เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 19 มีนาคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องออกจากที่พัก คือมวกเหล็กพฤกษารีสอร์ตตั้งแต่ตี ๔ เพื่อเดินทางไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตามโครงการเพิ่มทักษะ (Upskill) การสอนวิชาพระพุทธศาสนา ซึ่งมีการเริ่มสวดมนต์ไหว้พระกันตั้งแต่ตี ๕ ตรง

    ดูอาการร่างกายของตัวเองแล้ว มาลาเรียเรื้อรังทำท่าว่าจะกำเริบได้ทุกเวลา แต่ก็อาศัยกำลังใจข่มเอาไว้ ประมาณว่า "เอ็งอย่าเพิ่งโผล่มา ข้ายังต้องทำงานอยู่" ซึ่งหลายต่อหลายงานก็เช่นกัน
    เมื่อร่างกายประท้วงว่าไม่ไหวแล้ว แต่ในเมื่อใจยังไหว ร่างกายก็ต้องทนเอา โดนลากถูลู่ถูกังไปจนกว่างานนั้นจะเสร็จลงไป

    สำหรับวันนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการทำวัตรและเจริญกรรมฐานรอบเช้าแล้วก็เป็นการบิณฑบาต ซึ่งบรรดาพระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ ที่ต้องไปอยู่ประจำเป็นเดือนนั้น ได้รับคำสั่งให้นำบาตรไปด้วย เพราะว่ามีการฉันในบาตร ส่วนพวกกระผม/อาตมภาพนั้น มีแค่บางท่านเท่านั้นที่นำบาตรมา ที่เหลือจึงต้องอาศัยฉันในถาดหลุมแทน แต่ก็เป็นการดี เพราะว่าหลุมของถาดนั้นเล็กกว่าบาตรมาก ทำให้ตักอาหารนิดหน่อยก็รู้สึกว่าได้มากแล้ว เป็นต้น

    แต่ว่าสิ่งที่ทำให้อยากจะมาพูดนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เริ่มพิธีในช่วงสาย ก็คือจะมีการจัดเตรียมสถานที่ แล้วก็มีการซักซ้อมการปฏิบัติในการรับวุฒิบัตรของทั้งพระภิกษุและฆราวาส ตลอดจนกระทั่งพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ ในการที่จะสวดมนต์ฉลองกุฏิกรรมฐาน และการมอบถวายกุฏิกรรมฐานแก่ท่านเจ้าคุณอธิการบดี พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ ป.ธ.๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งกระผม/อาตมภาพขอกล่าวเป็นลำดับไปก็คือว่า

    อันดับแรกเลย บรรดาญาติโยมที่นำเอาพระพุทธรูปมา เพื่อที่จะมอบให้แก่ท่านผู้เป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิกรรมฐานนั้น องค์พระพุทธรูปหล่อมาจากเรซิ่น สิ่งแรกเลยก็คือไม่ได้ระมัดระวัง หอบมาแบบชนิดไม่เกรงอกเกรงใจ ทำให้พระพุทธรูปกระทบกันจนกระทั่งพระเกตุหักไป ๒ องค์ ต้องไปใช้กาวอีพ็อกซี่ต่อเสียใหม่
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    ประการที่สองก็คือ เมื่อจะยกจะย้ายโต๊ะเก้าอี้ที่วางพระพุทธรูปของเจ้าภาพทั้ง ๑๐ องค์นั้น หลายท่านก็จิตหยาบถึงขนาดย้ายพระพุทธรูปลงไปวางบนพื้น..! บางท่านที่จิตละเอียดหน่อยก็วางไว้บนเก้าอี้ ยิ่งเห็นกระผม/อาตมภาพก็อยากจะใช้สำนวนภาษาจีนที่ว่า "เห็นแล้วหนาวใจ" ก็คือสภาพจิตของท่านหยาบจนขนาดนี้ทั้งที่เป็นพุทธศาสนิกชน แม้แต่พ่อใหญ่ของตน คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ได้มีการแสดงออกซึ่งความเคารพตามสมควร

