นิทาน เรื่อง "พญานาค"

บรรยากาศยิ่งน่ากลัวกว่าข้างนอก พอเดินก้าวเข้าไปในถ้ำมีเสียงดังเหมือนฟ้าจะถล่มลงมา หนึ่งในสี่ที่ไปด้วยกันนั้น ตกใจ รีบวิ่งหนีกลับไป แล้วออกจากป่าแห่งนั้นไปครับ ทำให้เหลือแค่สามคนเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าพิศวงครับ

 

ท่านเป็นหัวหน้าเลยรีบทำพิธีบวงสรวงด้วยสิ่งของที่นำมา เช่น กล้วย ผลไม้ น้ำและอื่นๆ ในขณะที่ว่าพระคาถาอยู่นั้น อยู่ดีๆ สิ่งของที่นำมาบวงสรวงก็กระจัดกระจายไปทั่ว คนที่พากันมา ท่านเล่าว่า ซักใจคอไม่ดีครับ เลยปรึกษากันว่า จะเดินหน้าต่อหรือว่าจะกลับไปครับ เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ท่าทางจะไม่ดีครับ ท่านเป็นหัวหน้าท่านเลยสื่อสารกับฤษี ได้ว่า--

 

ตั้งใจฟังอยู่เจ้าค่ะ...
น่าจะให้จันทร์เทวีไปด้วย สงสัย---จะเลิกชอบเรื่องลึกลับครับ(เล่าต่อวันหลังดีไหม)

 

เช้านี้ไปสถานที่นี้มา เอารูปมาฝากท่านประธานค่ะ

 

ไปไหนล่ะเจ้าคะ... เล่าต่อเลยสิคะ เหตุใดจู่ๆจะเลิกเล่าเสียอย่างนั้น

กำลังจะรู้แล้วเชียวว่า น้าชายท่านประธาน ไปเอาอะไรในถ้ำ

ต่อเลยหนออออ อิอิ

******************************

เล่าต่อวันหลังดีไหม ... แล้วหายไปเลยเหรอเจ้าคะ pig_cryy

 

ชื่อเพราะเชียวค่ะ ท่าทางจะงามมิใช่น้อย

 

สิ่งของที่เจ้าอยากได้เราจะช่วย พอสื่อสารได้อย่างนั้น ก็ทำพิธีต่อครับ คือการเอาผ้าขาวมากางออก แล้วนำน้ำผึ้งนั้นมาล่อหินย้อยสีดำ พร้อมว่าพระคาถาให้สิ่งของนั้นมากินน้ำผึ้งที่เตรียมมา ท่านเล่าว่า หินนั้นก็ย้อยยืดยาวมากินน้ำผึ้งท่ามกลางระทึกใจว่า ไม้ไผ่อาคมที่เตรียมมาจะตัดขาดได้หรือไม่ครับ
พอน้ำผึ้งใกล้จะหมดท่านเลยกลั้นใจตัดหินย้อยนั้น ปรากฏว่า--

 

อย่าบอกนะเจ้าคะว่าเป็น .... rabbit_run_away

 

แต่ละคนนั้นกระเด็นไปคนละทางครับ ท่านบอกว่าเหมือนถูกใครถีบอย่างแรง แต่ในผ้าขาวที่ลงอาคมที่เตรียมมานั้น มีหินสีดำนั้น หล่นมาเท่าปลายนิ้วก้อยครับ และมีเสียงดังปานฟ้าผ่า เหมือนผนังถ้ำนั้นจะถล่มลงมาทับทุกคน ท่านเลยรีบลุกขึ้นมาให้ฤษีนั้นช่วยอีก เสียงนั้นก็ค่อยๆหายไป พร้อมกับความมืดที่ย่างกรายเข้ามาครับ ท่านและเพื่อนของท่านรีบนำสิ่งของนั้นออกมาจากถ้ำ ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนเหมือนเสียงคนที่ได้รับความเจ็บปวด ทุกคนไม่พูดไม่จา รีบลงมาจากป่าแต่ก้ไปได้ไม่ไกลนั้น มีงูขนาดใหญ่ นอนขวางทางเดินอยู่ และมีงูเห่าอยู่ใกล้ๆ งูขนาดใหญ่นั้น ท่านบอกว่า จะกลับไปที่ถ้ำก็ไม่ได้ ครั้นจะไปต่อก็ต้องเดินผ่านงูสองตัวนี้

 

เขาคงจะเจ็บมากเลยนะคะ ... rabbit_cry ....

