้ง
เเหวนพิรอดนอโม. เป็นเเหวน มหามงคล เเห่งสายเขาอ้อ
นอ. โม. พุ. ทอ ธา ยอ สิ ทอ ทม ออ อา อิ อี อึ อื อุ อู ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ เอ แอ ไอ ใอ โอ เอา อำ อะ ๚
โสตะ นอ โม ผู้ใดรู้เป็นมรรคผล
พุ ทอ ทา ยอ ตน สิ ทอ ทม มี นอ ใน ออ อา อย่าได้โกรธ อิอี โสตอย่าได้ไฉน อึ อื ถือไว้ใน อุ อู ไซร้ใครรู้กล ฤ ฤๅ เป็นที่วาง ใครรู้บ้างในร่างตน ฦ ฦๅ แสวงหาผล ผู้ใดพบสบตาเข้า เอ แอ แต่บ่ายเบี่ยง ใครรู้เที่ยงในเรื่องราว ไอ ใอให้สืบสาว โดยนิยมท่านพาที โอ เอา พระเจ้าตรัส ได้โปรดสัตว์ทั่วโลกีย์ อำ อะ พระชินสีห์มีลักขณะอักขระนำ
อักขระนี้ประเสริฐ 29 ล้ำเลิศ ยิ่งล้ำโลกา
ว่าพระเตมีย์ หน่อโพธิสัตวา ตรัสเป็นปถมา
ผู้ใดปรีชา ปัญญาคิดเห็น
ตัว นอ นี้ใน ว่าหามิได้ รูปร่างบ่เป็น
ตัว โม ว่าอ่อน บ่อห่อนแข็งเข็ญ
พุ ตรัสรู้เห็น ประเสริฐนักหนา
ทอ ทา ทอ ทม สี่ตัวอุดม ทรงเป็นอัตรา
ตัว สิ ว่าแข็ง เรี่ยวแรงตัวกล้า
ตัว ออ ว่าเห็น ตัว อา ว่าหนา
อิ อี ว่าแข็ง เรี่ยวแรงตัวกล้า
อึ อื นี้หนา ว่ารักจนตาย
อุ อู หาที่เสมอไม่ ฤ อยู่ในไส้ ฤๅ ว่าตรงมา
ฦ ฦๅ ว่ารู้ ลือไปทุกหมู่ ทั้ง 8 ทิศา
ตัวเอตัวแอ ว่ามา ใอ ไอ กล่าวว่า เรื่องราวกล่าวกลอน
โอ หัวทุกทีว่ามีอาภรณ์ เอา อำ ให้งดไว้ก่อน
พิจารณาให้แน่ ตัวอะนี้แล ว่าปราบศัตรู ไม่มีคู่สู้
4 ทวีปกล่าวมา นอโมประเสริฐ 29 ล้ำเลิศ
เกิดมนุสสา กอ ขอ เทวะ ติงสาเกิดหลังนะท่านเอย ฯ
วิชา “นอโม” นี้เป็นวิชาสำคัญวิชาหนึ่งในทางไสยศาสตร์ โดยเฉพาะในภาคใต้คือสำนักเขาอ้อที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ
จึงบอกได้ว่ายันต์นี้จึงเป็นหัวใจของสายเขาอ้อ...!!!!

เครดิตข้อมูล : กลุ่ม FB พ่อท่านผ่อง

= ลดพิเศษ 599 Baht

 

รายการที่ 143






ล็อกเกต ฉากทอง รุ่นแรก หลังประทับแผ่นยันต์ ปีพ.ศ.2555
หลวงพ่อสมคิด ปโยคจิตโต วัดเขาวงศ์ จังหวัดสุพรรณบุรี

#ล็อกเกตจัดสร้างเป็นรุ่นแรก สมัยอยู่วัดเขาวงศ์ สุพรรณบุรี ปัจจุปันท่านอยู่จังหวัดราชบุรี

= ลดพิเศษ 499 Baht

 

รายการที่ 144



ผ้ายันต์พญาครุฑ "เพชรกลับ (ร้ายกลายเป็นดี) ปีพ.ศ.2552
หลวงปู่ผาด อภินนฺโท วัดไร่ จังหวัดอ่างทอง

#ผ้ายันต์รุ่นนี้ สร้างและเสกพร้อม พญาครุฑ เพชรกลับรุ่น 2 มีประทับตราวัดชัดเจน

#ผ้ายันต์ - เนื้อนวโลหะ พญาครุฑ เพชรกลับ รุ่น2
พญาครุฑ เป็นตราที่อยู่เหนือหลักพิชัยสงครามเป็นสัญลักษณ์ของผู้เป็นใหญ่ มีอํานาจราชศักดิ์ พญาครุฑเป็นของสูงอยู่กับผู้ใดจะเจริญทั้งหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัวเป็นผู้ที่ตกตําไม่ได้ เป็นมหาอํานาจปกครองคนมีบารมีสูงกว่าเขาทั้งหลาย ปราศจากโทษภัย อัตรายทั้งปวง ฯลฯ

