แหม...เราก็ต้องช่วยสนับสนุนงานซึ่งกันและกันสิคะ พี่รั้งขราาาา...อิอิ... แล้วพี่รั้งคิดว่าหนูจะรู้มั๊ยล่ะคะ?? ^^
ไปหาดใหญ่คราวนั้นฉันยังจดจำ คำที่เคยสัญญาให้ไว้สองเรา ยามนี้เราไกลกัน ใจฉันยังคอยเฝ้า ว่าเมื่อไหร่สองเราเคล้าเคลียคู่กันฯลฯ........... ครังหนึ่งเคยไปร่วมงานบุญที่หาดใหญ่ครับ เมื่อราวๆ สัก ๙ ปีที่แล้ว เป็นวัดอยู่ติดทะเล ชื่อ วัดปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา ครังนั้นนั่งสมาธิ กำหนดจิต ออกไปสู่ทะเล พอหลับไป....เห็นเป็นนิมิต พญานาค ๒ ตนครับ เห็นน้ำในทะเล ใสมาก เค้ามาคู่กัน ออกสีเลื่อมๆแกมแดง!
ฮั่นแน่! เล่ามาซะดีๆ เจ้าแมวน้อย ทะเล มหาสมุทร มีพญานาคแน่นอนคร้า เพราะเป็นเวียงวัง และเป็นเมืองของเค้าเจงๆ (แค่ความรู้สึกนะ)
พี่อยากจับ ศรีสุจิตรา น้องฝ้าย 10 คุณ nurse_2510 มาคุยกันตัวต่อตัว.. คงสนุกนะให้เค้าซักถามกันไปเลยค่ะ ใครพี่ ใคร น้อง...
ขึ้นรถตู้ที่ตลาด อ.หาดใหญ่ ไป ระโนด... ด้วยความที่ไม่เคยมา จึงระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ....ที่ฝั่งตรงข้ามกับคิวรถตู้นั้นเอง เราสังเกตุเห็นมีโรงเจ ด้วยความที่คิดว่าอยู่ในที่อันตรายแบบนี้ ยังมีการบริจากทานด้วยหรือ จึงกำหนดจิตแผ่เมตตา แผ่ความปรารถนาดีไปให้....สักพักเห็นชายชรา นุ่งขาวไม่ใส่เสื้อ คล้ายๆ อาแป๊ะ ธรรมดาๆ เดินเข้ามาทักเรา ซึ่งนั้นอยู่บนรถ....พร้อมบอกว่า จ่ายตั็งค์ให้แล้ว....เราก็งงๆ! (สังเกตุว่าแกจ้องมองดูเราเป็นพิเศษ) แล้วแกก็เดินข้ามฝังหายไปทางโรงเจ รถตู้ก็ดี๊ดี ขับมาส่งให้ถึงในวัดเลย......มาทราบอีกทีจากหลวงพี่ในวัด ว่า โรงเจแห่งนั้นไม่ธรรมดา!! มาพิจารณาดูสงสัยเป็นเพราะว่าเรานั่งภาวนามาตลอดทาง(พร้อมกับระลึกถึงหลวงปู่ทวด) เทพยาดาท่านคงร่วมอนุโมทนาบุญด้วย กระมัง ครับ!!
จบแล้วครับ....ส่วนพญานาค ๒ ตนในทะเลนั้น คงเป็นเจ้าที่มากกว่า เพราะเป็นวัดที่อยู่ติดทะเล ท่านมีกายออกสีแดงๆครับ ได้เวลาแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ ทุกคน!