    แม้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ได้เรียกร้องการเคารพจากพุทธศาสนิกชนก็ตาม แต่บุคคลที่จิตใจละเอียดเพียงพอ เมื่อทราบว่าตนเองปฏิบัติธรรมแล้วได้ดีอยู่ในปัจจุบันนี้ เกิดจากการปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะให้ความเคารพในฐานะกตเวทิตาบุคคล ก็คือเมื่อผู้อื่นสร้างคุณแก่เราก่อน เราก็ควรที่จะรู้คุณและตอบแทนท่านด้วย

    ลำดับต่อไปก็คือ เมื่อเชิญท่านเจ้าภาพมาทำการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เนื่องจากว่าโต๊ะหมู่บูชานั้นเป็นโต๊ะหมู่ ๗ ขนาดเล็ก เมื่อถึงเวลาแทนที่ท่านจะคุกเข่าแล้วจุดธูปเทียนบูชาพระ ท่านก็ไปยืนค้ำหัวพระเพื่อจุดธูปเทียน แล้วเมื่อถึงเวลากราบ แทนที่จะกราบลงกับพื้นเพื่อที่จะให้ครบองค์ของเบญจางคประดิษฐ์ ท่านก็ไปกราบแปะ ๆ กับขอบโต๊ะหมู่ ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่งาม

    ท่านเองเป็นผู้มีจิตศรัทธาถึงขนาดเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิกรรมฐาน แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งว่า การกระทำของท่านนั้นยังเป็นที่ขัดหูขัดตาคนอื่นอยู่ เพราะว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นการแสดงออกซึ่งความหยาบกระด้างในจิต ไม่รู้แม้แต่ว่าควรที่จะปฏิบัติต่อพระรัตนตรัยอย่างไร..!?


    ในปัจจุบันนี้มีมากต่อมากด้วยกัน โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ไม่รู้กาลเทศะ เข้าวัดแล้วก็ยังแต่งตัวตามสบายเหมือนอยู่กับบ้าน บรรดาผู้ชายผู้หญิงสมัยนี้ที่ไปวัด หลายต่อหลายคนนุ่งสั้นตามใจตนเอง ผู้ชายก็นุ่งกางเกงขาสั้น บอกว่าสบายดี ทำอะไรคล่องตัว ผู้หญิงบางคนก็นุ่งกางเกงขาสั้น รัดติ้วจนกระทั่งเห็นอะไรต่อมิอะไรเด่นไปหมด บางท่านก็นุ่งกระโปรง แต่ว่าเป็นกระโปรงที่นั่งลงก็เปิดแก้มกันขึ้นมาเลย โดยที่ท่านทั้งหลายไม่รู้สึกเลยว่าตนเองกำลังอยู่ในวัด อยู่ในสถานที่พึงแสดงออกด้วยความเคารพ จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    หลายท่านก็แต่งตัวมาแบบผู้ที่มีจิตใจเปิดเผยเป็นอย่างยิ่ง..! มีอะไรที่สมควรเปิดเผยก็เปิดเผย คงจะเห็นว่าพระภิกษุสามเณรไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้บ่อยนัก ท่านก็เลยแต่งตัวเข้าไปในลักษณะ "ช่วยทำบุญ" ให้พระเณรได้เห็นของที่เห็นได้ยากบ้าง..!

    บางท่านก็แต่งตัวมาในลักษณะที่กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะว่าสิ่งที่ท่านใส่อยู่นั้นเหมือนอย่างกับเอาผ้าผืนเดียวมาผูกรัดไปข้างหลัง ส่วนทางด้านบนก็แค่อ้อมไปคล้องคอเท่านั้น แล้วก็อยู่ในลักษณะที่ไม่ได้ใส่ "เปลนม" อย่างสำนวนของรงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) นั่นอีกต่างหาก สมัยนี้เขาเรียกกันว่า "โนบรา" แม่เจ้าประคุณใส่เพียงแค่นั้น แถมกางเกงขาสั้นรัดติ้ว ก็ยังอุตส่าห์เดินอย่างสบายอกสบายใจอยู่ในวัด ไม่ได้กลัวหมาจะไล่ฟัดเลยแม้แต่น้อย..!