พญาครุฑเพชรกลับ หรือพญาครุฑ รุ่น2 เนื้อนวโลหะ หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ.วิเศษฯ จ.อ่างทอง เป็นพระดี มีพุทธคุณ เกื้อหนุนชีวิต พิสูจน์ได้จากประสบการณ์จริงมาแล้ว ใครมีบ้านหรือร้านค้า บริษัทติดทางสามแพร่งหรือปลูกคร่อมบ่อ คร่อมตอเก่า เจ้าที่แรง คนในบ้านในบริษัททะเลาะกันเป็นประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน หรือหาได้จริงก็มีเหตุต้องใช้เงินอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ติดร้าน ค้าขายดีๆ กลับสะดุด หรือมีที่ดิน ร้านค้าติดที่ตาบอด ที่ดินติดวัด ติดป่าช้าเก่า ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดสุสาน อยู่ใต้สะพานข้าม อยู่ในที่อัปโชค หรือรถที่ขับอยู่เป็นรถมือสอง เคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายมาแล้ว หรือมีแต่เราไม่รู้ หรือมีเลขทะเบียนรถ สีรถ ชงกับดวงคนขับ ขับอยู่ดีๆมีคนมาเบียบมาชนรถเรา *ให้ท่านลองบูชาพญาครุฑของหลวงพ่อผาด มาติดบ้าน ร้านคา บริษัท หรืติดรถที่มีปัญหา แล้วท่านจะรู้ว่าอำนาจครุฑมีจริง ครุฑจะเป็นเครื่องรางช่วยจับจิกตี จับดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีกินเป็นอาหาร ซึ่งตามเทวตำนานเมื่อครุฑเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ไม่มีอะไรกินจะจับนาคซึ่งเป็นบริวาลของอนันตนาคราชกิน พระนารานณ์เกรงว่าครุฑกับนาคจะผิดใจกันอีก ท่านจึงอนุญาติให้ครุฑจับสัมภเวสีหรือวิญญาณร้ายที่ให้โทษแก่มนุษย์กินได้ ยิ่งไปกว่านั้น ครุฑจะกางปีกปัดพาความพิบัติขัดสน ความขัดแย้ง อุปสรรคต่างๆ ออกไปจากตัวเรา และจะนำอำนาจ ความร่ำรวยเงินทอง โชคลาภมาหาเรา ลองดูนะครับ บูชาติดตัวไว้แล้วอะไรดีๆจะเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้