ตื่นเต้นดีจัง ... คล้ายๆหนังช่อง 7 เรื่องปู่โสม เฝ้าทรัพย์เลยนะเจ้าคะ เล่าต่อเลยเจ้าค่ะ

 

ท่านคุรุ อย่าค่ะ
เล่าต่อนะค่ะ

ตั้งใจอ่านมากๆ อิอิ
รอหนอๆ

 

ก่อนมาท่านเตรียมของชิ้นหนึ่งนั้นมาด้วย ท่านบอกว่า วิชานี้ไม่จำเป็นจะไม่ใช้เพราะกลัวเข้าตัวเองครับ ท่านนำหญ้าข้างทางมาผูกเป็นหุ่น แล้วว่าพระคาถาให้หุ่นนั้น ไปสู้กับงูทั้งสองตัวนั้น ปรากฏว่า งูนั้นชนะ ท่านเลยเข้าทรงเชิญฤษีมาเข้าทรงเพื่อเปิดทางกลับบ้าน ท่านเล่าว่าตอนนั้นไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น รู้ตอนหลังจากเพื่อนที่ไปด้วยกันว่า ฤษีนั้น ใช้ไม้นั้นตีงู แล้วงูก็เลื้อยหนีจากไป
ท่านเลยพากันกลับมายังรถยนต์ แต่พอสตาร์ทรถยนต์ รถก็ไม่สามารถติดเครื่องได้ ขณะนั้นในหน้าหนาว ฝนกลับตกลงมา เรียกว่า อุปสรรคมากมีครับ
แต่อย่างว่าฤษีก็ช่วยอีก พอเข้าทรงอีกรถก็ติดเครื่องได้ พากันกลับมาถึงบ้านพร้อมกับสิ่งของชิ้นหนึ่ง ตอนที่คุรุวาโรนั้นจับดูมีลักษณะสีดำออกเขียวลักษณะอ่อนนุ่มครับ ท่านนำน้ำผึ้งนั้นมาไว้ใกล้ๆ สิ่งของนั้น สามารถลอยไปลงในแก้วที่น้ำผึ้งนั้นได้ครับ ตอนจับดูเหมือนมีกระแสไฟไหลออกมาจากสิ่งของนั้นครับ
แต่หลังจากได้สิ่งของนั้นมา ชีวิตของท่านก็ไม่ดีขึ้นมีแต่แย่ลงครับ คุรุวาโรเคยถามเทวดาว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เทวดาตอบว่า สิ่งของนั้นเขามีฤทธิ์ในตัวเองไม่ชอบอยู่ใต้อำนาจของใคร อาจจะทำคนที่ครอบครองนั้นไม่ได้ แต่ทำบริวารต่างๆนั้นได้ครับ วันต่อมาหลังจากได้มามีการลองของท่านเล่าว่า ท่านให้เพื่อด้วยกันนั้นใช้มีดดาบฟันไปที่หลังของท่าน ปรากฏว่า มันไม่เข้าครับ แต่เป็นรอยเพราะฟันอย่างแรง ครับ ทุกวันนี้สิ่งของนั้นก็ยังอยู่ครับ

 

สิ่งนั้น ถ้าจะขอเดา... ได้หรือเปล่าคะ ... จะสมควรไหม

ไม่กล้าพูดออกไปก่อน เดี๋ยวไม่สมควร จะยุ่งอีกเจ้าค่ะ

 

เหตุใด ถึงเงียบกริ๊บกันไปอีกแล้วล่ะค่าาาาา

catt7 มา ม๊ะ... มาเล่านิทานกันอีกดีกว่า เอิง เอยยยย รอฟังหนอ

 

เค้ายังอยู่ นะค่ะ คุณฟ้า ^^

 

คิดว่าหายกันไปหมดเสียแล้วค่ะคุณหวานใจ .... เงียบเชียบเอามากๆเลย จู่ๆก็เงียบไป เลยแปลกใจจ้ะ อิอิ

 

สมัยหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบนางมัลลิกา ผู้ถูลถามปัญหาแก่พระองค์ เรื่องสตรีมักโกรธ ทรงตอบปัญหาแก่นางว่า

๑. มาตุคาม (ผู้หญิง) ผู้มักโกรธ ไม่ให้ทาน มีใจริษยา จะเป็นผู้มีรูปทราม ตกยาก มีศักดิ์สกุลต่ำ

๒. มาตุคาม (ผู้หญิง) ผู้มักโกรธ แต่ชอบให้ทาน ไม่มีจิตริษยา จะเป็นหญิงรูปทราม แต่มั่งคั่งมีสกุลสูง

๓. มาตุคาม (ผู้หญิง) ผู้ไม่มักโกรธ แต่ไม่ให้ทาน มีใจริษยา จะเป็นหญิงรูปงาม และยากจน มีศักดิ์สกุลต่ำ

๔. มาตุคาม (ผู้หญิง) ผู้ไม่มักโกรธ ชอบให้ทาน ไม่มีจิตริษยา จะเป็นหญิงรูปงาม ทั้งมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีศักดิ์สกุลสูง

******************************

เข้ามาให้อ่าน ทำลายความเงียบสักนิดค่ะ

 

อ่านแล้ว น่ารักดีค่ะ...

 

แล้ว "โกรธมาก" กับ "โกรธน้อย"...มันต่างกันยังไงเหรอจ๊ะ...น้องฟ้ามุ่ย อิอิ

 

โกรธมาก ก็ น่าจะโกรธจนหน้าดำ หน้าแดง มือไม้สั่นอย่างที่เขาว่ากันมั้งคะพี่มิ๊ก (แบบนี้)

ส่วนถ้าโกรธน้อย ก็น่าจะที่เรียกกันว่า ไม่พอใจ จ้ะ...

ส่วนโกรธง่าย หายเร็ว นี่ไม่ทราบได้จ้า 5555+