เรื่องเล่า...คราวเมื่อไป ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ( ๒๒ - ๒๓ ส.ค.) ได้ไปกราบนมัสการพระธาตุลำปางหลวง..และเดินเวียนขวา ๓ รอบ หลังจากนั้น ได้ไปพิพิธภัณฑ์ชมของโบราณ..เราก็เดินชมไปเรื่อย ๆ พอไปเห็นรูปพระนางจามเทวี..ก็มีอาการผะอืดผะอมทันที ก็เลยรีบเดินหนีทันที ไปดูดาบดีกว่า ....แต่คนที่ไปด้วยเค้าเห็น(อุตส่าห์หลบนะเนี่ยะ) ..เค้าก็เลยถ่ายภาพไว้ให้ แล้วหาว่าเราจะเป็นลม..ลมตีย้อนขึ้น ..ฮึฮึ.. (ป.ล. รูปภาพขอนำเสนอภาคค่ำนะจ๊ะ..)
จ้ะ...ใช้โน้ตบุ๊คแล้ว และตอนนี้ก็กะลังจะไปวัดแจ้ง...ซักเล็กน้อย จ้า.. พบกันใหม่..ภาคค่ำนะจ๊ะ..จะโชว์รูปของโบราณ..อิอิ แล้วน้องฟ้ามุ่ย รู้จักน้องมณีเนตรหรือยังจ๊ะ..
วัดนั้นเมืองรู้จักดีค่ะ ไม่ใช่ท่านภุชงค์ค่ะ นั่นคือวัดถ้ำเพชรนาคา ลพบุรีค่ะ รูปปั้นนั้นคือ พ่อเพชรนาคราชค่ะผู้ครองนครในภพนาค ส่วนในภพมนุษย์คือหลวงพ่อไพบูลย์ค่ะ ถ้ามีคนเข้าใจเป็นอื่นไม่เป็นไรค่ะ เมืองแค่มาแจ้งให้ทราบ
ขอโทษบางคราวที่ต้องเหินห่าง แหละมีบางครั้งที่ต้องขัดใจ บางสิ่งที่ขอมากไป....เจ้าที่หัวใจ...เค้าหวงแหน "ก็อยากดูแลให้มากกว่านี้เหลือเกิน แต่กลัวจะเพลินจนเผลอทำเกินหน้าที่..."
ยอมอยู่ข้างใจ...แต่ไม่ขอเป็นสำรอง ขออย่าได้มอง...ความซื่อแล้วแปลว่าง่าย เมื่อเราเจอกันข้างพรหมลิขิต...ก็อย่าใกล้ชิดมากเกินห้ามใจ ต้องเจียมตัวว่าเราคือใคร...แค่แอบรู้ใจ ไม่ใช่แฟน ป.ล. วันนี้ตั้งใจว่าจะไม่เข้ามาแล้วนา...แต่ก็อดไม่ได้..จั๊กน้อย เมื่อคืนทำสมาธิได้ดีมากค่ะ วันนี้ก็เลยไม่อยากรับอะไรที่ไม่ดีๆ ได้รับรางวัลจากครายก็ไม่รู้ เห็นท่านท้าววิรูปักษ์ในสมาธิ สีทองอร่าม ใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจนะ เพราะเห็นแค่ท่อนกลางใส่ชุดสีทอง แต่จำได้เหมือนองค์ที่อยู่วัดท่าซุงค่ะ แต่เพียงแ่ค่แว๊บเดียว พอใกล้รุ่งก็มีงูใหญ่สีดำเมื่อมมานอนข้างๆ กายด้านซ้าย ก็เลยคิดว่าวันนี้จะตั้้งใจใหม่ ให้มากกว่าเมื่อวานค่ะ
สำหรับน้องๆ ที่สนใจใคร่รู้เรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว ก็คงไม่ว่ากันน้า..าาา ไม่รู้แล้วทุกข์ จริงเหรอ...ไอ้ที่ว่าทุกข์ๆๆๆ น่ะ ทุกข์นี้เกิดจากอารายยย เห็นแต่ละคนก็ตั้งใจศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมกันถ้วนหน้า แต่ก็ยังทุกข์ แสดงว่าธรรมนั้น ไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงอ่ะจิ...รู้แล้วก็ทุกข์ ไม่รู้ก็ทุกข์ จะเอายังไงกันแน่...???จ๊ะ... หาคำตอบนี้ให้กับตัวเองได้หรือเปล่า??
กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง เหมือนมีอะไรที่ดึง ไม่ให้เราเลือกทางใด รักคนมีเจ้าของ ต้องทนเก็บมันในใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร..... และชีวิตจะเดินต่อไปทางไหนดี! อ้ากกกก เพราะนางคนเดียว!!.....
เจ้าแมวเหมียว ถูกพิษรักของแมวตัวไหน หนอ ระวัง ตาแมว จะเปลี่ยนเป็น แมวตาเพชร นะครับ ยิ่งเขาบอกว่า มีคนคอบ--ข้างละ 50 ล้านบาท
เรื่องเจ้าที่ค่ะ พอดีมีน้องสงสัย ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าที่ก่อนนะคะ เจ้าที่ก็คือผู้ที่เป็นใหญ่ในสถานที่แห่งนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเทวดา ทีนี้เทวดาก็มีอีกหลายระดับ จะขอข้ามไปนะคะ ดังนั้น แน่นอนที่เจ้าที่จะต้องมีบริวารค่ะ และบริวารของเจ้าที่ส่วนใหญ่ก็คือพวกสัมภเวสีทั้งหลาย วิญญาณเร่ร่อนทั้งหลาย เวลาที่เราจัดของสำหรับถวายเจ้าที่ จึงต้องคำนึงถึงบริวารของท่านด้วย เหตุแห่งอุปสรรคส่วนใหญ่จะเกิดจากบริวารนี่แหละ ถ้าเจ้าที่ๆ นั้นๆ มีบริวารเยอะ หมายถึงเจ้าที่ๆ นั่นมีบารมีมากค่ะ ของที่ใช้สำหรับไหว้เจ้าที่หลักๆ เจ้าที่นะคะ ไม่ใช่ผีบ้านผีเรือนนะ เน้น-ครั้งแรกต้องชุดใหญ่ค่ะ 1. ของคาว - กุ้งพล่า ปลายำ หัวหมูหรือหมูรองตอง ไก่ เป็ด อย่างละคู่ 2. ของหวาน- ขนมหวานที่มีชื่อเป็นมงคลทั้งหลาย 9 ที่ เพื่อความก้าวหน้า เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ถ้วยฟู ขนมชั้นฯ ขาดไม่ได้เลย คือ ต้มขาว-ต้มแดง 3. ผลไม้ - เน้นที่เป็นมงคลและมีความหมาย ได้แก่ ส้มทุกชนิด หมายถึง บริวารค่ะ องุ่นเขียว ม่วง หมายถึง บารมี, สัปรด-มีหูตามากมาย กล้วยหอมทอง กล้วยน้ำว้า หมายถึง คิดทำสิ่งใดจะสำเร็จได้มาโดยง่าย หรือที่เรียกว่า "ได้มากล้วยๆ"ฯ สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ มะพร้าวอ่อน 1 คู่ 4. น้ำหวาน น้ำเปล่า และเหล้าค่ะ ของคาว ของหวาน ใส่ภาชนะที่รองด้วยใบตองค่ะ แล้วจึงนำไปวางบนผ้าขาวอีกที จุดเทียนคู่ จุดธูป 9 หรือ 12 ดอก ตั้งนะโมฯ 3 จบ กล่าวคำถวาย... สำหรับพี่จะใช้คำว่า "ยะธิทัง วัตตะเมธานัง อาสวะขะยาวะหังโหนตุ" เมื่อธูปหมดแล้ว ให้ลาของทั้งหมด แบ่งส่วนหนึ่งใส่กระทงที่ทำจากใบตอง หรือวางลงบนใบตองที่เตรียมไว้ แล้ววางไว้บริเวณที่ๆ ทำการไหว้ เหล้าให้เทลงบริเวณนั้นทั้งหมด ส่วนนี้ให้บริวารเจ้าที่ค่ะ ของที่ไหว้เสร็จแล้ว นำไปรับประทานต่อหรือจะให้เพื่อนบ้านหรือบริวารเรานำไปรับประทานก็ได้ค่ะ *แถมอีกนิด ภพภูมิเจ้าที่ส่วนใหญ่ จะเป็นพญานาคค่ะ*