เมื่อต้นปี 2551 ศิษย์หลวงปู่ผาดหลายคนมากราบท่านเรียนถามท่านว่าในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพงภัยธรรมชาติรุนแรง โจรผู้ร้ายชุกชุมเช่นนี้ จะใช้พระอะไรดี ท่านหลับตาพักหนึ่ง บอกว่าให้ตัดไม่ดีในชีวิตออกไป พัดพาแก้วแหวนเงินทอง ยศ ศักดิ์ อำนาจ วาสนาให้ และปีกปกป้องอันตรายทั้งปวง เหตุอัศจรรย์ในวันปลุกเสก เสาร์ที่ 5 เมษายน 2551 ซึ่งถือกันว่าเป็นวันเสาร์ห้า เป็นวันแรง เป็นวันมงคลเหมาะในการเสกพระเครื่องที่สุด เมื่อหลวงปู่ผาดเริ่มปลุกเสกเกิดลมพัดแรงกล้าในบริเวณวัดไร่ ตันไม้ใหญ่ กิ่งก้านสาขาหักระเนระนาดหมด อากาศเย็นสบายทั้งที่เมื่อพ้นเขตวัดไปแล้ว ลมสงบ และอากาศร้อนอบอ้าว ผู้นั่งทางในได้บอกว่า เป็นเพราะหลวงปู่ผาดเสกพญาครุฑจึงบังเกิดอำนาจครุฑตัวใหญ่ในนิมิต เล่นลมให้เป็นอัศจรรย์ครุฑของหลวงปู่ผาดสวยงามราวกับมีชีวิตทั้งยังขลังสุดๆ อีกด้วย ใครที่มีบ้านหรือร้านค้า บริษัทติดทางสามแพร่ง หรือบ้านร้านค้า บริษัท ปลูกคร่อมบ่อ คร่อมตอเก่า เจ้าที่แรง คนในบ้านในบริษัท ทะลาะกันประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน หรือหาได้จริงก็มีเหตุให้เงินอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ติดร้าน ค้าขายดีๆ กลับสะดุด หรือมีที่ดิน บ้านช่อง ร้านค้า บริษัทเป็นที่ตาบอด ที่ดินติดวัด ติดป่าช้าเก่า ที่ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดสถานีตำรวจที่มีห้องขังอยู่ ติดสุสาน อยู่ใต้สะพานรถข้าม อยู่ในที่อับโชค หรือรถที่ขับอยู่เป็นรถมือสอง เคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บ คนตายมาแล้ว หรือมีแต่เราไม่รู้ หรือมีเลขทะเบียนรถ และสีรถ ชงกับดวงคนขับ ขับขี่อยู่ดีๆ โดนเบียด โดนชน ทั้งที่เราขับระวังแล้ว ให้ลองนำพญาครุฑของหลวงปู่ผาด เอามาไว้ที่บ้าน ร้านค้า บริษัท รถที่มีปัญหา แล้วจะรู้ว่าอำนาจครุฑมีจริง ครุฑจะเป็นเครื่องรางที่ช่วยจับจิกดี จับดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีกินเป็นอาหาร เพราะดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีต่างๆ ที่ให้โทษกับเรา ล้วนเป็นลูกน้องของท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งตามเทวตำนานเมื่อครุฑเป็นพาหนะของพระนารายณ์ไม่มีอะไรกินจะจับนาคซึ่ง เป็นบริวารของอนันตนาคราชกิน พระนารายณ์เกรงว่า ครุฑกับนาค จะผิดใจกัน ท่านจึงอนุญาตให้ครุฑจับสัมภเวสี หรือวิญญาณร้ายที่ให้โทษกับมนุษย์กินได้ ยิ่งไปกว่านั้นพญาครุฑจะกางปีกพัดพาความวิบัติขัดสน ความขัดแย้ง ปัญหาอุปสรรค์ขัดขวางความเจริญให้ออกไปให้พ้นทางเรา จะพัดความร่ำรวยเงินทอง แก้วแหวน เนื้อคู่หน้าที่การงานที่ดีมาให้เรา "หลวงปู่ผาด" ตั้งใจสร้างครุฑเพชรกลับ เพื่อเป็นที่ระลึกในงานมงคลนี้ ท่านเสกเดี่ยวโดยเน้นให้เอาไปบูชาเป็นมงคลชีวิต โดยให้ปั้นแบบที่พญาครุฑกางปีกออก เพื่อพัดพาสิ่งไม่ดีในชีวิตออกไป พัดพาแก้วแหวนเงินทอง ยศ ศักดิ์ อำนาจ วาสนามาให้ และให้ปีกปกป้องอันตรายทั้งปวง เป็นครุฑเพชรกลับ คือหันหน้าคนละด้านกับครุฑรุ่นแรกที่หายากและมีประสบการณ์สูง อีกทั้งมีราคาค่าบูชาแพงมากแล้ว ด้วยเหตุที่สร้างเป็นครุฑเพชรกลับ จึงมีพุทธคุณสูงเพิ่มเติมอีกด้านคือ ด้านการกลับร้ายให้กลายเป็นดี กลับสิ่งอัปมงคลให้กลายเป็นสิ่งมงคล กลับฐานะจากยากจนให้กลายเป็นร่ำรวย เป็นเศรษฐีกันทุกคน เหตุอัศจรรย์ในวันปลุกเสกครุฑเพชรกลับ กล่าวคือ หลวงปู่ผาดปลุกเสกนานนับเดือนแล้ว เป็นการเสกเดี่ยวเพียงองค์เดียว ท่านเสกทุกครั้งหลวงน้าละออก็จะนั่งสมาธิตามจิตท่านทุกครั้ง ได้เล่าว่า "เมื่อหลวงพ่อผาด เริ่มปลุกเสก เกิดลมพัดแรงกล้า ในบริเวณวัดไร่ ต้นไม้ใหญ่กิ่งก้านหักระเนระนาด อากาศเย็นสบาย ทั้งที่เมื่อพ้นเขตวัดแล้ว ลมสงบ และอากาศร้อนอบอ้าว เพราะหลวงพ่อผาดเสกพระครุฑ จึงบังเกิดอำนาจครุฑตัวใหญ่ในนิมิต เล่มลมให้เห็นเป็นอัศจรรย์ บรรยากาศเหมือนกับตอนหลวงพ่อปลุกเสกครุฑรุ่นแรก ไม่มีผิดเพี้ยน จะต่างกันตรงครุฑเพชรกลับรุ่นนี้ เห็นทางใน ตัวใหญ่กว่าครุฑรุ่นแรกมากนัก คล้ายเป็นหัวหน้าของครุฑทั้งหมด"

#การปลุกเสกพญาครุฑ จะต้องลงหัวใจให้ครบผู้ปลุกเสกต้องมีบารมี มีพลังเหนือพลังไม่อย่างนั้นขลังยาก ลงวิชาครุฑต้องลง 8 อย่าง ถึงครบสูตร คือ

1. เป็นมหาอํานาจเหนือกว่าใคร

2.เจริญก้าวหน้าในแผ่นดิน (รับราชการ)

3.ตราแห่งโชคลาภ-เงินทอง-ลาภผล

4.กันเขี้ยวงาอสรพิษ (พญาครุฑยึดนาคจับนาคผู้เป็นใหญ่ในอสรพิษได้พญาครุฑ จึงเหนือเขี้ยวงาพิษร้ายทั้งปวง)