สวัสดียามเย็นท่านประธาน และพี่ๆคะ วันนี้ไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ที่วัดป่าเขาหวาย ฉะเชิงเทรา เอาบุญมาฝากทุกคนคะ
อะจ๊ากกกกกก ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นเรื่องพญานาคในทะเลจริงๆค้าาาาา หนูไม่มุสา เพิ่งได้ยินจากท่านหน่อนี่แหละ นอกนั้นก็เห็นจะเป็นมังกรในหนังจีนช่อง3ละค้าาาาา
อนุโมทนาบุญกับคุณญาด้วยนะจ้ะ... ******************************** คืนนี้ต้องเดินทางกลับกทม.แล้ว หลังจากมาเที่ยวเล่นอยู่ที่บ้านนอกสักพัก เดี๋ยวพรุ่งนี้ จะเข้ามาติดตามนิทานต่อไปนะคะ
นู๋น่ะ...ชั้นเชิงมืออาชีพเลยนะเนี่ย ถ้าบอกว่าไม่เค๊ยไม่เคย มะ...เชื่อเจงๆ ไม่เคยเห็นในทะเล แต่เคยเห็นในฝัน...ช่ายป่ะ..... *********** น้องฟ้าุมุ่ย...ขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะคะ...
ปากดี-โปเตโต้ จากวันนี้ เธอจะไม่เห็นหน้าคนอย่างฉันอีก โปรดจำเอาไว้ และตรงนี้ จะไม่มีคนที่ยอมให้เธอ ทำร้ายหัวใจกัน บอกเธอเกือบจะพันครั้งแต่มันก็ทำไม่ได้ เรื่องตัดใจทำเท่าไรไม่ได้สักที ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไปร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง บอกเลิกทีไรสุดท้ายก็เป็นฉันเองที่เสียใจ ปากดีเหลือเกินนะเรา แค่ทิ้งคนที่ทำร้าย กลั้นใจทิ้งเธอไม่ลงสักที เจ็บและช้ำ จนมาวันนี้ที่ภายในหัวใจ แหลกไม่มีเหลือ หากวันไหน บอกอะไรเธอและทำได้จริง มาถึงก็คงดี บอกเธอเกือบจะพันครั้งแต่มันก็ทำไม่ได้ เรื่องตัดใจทำเท่าไรไม่ได้สักที ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไปร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง บอกเลิกทีไรสุดท้ายก็เป็นฉันเองที่เสียใจ ปากดีเหลือเกินนะเรา แค่ทิ้งคนที่ทำร้าย กลั้นใจทิ้งเธอไม่ลงสักที ไม่รู้ทำไมเวลาเธอไปร่างกายไม่มีเรี่ยวแรง บอกเลิกทีไรสุดท้ายก็เป็นฉันเองที่เสียใจ ปากดีเหลือเกินนะเรา แค่ทิ้งคนที่ทำร้าย กลั้นใจทิ้งเธอไม่ลงสักที กลั้นใจทิ้งเธอไม่ลงสักที
เข้ามาถึงเจอเพลงเลย วางเพลงสิคะ ฟังเพลงเพราะกว่าอ่านเนื้อเพลงค่ะคุณนุ๊ก.. (วันนี้ฟ้ามืดทั้งวันเลย ใครบอกว่า หาดใหญ่มีแดดคะ? ไม่ทราบว่าอยู่ส่วนไหนของหาดใหญ่?( พอดีว่า ดิฉันอยู่หาดใหญ่น่ะค่ะ)
นิทานก่อนนอน...นิทานใบไม้ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ดอกไม้และใบไม้ยังไม่ได้รวมอยู่บนต้นเดียวกัน อย่างเช่นทุกวันนี้ มันต่างก็แยกกันอยู่ อีกทั้งเหล่าใบไม้ก็ไม่ได้มีแต่สีเขียว หากแต่มีหลากหลายสีสันงดงามนัก ..