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าห่วงใย บางวัดถึงขนาดต้องติดป้ายห้ามเอาไว้เลย แต่
    กระผม/อาตมภาพคาดว่าห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้อ้างว่าจะต้องไปงานอื่นต่อ แต่กระผม/อาตมภาพก็เห็นหลายท่านที่ต้องไปงานอื่นต่อ ท่านก็ใส่เสื้อของผู้ปฏิบัติธรรมตัวหลวม ๆ แล้วก็ใส่กางเกงขายาว แบบที่เรียกว่า "กางเกงเล" ทับนอกมา เมื่อถึงเวลาจะไปงานอื่นต่อ ก็แค่ถอดกางเกงและเสื้อปฏิบัติธรรมเก็บเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ไม่ทำ

    เมื่อเสร็จพิธีการสวดมนต์ฉลอง ตลอดจนกระทั่งอนุโมทนาแก่บรรดาท่านเจ้าภาพกุฏิแล้ว พระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อธิการบดีก็ได้นำพาพวกเรา ตลอดจนกระทั่งผู้เข้าอบรมคณะธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ เดินทางไปเพื่อทำพิธีเจิมกุฏิกรรมฐานให้แก่ท่านเจ้าภาพทั้งหลาย แล้วหลังจากนั้นก็ยังพาพวกเราไปวางศิลาฤกษ์ ยกเสาเอกเสาโทกุฏิกรรมฐานอีก ๑๓ หลังที่มีเจ้าภาพแล้ว

    กระผม/อาตมภาพขณะที่กำลังเดินตามคณะธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๒๙ อยู่ ก็มีบุคคลเข้ามาสะกิดสะเกาฝ่ามือที่เก็บเรียบร้อยเอาไว้ด้านหลัง ในลักษณะเดินจงกรม หันกลับมาก็เจอท่านเจ้าคุณวัลลภ - พระศรีธรรมภาณี, ดร. (วัลลภ โกวิโล ป.ธ.๘) ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันมานาน เพราะว่าท่านเป็นนักเทศน์ นักปาฐกถา อีกท่านหนึ่งก็คือท่านอาจารย์พระมหาเมธา ที่รู้จักกันเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ปัจจุบันท่านก็คือพระครูภาวนาสารบัณฑิต, ดร. (เมธา จนฺทสาโร ป.ธ.๔)
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    เมื่อทักทายกันด้วยความดีใจแล้ว ท่านอาจารย์พระมหาเมธาก็ยังบ่นว่า "ไม่ทราบว่าหลวงพ่อเล็กทำได้อย่างไร ? งานยุ่งยากขนาดนี้ ยังอุตส่าห์ปลีกตัวมาได้ แม้กระทั่งรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมทุกวันอาทิตย์ ผมเองเป็นเจ้าของรายการแท้ ๆ ยังต้องมีขาดอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ว่าเข้าไปเมื่อไร ก็เห็นชื่อพระครูวิลาศกาญจนธรรมปรากฏหราอยู่พร้อมกับใบหน้าแล้วทุกครั้ง"

    กระผมเองก็ได้แต่ชี้ให้ดูพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อธิการบดี เจ้านายของเราที่เดินตัวปลิวอยู่ข้างหน้า เพราะว่าท่านผอมมาก ชี้ให้ดูว่า อันดับแรกเลย ถ้าหากว่าใจรักก็ทำได้ อันดับที่สอง ก็ต้องเลียนแบบท่านเจ้าคุณอธิการบดี ก็คืออยู่กันด้วยกรรมฐาน ท่านเจ้าคุณอธิการบดีขยันสวดมนต์ทำวัตร เจริญกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง รายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมทุกวันอาทิตย์ช่วงเช้า ท่านเหมายาวโดยที่ไม่แบ่งปันให้ใครเลย เท่ากับว่าท่านขัดเกลาฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา

    ดังนั้น..ไม่ว่าในภาระหน้าที่ของท่านที่เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ดี เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญก็ดี เป็นผู้ช่วยแม่กองบาลีสนามหลวงก็ดี ตลอดจนกระทั่งเป็นรองเจ้าคณะภาคก็ตาม ท่านก็สามารถที่ทำได้อย่างเต็มที่ เพราะว่ากำลังใจที่มั่นคง ทำให้สามารถที่จะกระทำกิจการงานทุกอย่างได้โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งตรงส่วนนี้กระผม/อาตมภาพนั้นก็แค่เดินตามรอยครูบาอาจารย์เท่านั้นเอง

    เมื่อวางเสาเอกเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่กลับมาฉันเพลเสร็จ ก็มีการซักซ้อมการรับวุฒิบัตร เมื่อรับวุฒิบัตรและถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้ว
    กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกลาทุกท่านและแยกย้ายกันไป โอกาสหน้าถึงจะได้พบกันใหม่

    กระผม/อาตมภาพเองระหว่างที่เดินทางกลับก็สอบถามไอ้ตัวเล็ก ปรากฏว่าวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เอาไปลงนั้น ส่วนใหญ่มีผู้มีบุญได้บูชาไปแล้ว ไอ้ตัวเล็กแจ้งว่าเหลือเพียงมีดหมอรุ่นแรกของหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ยังไม่มีใครบูชา กระผม/อาตมภาพยินดีเป็นอย่างมาก
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +26,399
    มีดหมอรุ่นแรก ๆ ของหลวงพ่อบุญมีนั้นหาได้ยากมาก เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นต้องค่อย ๆ ทำมือทีละเล่ม จนกระทั่งท่านมีชื่อเสียงเกียรติคุณใหญ่โตขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะว่ามีคนเอามีดหมอท่านไปทดลองยิง แล้วปืนแตกใส่มือได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเลื่องลือกันไป ถึงได้มาขอบูชามีดหมอจากท่านกันมาก จนต้องสั่งโรงงานผลิตออกมาให้เพียงพอกับความต้องการของญาติโยม

    ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงงานผลิตก็ตาม แต่ก็ยังมีการตอกลายด้วยมือทีละเล่ม ซึ่งต้องขอชมเชยว่า ช่างที่ตอกลายมีดหมอให้หลวงพ่อบุญมีนั้น มีจิตที่ละเอียดและสมาธิดีมาก เพราะว่าลายทุกลายล้วนแล้วแต่สม่ำเสมอ แสดงออกซึ่งความมั่นคงของกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง

    ขณะเดียวกันก็ยังมีการถักเชือกเพื่อที่จะแสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นมีดหมอที่ออกจากวัดเขาสมอคอนจริง ๆ ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าในระยะเวลาที่คนต้องการมากบางทีก็ถักไม่ทัน แต่ถ้าท่านสงสัยว่าทำไมมีเชือกแดงเล็ก ๆ ในมีดหมอรุ่นที่ผลิตออกจากโรงงาน ก็ขอให้ทราบว่านั่นเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่แสดงออกว่า มีดหมอเล่มนี้มาจากวัดเขาสมอคอน

    ในขณะเดียวกัน มีดหมอจากโรงงานทุกเล่มนั้น จะมีการปิดทองมาจากวัด แม้ว่าทองนั้นจะลอกจนหมด แต่ถ้าหากว่าส่องกล้องดู จะเห็นว่ามีรอยปิดทองเหลืออยู่ เป็นในลักษณะด่างของโลหะตรงจุดนั้น จึงทำให้บรรดาผู้ที่เสาะหามีดหมอของหลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน ใช้เป็นจุดพินิจพิจารณามีดหมอที่ใช้งานมาอย่างโชกโชน ว่าใช่ของแท้หรือไม่แท้ได้อีกจุดหนึ่ง

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพเมื่อกลับถึงที่พักแล้ว ก็คงต้องรีบเสาะหาวัตถุมงคลชุดใหม่ เพื่อที่ให้ไอ้ตัวเล็กนำลงกระทู้กันต่อไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...