5.แก้คุณผีคุณคนคุณไสย์ ได้ดีนัก เดรัจฉานวิชาไม่กล้าเข้าใกล้

6.ตกตําไม่ได้พญาครุฑบินอยู่สูง สูงกว่าพญานกทั้งหลาย ตราพญาครุฑจึงช่วยดวงไม่ให้ตกต่ำ

7.พระเคราะห์ไหนๆพระราหูแรงอย่างไร ก็ชนะพญาครุฑไม่ได้

8.บารมีมากปกป้องคุ้มครองดี ปลอดภัยตลอกกาล ประสบการณ์จริง พญา ครุฑ หลวงปู่ผาด ช่วยให้กิจการค้าที่ซบเซา ดีขึ้น มีกำไรเป็นกอบเป็นกำ ประสบการณ์จริง

#เรื่องนี้ เป็นของร้านขายวัสดุก่อสร้างในตลาดพนัสนิคมซึ่งเผอิญอยู่ใกล้ถนนสามแยก (โบราณว่า ร้านอยู่ใกล้ทางสามแพร่ง ไม่ดี เป็นทางผีผ่าน) ร้านนี้กิจการซบเซาเพราะพิษเศรษฐกิจมานาน ลูกชายได้บูชาพญาครุฑรุ่นแรก ของหลวงปูผาด พอกลับถึงบ้านไม่บอกให้ใครรู้ ได้นำพญาครุฑไปเหน็บไว้ที่ป้ายชื่อร้าน ตกดึกคุณแม่ฝ้นว่าทีครุฑตัวใหญ่บินเข้ามาในร้าน พัดพวกผีร้ายที่อยู่ในร้านและบริเวณลานหน้าร้านติดกับทางสามแพร่งปลิวออกไป หมดเลย กนั้นครุฑบินขึ้นฟ้า พัดแก้วแหวนเงินทองเข้ามาในร้านมากมาย ต่อมาลูกชายสังเกตุเห็นว่า กิจการค้าขายที่เคยซบเซา กลับขายดีจนส่งของลูกค้าแทบไม่ทัน พญาครุฑ หลวงปู่ผาด นอกจากจะสวยงามราวกับมีชีวิตแล้วยังขลังสุด ๆ อีกด้วย ใครที่มีบ้านหรือร้านค้า บริษัทติดทางสามแพร่ง หรือบ้านร้านค้า บริษัท ปลูกคร่อมบ่อ คร่อมตอเก่า เจ้าที่แรง คนในบ้าน ในบริษัท ทะเลาะกันประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน หรือหาได้จริงก็มีเหตุให้เงินอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ติดร้าน ค้าขายดี ๆ กลับสะดุด หรือมีที่ดิน บ้านช่อง ร้านค้า บริษัทเป็นที่ตาบอด ที่ดินติดวัด ติดป่าช้าเก่า ที่ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดสถานีตำรวจที่มีห้องขังอยู่ ติดสุสาน อยู่ใต้สะพานรถข้าม อยู่ในที่อับโชค หรือรถที่ขับอยู่เป็นรถมือสอง เคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บ คนตายมาแล้ว หรือมีแต่เราไม่รู้ หรือมีเลขทะเบียนรถ และสีรถ ชงกับดวงคนขับ ขับขี่อยู่ดี ๆ โดนเบียด โดนชน ทั้งที่เราขับระวังแล้ว ให้ลองนำพญาครุฑของหลวงปู่ผาด เอามาไว้ที่บ้าน ร้านค้า บริษัท รถที่มีปัญหา แล้วจะรู้ว่าอำนาจครุฑมีจริง

#คาถาบูชาพญาครุฑ นะโม 3 จบ
คะรุปิจะ กิติมันตัง มะอะอุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจแล้วรวย นะได้เงิน นะได้ทอง นะได้ทรัพย์ นะได้บุญบารมี นะมั่นคง นะล้างอาถรรพ์ นะเจริญ นะรุ่งเรือง นะรุ่งโรจน์ นะเมตตา อธิฐามิ

= ลดพิเศษ 399 Baht

 

รายการที่ 145




เหรียญองค์บรมครูเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต (ครูใหญ่ของสำนักฯ) ปีพ.ศ.2553
อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ (ท่านย่าเฒ่า) จังหวัดชลบุรี

#รุ่นแรก เนื้อทองแดง ตอกโค๊ด

#พิเศษ มีรอยจารเต็มทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

#เสด็จปู่พรหมเทพจอปกาศิตท่านเป็นอริยพรหมชั้นสูงที่คอยดูแลรักษาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชื่อ " หลวงพ่อขาว "
ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดประสาท อ.รัตนชัย พระนครศรีอยุธยา
ท่านเป็นพรหมฝ่ายปราบ เช่นเดียวกับท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ
และยังเป็นอาจารย์อีกท่านหนึ่งของท่านย่าเฒ่าอีกด้วย