แต่ดอกไม้กลับมีเพียงสีขาวเท่านั้น ใบไม้รวมอยู่กับหมู่ใบไม้ด้วยกัน มี แต่ความร่าเริง มีนิสัยรักสนุก ต่างจากดอกไม้ที่อยู่อย่าง เงียบเหงา เดียว ดาย แม้จะอยู่รวมกันคุยกันกับหมู่ดอกไม้ด้วยกัน แต่ดอกไม้แต่ละดอกต่าง มีความคิด และวาดฝันเป็นของตัวเอง เธอเฝ้ารอบางสิ่งบางอย่างที่เธอ เองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร บ่อยครั้งที่เธอมองไปที่ใบไม้ แล้วนึกอยากเป็นส่วน หนึ่งของสีสันสวยงามนั้นบ้าง แต่ดอกไม้ดอกเล็กและเสียงเบาเกินกว่าที่ จะเรียกใบไม้ให้หันมา กระทั่งวันหนึ่ง ... ใบไม้เกิดรู้สึกเบื่อสีสันของตัวเองขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล พลัน สายตาก็เหลือบ ไปเห็นดอกไม้น้อยสีขาวบริสุทธิ์ดอกหนึ่งเข้า ใบไม้ไม่ รู้จักสีขาวมาก่อน เขาไม่รู้ว่าสีขาวเป็นอย่างไร เพราะใบไม้ต่างก็มีสีสันกันทุกใบ ใบไม้เกิดหลงใหลในความอ่อนหวานละมุนละไมของดอกไม้น้อยในทันที แต่ใน ความอ่อนหวานนั้นดูเหมือนจะมีความเหงาแฝงอยู่ด้วย ใบไม้จึงเข้าไปถามดอกไม้ว่า "ดอกไม้ เธอช่างมีสีขาวสวยเหลือเกินแต่ทำไมเธอจึงดูเงียบเหงาอย่างนี้เล่า" ดอกไม้น้อยแหงนมองใบไม้กิ่งใหญ่ แข็งแรงก่อนจะตอบกลับไปว่า "สีขาวซีดอย่างนี้หรือสวย ฉันอยากจะมีสีสันอย่างเธอบ้างจัง มันคงจะทำให้ฉัน มีชีวิตชีวาขึ้นมาก" ใบไม้ได้ฟังแค่นั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องช่วยเหลือ ดูแล และปกป้องดอกไม้น้อยดอกนี้ เขาจึงบอกเธอไปว่า "มาซิดอกไม้ ฉันช่วยเธอได้นะ ถ้าเพียงเธอมาอยู่กับฉัน ฉันจะทำให้เธอมี ชีวิต ชีวาขึ้นเอง" ดอกไม้น้อยไม่รอช้ารีบตอบตกลงในทันที เมื่อดอกไม้ไปอยู่กับใบไม้แล้ว ใบไม้ก็ให้การดูแลเธออย่างดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ เขาทำเพื่อเธอ ถ่ายทอดออกมาเป็นสีสันสวยงามให้กับดอกไม้ แล้ววันหนึ่งเมื่อดอกไม้น้อยมองลงไปในลำธาร เธอก็เห็นเงาตัวเองเปลี่ยน เป็นดอกไม้สีสวยที่มีชีวิตชีวา แต่เมื่อหันไปมองที่ใบไม้ เขากลับกลาย เป็นสี เขียวที่ดูอบอุ่นนัก ดอกไม้น้อยถามใบไม้ว่า " ใบไม้ นี่ฉันแย่งสีสันในชีวิตเธอมา รึเปล่านะ " ใบไม้ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า " ไม่หรอก ทุกวันนี้เธอคือสีสันในชีวิตฉัน ฉันไม่ต้องการสีสันอะไรอีกแล้ว" ฉันมีเพียงความสบายใจที่ได้เห็นเธอมีความสุข" จากนั้นมา ดอกไม้กับใบไม้ก็ อยู่ร่วมกันเป็นต้นไม้ที่อบอุ่น บนรากของความรัก ที่หยั่งลึกลงไปในผืนดินของ หัวใจ ด้วยเหตุนี้ ใบไม้จึงมีสีเขียว สีเขียวที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา เพราะ เมื่อเรามองดูสีเขียว เมื่อไร เราจะรับรู้ได้ถึงความสบายใจของใบไม้ที่เห็น ดอกไม้น้อยของเขามีความสุข ส่วนดอกไม้ ขาวที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ อ่อนหวาน ละมุนละไม นั้น ดอกไม้คงไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านี้หายไป จึงยังคงมีดอกไม้สีขาว ให้เราเห็นมาจนทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน ... (จุ๊..จุ๊...เคยเล่าหรือยัง...จำไม่ได้ แต่ลอกเค้ามาให้อ่านกันนะคะ) ราตรีสวัสดิ์ค่ะ