เรื่องเด่น การรักษาศีลให้ละเอียดส่งผลให้สมาธิยิ่งทรงตัว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 11 พฤศจิกายน 2021.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    ?temp_hash=bad4e6b9ab043a4dd679c1a5b0456afa.jpg



    ถาม: ตอนเด็กๆ สวดมนต์เสร็จแล้วมานั่งดู เราอยากทำให้ถูกไม่รู้จะทำทางไหนดี ?

    ตอบ: อันดับแรก รักษาศีล ๕ ข้อให้ครบถ้วนสมบูรณ์เลยจ้ะ ถ้ารักษาด้วยตัวเองได้ก็อย่ายุให้คนอื่นละเมิดศีล..รักษาด้วยตัวเองได้ แล้วไม่ยุคนอื่นทำได้แล้ว เห็นคนอื่นละเมิดศีลก็อย่าไปยินดีด้วย

    ถาม: เห็นคนอื่นก็อย่าไปยินดีด้วยหรือคะ ?

    ตอบ: ประเภทที่เรียกว่าเราเองไม่ฉีดยาฆ่ามดแล้ว ไม่บอกให้คนอื่นฉีดแล้ว แต่พอเขาคว้ายามาฉีด แหม..น่าจะทำตั้งนานแล้ว แบบนี้มีส่วนด้วยจ้ะ

    พยายามรักษาศีลให้ละเอียด ต่อไปศีลจะทรงตัว ถ้าหากศีลทรงตัว เราปฏิบัติภาวนาอยู่ สมาธิก็จะตั้งมั่นได้ง่าย สมาธิตั้งมั่นได้ง่าย ปัญญาก็จะเกิด ปัญญาเกิดจะมีสติที่จะไปควบคุมศีลให้ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป ศีลยิ่งละเอียด สมาธิยิ่งทรงตัว สมาธิยิ่งทรงตัว ปัญญาก็ยิ่งเกิด จะวนเป็นงูกินหางไปแบบนี้ มีแต่ความเจริญก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕



    ที่มา : www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3216




    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    การจะรักษาศีลให้มั่นเพื่อเข้าถึงคุณพระรัตนตรัยต้องมีสัจจะเป็นรากฐาน
    “มีศีลแล้วจะไม่ล่วงศีลโดยการทุศีล ต้องรักษาโดยความไม่ประมาทหมดจด ไม่ลักลั่นสับสนด้วยจิตเมตตา ไม่ฆ่าสัจจะของตนโดยความไม่ประมาทหมดจด ไม่ลักลั่นสับสนด้วยจิตแผ่เมตตา ไม่ฆ่าสัจจะของตนด้วยความมั่นคงไม่ท้อถอย”
    ถ้ามีศรัทธาบารมีอันแก่กล้าโดยสัจจะจะเจตนาวิรัติให้เด็ดขาด อาจเข้าถึงพุทธธรรมที่แท้ได้โดยง่าย
    ถ้าสำรวม กาย วาจา ใจ ได้ก็ย่อมขัดเกลาความโลภ ความโกรธ ความหลงได้ และถ้าทำความดีให้เต็มรอบ ละโลภ โกรธ หลง ให้เด็ดขาดได้เมื่อไหร่ก็จะเป็นไทแก่ตัวเมื่อนั้น