การจัดทำเหรียญครั้งนี้ถือเป็นเหรียญเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิตรุ่นแรก เพราะไม่เคยมีใครจัดสร้างมาก่อน
อีกทั้งยังมีเหตุการณ์แปลกประหลาดที่น่าเชื่อถือว่าองค์เสด็จปู่มีประสงค์ให้สร้างอย่างเต็มใจ

กล่าวคือ มีศิษย์ของอาจารย์ธรรมนูญคนหนึ่ง ได้ฝันไปว่าเสด็จปู่ฯ มาพบ
แล้วบอกให้สร้างเหรียญรูปเหมือนให้สักรุ่น โดยให้ทำเป็นรูปท่านในภาคของ "ฤๅษี" ดังที่เห็น ๆ กันอยู่
แต่ต้องทำเป็นเหรียญรูปไข่เท่านั้นนะ แล้วใส่ชื่อท่านว่า เสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต
ด้านหลังใส่ยันต์อะไรก็ได้แต่ให้เป็นยันต์ของสำนัก
ศิษย์คนนั้นก็เรียนแย้งท่านในฝันว่า คงทำถวายไม่ได้หรอก เพราะอาจารย์ธรรมนูญไม่ให้ใครทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า
อาจารย์เองแม้จะสร้างอะไรก็ตาม ทุกครั้งก็ต้องบวงสรวงบอกกล่าว หรือต้องมีนิมิตให้ทำ ไม่อย่างนั้นทำไม่ได้
ตัวเขาไม่กล้าไปบอกอาจารย์ธรรมนูญและไม่กล้าสร้างเองหรอก เมื่อกราบเรียนเสด็จปู่ฯ ไปดังนั้นท่านก็ไม่ว่าอะไร แล้วท่านก็จากไป

ต่อมาในวันที่สอง เขาก็ฝันเห็นท่านมาหาอีก ครั้งนี้ท่านบอกว่าให้สร้างเหรียญเป็นรูปท่านในภาคของ "พระพรหม" ดังที่เห็นกันทั่วไป
ให้ทำเป็นเหรียญรูปไข่ ใส่พระนามท่านเหมือนเดิมว่า "มหาพรหมเทพจอปกาศิต" แล้วใส่ยันต์อะไรก็ได้ของสำนัก
ครั้งนี้ศิษย์คนนั้นยิ่งตกใจใหญ่ กราบเรียนไปว่า ยิ่งทำให้ไม่ได้เลยสำหรับรูปที่เป็นพระพรหมเช่นนี้ เพราะมันขัดกันกับรูปแบบเดิม
เนื่องจากอาจารย์ธรรมนูญเคร่งครัดในรูปแบบของสำนักมาก อะไรที่อาจารย์ทองหล่อไม่ได้สั่ง ไม่ได้พาทำ อาจารย์ธรรมนูญจะไม่ทำเด็ดขาด
โต้แย้งท่านไปดังนี้ท่านก็ไม่ว่าอะไร เดินจากไปเงียบ ๆ

พอสว่างขึ้น ศิษย์คนนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ธรรมนูญสั่งให้มาพบที่สำนักมีเรื่องจะปรึกษา
เมื่อเจอกันอาจารย์ธรรมนูญยังไม่ทันได้พูดเรื่องราวอะไร ศิษย์คนนั้นก็ชิงเล่าถึงความฝันที่แปลกประหลาดดังกล่าว ซึ่งฝันถึงสองคืนติดกัน
เมื่อเล่าจบ อาจารย์นิ่งไปสักครู่ก็ยกตัวขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งพิงอยู่ พลางเอามือตบบ่าศิษย์คนนั้นเบา ๆ แล้วว่า
“เหมือนกัน...เหมือนกัน...”
เพราะแท้แล้วที่อาจารย์ธรรมนูญให้ตามศิษย์คนนี้มา ก็เพื่อจะปรึกษาถึงเรื่องการสร้างเหรียญเสด็จปู่รุ่นแรกนี้นั่นเอง
เพราะอาจารย์มีความคิดที่จะทำเป็นเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งให้เป็นเสด็จปู่ในภาคของฤๅษี อีกด้านหนึ่งให้แกะเป็นรูปเสด็จปู่ในภาคของพรหม
ซึ่งปกติเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต เป็น "พรหม" ที่ปกปักพิทักษ์พระพุทธรูปพระนาม "หลวงพ่อขาว"
สถิต ณ วิหารประจำวัดประสาท ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อขาวเป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยาผสมลาว ฝีมือช่างแบบชาวบ้าน ขนาดหน้าตักประมาณเมตรเศษ
ทาสีขาวมุกทั้งพระองค์จึงเป็นที่มาของพระนาม "หลวงพ่อขาว"