วัดนั้นเมืองรู้จักดีค่ะ ไม่ใช่ท่านภุชงค์ค่ะ นั่นคือวัดถ้ำเพชรนาคา ลพบุรีค่ะ รูปปั้นนั้นคือ พ่อเพชรนาคราชค่ะผู้ครองนครในภพนาค ส่วนในภพมนุษย์คือหลวงพ่อไพบูลย์ค่ะ ถ้ามีคนเข้าใจเป็นอื่นไม่เป็นไรค่ะ เมืองแค่มาแจ้งให้ทราบ<!-- google_ad_section_end --> คุรุวาโร ไม่เคยบอกว่า วัดนั้นคือ พญานาคภุชงค์ เรื่องเล่าก็บอกอยู่แล้วว่า พญานาคภุชงค์ ไม่มีในภพภูมิของบาดาลครับ ส่วนพระรูปนั้นคือพระรูปใด ไม่ขอกล่าวถึงครับ เพราะในกำลังของฌานนั้น อ่านมาและจำได้ครับ แต่ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเปิดเผยออกมา เพราะว่า มันไปขัดกับความเชื่อ ความศรัทธาของอีกหลายๆคนครับ
อันตัวพ่อ ชื่อว่า พระยาตาก ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา แด่พระศาสนา สมณะ พระพุทธโคดม ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี สมณพราหมณ์ชี ปฎิบัติ ให้พอสม เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นชม ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา พุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน. จารึกในศาลพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม เบญจราชกกุธภัณฑ์ "คือเครื่องหมายความเป็นพระราชา" มี๕ อย่าง ได้แก่ ๑.พระขรรค์ ๒.ธารพระกร ๓.อุณหิส ๔.ฉลองพระบาท ๕.วาลวิชนี เพราะไม่มี เบญจราชกกุธภัณฑ์ นี้เองพระยามหานุภาพจึงเขียนสดุดี แด่ พระองค์ท่าน! ในนิราศกวางตุ้งว่า... "ชะรอยอรรถบุรุษอุดมวงศ์ ในสิบองค์โพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ ได้รัฐยาเพททายทำนายพรรณ ในอนันต์สำนักชิเนรนาน จึงดลใจให้พระองค์ทรงนั่ง บัลลังก์รัฐรสพระธรรมกัมมัฎฐาน ให้ทรงเครื่องนพรัตน์ชัชวาล พระชมฌานแทนเบญจกกุธภัณฑ์ เอาพระไตรลักษณ์ทรงเป็นมงกุฎ พระงามสุดยอดฟ้าสุทธาสวรรค์ เอาพระศีลสุจริตในกิจกรรม เป็นสุวรรณเนาวรัตน์สังวาลย์ เอาพระวิมุติธรรมเป็นคันฉัตร เอาพระสัจจะเป็นระใบไพศาล ล้วนเครื่องศีลวัตรอันชัชวาล พระอุเบกขาญาณเป็นธารกร" ฯลฯ มีทหารท่านหนึ่ง ยอมถูกพลีชีพด้วยท่อนจันทร์แทนพระองค์ท่าน! ทหารคนนั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึง ด้วยความจงรักภักดีนั้น เหนือสิ่งอื่นใด โอ้ ทหารเสือเอย!!.......
แมวเหมียวรีับไปอาบน้ำ แปรงฟันเลยนะ เมาหงายท้องหงายไส้แบบนี้ สาวไหนจะแล? ใช่ว่าจะส่งไปงานพิธีรวมญาติ พญานาคภุชงค์อยู่ สงสัยไม่กล้าส่งไปครับ เดี๋ยวไปใช้บ่วงบาศ พญานาค จับนาคี ที่ถูกใจ --