    พุทโธ อรหัง อรหัง พุทโธ ฯ

    บารมี พระคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

    ?temp_hash=8ca47593b0779c9be94f2bed967694ba.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ถาม : ถ้าเกิดถือศีลแปดแล้วข้อ ๖, ๗, ๘ นี่พร่องเล็กน้อย กับถือศีลห้าแล้วสมบูรณ์อย่างนี้ อันไหนกำไรกว่ากัน ?
    ตอบ : ศีลแปดกำไรกว่า เพราะบกพร่องเล็กน้อยก็จริง แต่ส่วนดีมีมากกว่า ศีลแปดคุมศีลห้าอยู่แล้ว มากกว่าอยู่แล้ว จริง ๆ แล้วศีลแปดมีเก้าข้อ นัจจะคีตะวาฯ กับมาลาคันธะฯ สองข้อนี้เขารวบเป็นข้อเดียวกัน ค่อย ๆ ทำไป เดี๋ยวเกิดความเคยชินก็จะทรงตัวไปได้เอง
    ถาม : ตรงข้อแปดนะคะ อุจจาสะยะนะฯ เวลาที่เรานอน นอนเป็นที่นอนนุ่ม ถ้าอย่างเราปวดหลังละคะ เรานอนกับพื้นธรรมดาแล้วเราปวดหลัง ?
    ตอบ : นอนไปเถอะ หนาสักคืบหนึ่งก็ได้ ที่นอนสูงที่นอนใหญ่ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี เขาหมายความตามอรรถกถาท่านบอกว่าคืบหนึ่ง คืบหนึ่งสมัยก่อนคือ ๑๒ นิ้ว เป็นฟุตเลย จริง ๆ แล้วที่ท่านห้าม เพราะท่านกลัวว่าจะติดสัมผัส คือว่าถึงเวลาแล้วจะติดเย็นติดร้อน อ่อนแข็ง ไม่ได้ไม่มีก็ดิ้นรนต้องให้ได้มา จิตใจก็จะไปฟุ้งซ่านถึงตรงจุดนั้น ถ้าไม่ติด..เรารู้ว่าร่างกายของเราเจ็บป่วยอยู่ ไม่ใช่ข้ออ้างที่เราอ้างขึ้นมาเพื่อที่จะติดสุขตรงนั้น ก็นอนไปเถอะ
    ถาม : อย่างนั้นเราก็สามารถอย่างเช่นว่า สมาทานศีลแปดตั้งแต่เช้าถึงเย็น แล้วเย็นเป็นคนที่ต้องกินข้าวทุกมื้อ แล้วก็ต้องกินข้าวเย็น ก็คือลาแล้วก็กินข้าวได้ ?
    ตอบ : อ๋อ..ไม่ต้องลาหรอก อนุญาตให้กินได้เลย รักษาเป็นเวลายังดีกว่าไม่รักษาเลย
    ถาม : แล้วก็สมาทานศีล ?
    ตอบ : สมัยก่อนบวชอาตมาเคยเป็นอย่างนี้อยู่ช่วงหนึ่ง คือมาไล่ไปไล่มา เอ๊ะ..ของเรานี่ศีลแปดชัด ๆ เลย เพียงแต่เสียเวลาไปกินข้าวเย็นอยู่สิบนาทีแค่นั้นเอง เลยตัดสินใจไม่กินตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ก็เป็นอันว่าจบ แม้แต่ประเภทที่ว่าวินาที สองวินาทีก็ได้ เพราะว่าอานุภาพของศีลแปดสูงกว่าศีลห้ามาก อานิสงส์มากกว่า รักษาขนาดนั้นของเรานี่ ถ้ายังไม่ละอาหารเย็น เท่ากับว่าเราขาดแค่ครู่เดียวในแต่ละวัน
    ถาม : ไม่ต้องลาใช่ไหมคะ ?
    ตอบ : ไม่ต้องลาหรอก ถึงเวลาก็ขออนุญาตกินครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่ต้องสมาทานใหม่หรอก เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างไรก็งดเว้นต่อไป แต่ถ้าจะเอาจริงเอาจังก็ต้องเว้นให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเล่นสนุก นึกจะกินข้าวเย็นก็ลามากิน จะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัย..!
    ตัวโทษของการกินอาหารเย็น จะลำบากอยู่อย่างหนึ่ง คือว่าพอถึงเวลาแล้ว เลือดทั้งหมดจะวิ่งลงไปที่กระเพาะ เพื่อไปย่อยอาหาร โบราณท่านให้ใช้คำว่าไฟธาตุ พร้อมที่จะสันดาปเพื่อเผาผลาญอาหาร
    ตอนที่เลือดวิ่งลงไปที่กระเพาะ สมองจะมึนเพราะเลือดเลี้ยงอยู่น้อย จะหลับท่าเดียว ทำให้การภาวนาทุกอย่างไม่ได้อย่างที่เราต้องการ เพราะว่าร่างกายอยู่ในสภาพที่หนักไปด้วยอาหาร ในเมื่อหนักไปด้วยอาหาร การภาวนาก็ไม่คล่องตัว เลือดลมไม่ปลอดโปร่ง จะทำให้เสียผลตรงนี้ แต่ว่าคนทั่ว ๆ ไปถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะงดเว้นได้จริง ๆ ตั้งใจรักษาศีลห้าก็ไปพระนิพพานได้
    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
     

แชร์หน้านี้

Loading...