สมัยก่อนไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อขาวท่านศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุใด?
จะบนบานศาลกล่าวหรือขอเมตตาในเรื่องใดก็มักสำเร็จเป็นอัศจรรย์
สร้างความเคารพเลื่อมใสให้แก่ลูกหลานเมืองกรุงเก่าโดยเฉพาะคนแถบตลาดหัวรอยิ่งนัก
ขนาดผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไปรักษาอุโบสถศีลในวัดประสาท แต่ยามค่ำคืนหาได้สวดมนต์เจริญภาวนาแต่อย่างใดไม่
กลับเอาแต่จับกลุ่มกินหมากปากแดงล้อมวงคุยกันแต่เรื่องโลก เรื่องลูก เรื่องหลาน สารพัดจะสรรหามาคุย
จู่ ๆ ก็ปรากฏชายชราสวมชุดขาวคล้ายนักบวชหนวดเครายาวขาวเป็นปุยฝ้าย
แต่หน้าตาดูดุดันคล้ายโกรธจัด เดินดุ่ม ๆ ตรงออกมาจากหลังองค์หลวงพ่อขาว
มาถึงก็ตะลุยเข้ากลางวงแล้วเตะโครมเข้าที่เชี่ยนหมากกระจัดจาย
พลางดุด่าว่า วันอุโบสถแทนที่จะมารักษาศีลภาวนากลับเอาแต่คุยเรื่องไร้สาระ
อย่างนี้จะมาอยู่วัดไปทำไมให้หนวกหูคนอื่น…เล่นเอาวงแตก

ในขณะนั้นอ.ทองหล่อ ก็ได้ไปปฏิบัติธรรมถือศีล 8 ในวันพระที่วัดเป็นประจำก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ท่านรู้สึกเคืองตาแก่ชุดขาวคนนั้น พอเกิดความรู้สึกอย่างนั้นขึ้นท่านย่าฯ ก็มาบอกว่าให้ไปขอขมาท่านเสีย ท่านเป็นอาจารย์ของท่านย่าเฒ่าเอง
จึงได้ทราบว่าเป็น "พรหม" ที่รักษาองค์หลวงพ่อขาว และมิใช่พรหมในฝ่ายเมตตามหาลาภอย่างที่ใครๆ นึกฝันจะไปขอโน่น นั่น นี่ กันให้สนุกใจ
แต่เป็น "พรหม" ฝ่ายปราบปรามคล้ายความเชื่อของศิษย์ที่มีต่อ "ท่านท้าวมหาพรหมชินปัญชะระ"
ว่าเป็นพรหมฝ่าย "บู๊" ที่พิทักษ์พระพุทธศาสนา คอยดูแลอารักขาพระภิกษุดีและผู้ปฏิบัติธรรมทั้งปวง

เสด็จปู่ฯ ก็เช่นนั้น ถึงคราวดุท่านก็ดุเหลือใจ
ถึงคราวเมตตาสงเคราะห์ศิษย์ท่านก็ทำให้ ไม่สำเร็จไม่มีคำว่าเลิก แบบนี้เรียกว่าคนจริง

อภินิหารของ "เสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาสิต" นั้นคนรุ่นเก่าแถบตลาดหัวรอรู้กันดี
เมื่ออาจารย์ทองหล่อ พงษ์แพทย์ ได้นั่งสมาธิติดต่อกับท่านจนทราบว่าท่านสถิตย์อยู่ที่ใด? เป็นใคร?
ยิ่งภายหลังเสด็จปู่ฯ ได้รับอาจารย์ทองหล่อเข้าเป็นศิษย์และถ่ายทอดวิชาประดามีให้
ก็ยิ่งทำให้ความผูกพันใกล้ชิดของทั้งสองท่านแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เป็นที่รู้กันว่าอาจารย์ทองหล่อนั้นให้ความเคารพนับถือ และมีความรักความผูกพันในองค์เสด็จปู่ฯ มากมายราวพ่อกับลูกโดยสายเลือด
ทำให้ความรู้สึกเช่นนี้สืบต่อแบบรุ่นสู่รุ่นไปสู่ศิษย์คนอื่นๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะก้นกุฏิของอาจารย์ทองหล่ออย่าง...อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม

อาจารย์ธรรมนูญให้ความเคารพนับถือพอๆ กับความยำเกรงในองค์บรมครูท่านนี้เป็นอย่างมาก
ครั้งที่หล่อพระรูปเหมือนขององค์ท่านเมื่อหลายสิบปีก่อน ท่านก็ปรารภแบบ "ดุ" กับอาจารย์ธรรมนูญว่า
"หล่อครั้งนี้พอแล้วนะ กูไม่เอากับพวกมึงแล้ว"

ประสบการณ์ของเหรียญเสด็จปู่ฯ กับสายพระอาจารย์มั่น

มูลเหตุที่มาของเรื่องนี้เกิดจากพี่ท่านหนึ่งชื่อ คุณชัยพร ซึ่งศรัทธาในพระป่าสายกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อใดที่มีโอกาสพี่แกก็จะเดินทางไปทำบุญกับวัดแถวภาคอีสานเป็นประจำ
และวัดหนึ่งที่พี่เขาศรัทธามากและไปทำบุญอยู่ประจำ คือ วัดสังโฆญาณวิสุทธิโสภณ หรือที่รู้จักกันดีว่า วัดป่าภูสังโฆ
ซึ่งมี พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต พระอริยเจ้าผู้ซึ่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ได้การันตีถึงภูมิธรรมของท่านไว้ในคำเทศน์ของท่าน ดังนี้

....วัดป่าภูสังโฆ ถวายปัจจัยจำนวน ๓๒๗,๗๐๐ บาท พอใจ ได้เงินมาจากไหนตั้งสามแสนสี่แสน พ่อแก่อยู่นี้สักเท่าไรนานไม่เห็นได้เงินมาเป็นแสนๆ อย่างนี้วะ เก่งกว่าอาจารย์วะท่านวันชัย
เอาเก่งอย่างนี้ให้เก่งไปเถอะเราไม่ว่า ให้เก่งไป ได้เท่าไรขนมาให้ได้ บอกอย่างนั้นนะ
ท่านวันชัยอยู่ที่นั่นก็ดีสงัดดี พระจำนวนเท่าไรเวลานี้ (๒๕ องค์เจ้าค่ะ)
ของเรามากอยู่ แล้วอาหารการฉันทำอย่างไร วัดก็ไกลด้วย จัดกันอย่างไร (พอเป็นไปเจ้าค่ะ)

กรรมฐานเราต้องเขียมเกียมเสมอ เหลือเฟือไม่ได้ ภาวนาไม่ได้ท่า ต้องเขียมเสมอละ เรานี่นักเขียม เขียมมาแล้วนะ
การฝึกทรมานเจ้าของนี่มักจะอดอาหารละมากกว่าเพื่อน ภาวนาดีจนท้องเสีย ๙ ปี จะอดอาหารตลอดเลยถึง ๙ ปี
พอลงเวทีแล้วท้องก็ไม่ลงด้วย มันก็ไปของมันเรื่อยๆ จนจะตาย ได้ยาหมอเติ้งมาฉัน ระงับดับไปเลยนะ
ยาหมอเติ้งดีนะ ไม่อย่างนั้นเราตายแล้วตั้งแต่จนพรรษาที่เท่าไร กำลังจะเริ่มช่วยชาติพอดีโรคนี้ก็กำเริบหนักเข้า
พอดีได้ยาหม้อเติ้งมาฉันเลยหายตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งป่านนี้ ยาดีนะยาหม้อเติ้ง

ทางนั้นก็มีวัดภูสังโฆกับวัดผาแดง ธรรมลีอยู่ที่นั่น มีแต่พระมากๆ ทั้งนั้นละอยู่ที่นั่น
เราไม่ค่อยได้ไปไหนละเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยไปไหน ไปตามจุดที่จำเป็นๆ เท่านั้นละ
ที่จะไปเยี่ยมวัดนั้นวัดนี้ไม่ค่อยได้ไป ธุระของเรามีมากต่อมาก วันหนึ่งๆ ไม่ว่างนะ
ท่านวันชัยก็ดี มีหลักใจเรียบร้อยแล้ว ท่านพูดเรื่องจิตตภาวนาให้ฟังทุกอย่างๆ
เราก็เพียงคอยเพียงคอยแนะๆ เท่านั้น ก็ผ่านไปได้ล่ะ เรียกว่าผ่าน
ผ่านได้แล้วท่านวันชัย ผ่านโดยสมบูรณ์ ไม่มีอะไรล่ะกิเลสตัณหาตัวไหนไม่มี เรียกว่าขาดสะบั้นไปเลยละ
ครองแต่ธรรมเต็มหัวใจ ถ้าธรรมครองใจแล้วสบายมาก ถ้ากิเลสครองใจเป็นไฟไปเลย มันต่างกัน

บางส่วนจากคำเทศน์บรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๑

ซึ่งปกติพี่เขาก็ได้ไปทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำกับพระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
ร้อยวันพันปีที่ไปท่านก็ไม่เคยทักหรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของวัตถุมงคลเพราะไม่ใช่จริตของท่าน
จนมาเมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา พี่เขาก็ได้ไปทำบุญกับท่านที่วัดเช่นเคย
แต่คราวนี้ไม่เหมือนคราวไหนที่ท่านกลับสนใจในพระเครื่ององค์หนึ่งที่คุณชัยพรห้อยอยู่
ซึ่งพระเครื่ององค์นี้รุ่นน้องคนหนึ่งที่รู้จักกันได้เพิ่งให้มา แกเห็นว่าสวยดีและชอบรูปแบบจึงได้เลี่ยมห้อยติดตัวไว้
เมื่อไปถึงวัดได้ก้มกราบท่านเสร็จ ปรากฏว่าท่านพระอาจารย์วันชัยได้มองจ้องมาที่พระเครื่องที่เขาห้อยอยู่อย่างผิดสังเกต
อาจจะเป็นเพราะขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่าจะปกติก็เหลือที่จะเดา
ท่านได้เอ่ยปากถามคุณชัยพรว่า วันนี้ห้อยอะไรมา
คุณชัยพรได้กราบเรียนท่านไปว่า เป็นเหรียญเสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต ของสำนักท่านย่าเฒ่าครับ ท่านรับฟังแล้วก็นิ่งโดยดุษณี

หลายคนอาจจะคิดว่าแล้วมันมีไรน่าตื่นเต้นตรงไหน ?

ก็ต้องขอบอกให้ทราบก่อนว่า ปกติวิสัยของพระป่าสายหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านไม่ค่อยที่จะสนใจเรื่องภายนอกมากกว่าการดูจิตภายในตัว
ยิ่งพระอาจารย์วันชัยด้วยแล้ว ท่านได้รับการอบรมจากองค์ท่านหลวงตามหาบัวจนแทบจะถอดแบบการปฏิบัติของท่านมาทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นจริตนิสัยและการปฏิบัติ ยิ่งเรื่องวัตถุมงคลด้วยแล้วท่านไม่ส่งเสริม อันการที่จะมาพูดโอ้อวดเรื่องปาฏิหาริย์ยิ่งมิใช่วิสัยของท่าน
ดังนั้นความแปลกมันอยู่ที่ในวันนั้นทำไมท่านถึงได้ทักเหรียญเสด็จปู่ฯ ขึ้นมา
เพราะทุกทีที่ไปกราบท่านห้อยพระเครื่องต่างๆ ไปท่านก็ไม่เคยทัก
แต่ครั้งนี้ท่านกลับมองด้วยความสนใจอย่างพินิจพิจารณาก่อนจะเอ่ยปากถาม
ข้อคิดสันนิษฐาน (เอาเอง) จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะมีกระแสอะไรไปกระทบจิตท่านเข้า
ท่านก็เลยทักขึ้นมา แต่เนื่องจากท่านไม่อยากให้ติดในเรื่องของอิทธิปาฏิหาริย์ท่านเลยนิ่งเฉยเสีย คือไม่ส่งเสริมแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

เหตุการณ์ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น

เพราะในวันเดียวกันนั้นทางคุณชัยพรได้แวะไปกราบ หลวงปู่อุดม ญาณรโต วัดป่าสถิตธรรมวนาราม อ.พรเจริญ จ.หนองคาย
เพื่อนำล๊อกเก็ตรูปเหมือนท่านที่ทางคณะของคุณชัยพรเป็นผู้สร้างไปถวายท่าน ซึ่งท่านก็ได้ทำพิธีอธิษฐานจิตให้ในเดี๋ยวนั้น
ทางคุณชัยพรเห็นเป็นโอกาสอันดีก็เลยถอดสร้อยคอที่ห้อยเหรียญเสด็จปู่ฯ ไว้เพียงเหรียญเดียววางไว้บนกองวัตถุมงคลด้วย
ซึ่งหลวงปู่ท่านก็ได้เมตตาอัญเชิญเทวดาและเปิดโลกธาตุเสกให้พักใหญ่เลยทีเดียว
เมื่อท่านลืมตาปุ๊บท่านก็หยิบเหรียญเสด็จปู่ฯ ขึ้นมาดูด้วยความสนใจ พร้อมถามว่า เหรียญอะไร
ทางคุณชัยพรก็กราบเรียนท่านไปและก็เลยถือโอกาสขอให้ท่านเสกเหรียญให้ใหม่อีกรอบแบบว่าขอให้หลวงปู่ช่วยทำพิเศษให้หน่อย
แต่หลวงปู่บอกว่า

โอ๊ย...ไม่ต้องแล้ว ของเขาทำมาแรงดีแล้ว

ว่าแล้วหลวงปู่ก็ยกเหรียญขึ้นเหนือศีรษะท่านเลย

ผ่านไป 2 เหตุการณ์ คงจะพอเป็นเครื่องการันตีถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญนี้ได้ดีทีเดียว
แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อพี่เขาได้ไปกราบ ลป.บุญพิณ วัดผาเทพนิมิต สกลนคร
ก็ปรากฏว่าหลวงปู่ท่านก็ออกปากทักเรื่องเหรียญนี้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้นตัวพี่เขาเองก้ได้ประสบกับอภินิหารของเสด็จปู่ฯ ด้วยตนเองถึง 2 ครั้ง ในการอธิษฐานขอห้ามฝน
ซึ่งก็น่าแปลกที่ฝนกลับหยุดตกแบบฉับพลันให้ปรากฏถึง 2 ครั้ง 2 ครา
ทุกวันนี้เหรียญนั้นกลายเป็นพระเครื่องประจำใจแกไปเสียแล้ว แถมยังฝากบูชาไปให้แกอีกหลายเหรียญ

= ลดพิเศษ 899 Baht