เมื่อคืน นิมิตใกล้รุ่งสางไปว่า มีแมวห้าตัว กำลังควบคุมสุนัขตัวน้อยๆ จำนวน 5 ตัว เพื่อที่จะไปสถานที่ใด สถานที่หนึ่ง โดยมีสุนัขซุกซนตัวหนึ่งแอบหนีออกจากวงล้อมของแมวนั้น แล้วมีแมวตัวหนึ่งก็ไปบังคับให้กลับมาอยู่ในวงล้อมของแมวครับ ในความฝันนั้นผมแปลกใจมากว่า "ทำไม แมวถึงควบคุมสุนัขทั้งหลายเหล่านั้นครับ" นิมิตนี้พิจารณาดู ก็ขออีกสักครั้งครับ สำหรับหิมพานต์แดนสี่ จากทีแรกคิดว่าจะล้มเลิกไป งั้นก็ขอเฉพาะเจาะจงทั้งห้าคนแค่นั้นครับ ส่วนที่เหลืออยากให้ส่งแรงใจ แรงอธิษฐานช่วยทั้งห้าคนให้ประสพผลสำเร็จแล้วกันครับ เพราะเมื่อไปได้ ทั้งห้าคนจะได้มาเล่าให้สมาชิกฟังครับ
รบกวนคุณคุรุวาโร ช่วยอธิบายเพิ่มเติมตรงคำว่า "ไม่ได้เกิดจากแรงกรรม" อีกสักนิดได้มั้ยคะ ขอความกระจ่างหน่อยค่ะ... (หรือว่า กำลังบารมียังไม่พอ จะได้ฟิตซ้อมให้มากกว่านี้)<!-- google_ad_section_end --> ขอบคุณค่ะ
คืนวันเสาร์หลังจากสวดมนต์เสร็จ แล้วแผ่เมตตาจากนั้นก็นอนภาวนาแล้วก็หลับ ฝันไปว่าเราจะไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ทางที่เดินไปมีต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ต้นไม้แต่ละต้นเปลือกเกี้ยงเกลา ผิวไม่ขรุขระ และลำต้นสูงใหญ่ ส่วนใบสีเขียวเงาวับสวยยังไงไม่รู้ แต่ที่แปลกคือ ผลไม้ที่ติดอยู้กับต้นไม้เหล่านั้นจะมีผลใหญ่เป็นพิเศษซึ่งเราไม่คุ้นตา และดูสวยงามผลเงาวับ เราได้แต่แหงนมองดู ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนมาว่า "ทานได้นะ" แต่เราก็ไม่ได้กินอะไรเข้าไป พอเดินไปเรื่อยๆเหมือนกับว่าเราต้องไปสักการะอะไรสักอย่าง แต่ไม่แน่ใจแต่เหมือนว่าใครมาถึงที่แห่งนั้นต้องไปเคารพสถานที่แห่งนั้น รู้สึกว่าเราจะไปเป็นคนแรก และได้ทำการกราบไหว้ท่าน แล้วก็ตื่นตอนไหนไม่รู้ ตกลงเราไปไหนกันแน่คะ
คนที่ไม่ได้เกิดจากแรงกรรม ยกตัวอย่าง เช่น ผู้เล่าแล้วกันครับ ตอนเด็กๆรู้สึกว่า ทำอะไรเหมือนมีคนจ้องมองดูอยู่ตลอดเวลาครับ แล้วเวลาทำอะไรนั้น เหมือนมีคนมาบอกว่า สิ่งที่ทำนั้น จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เช่น ความรู้สึกที่ว่าไม่สำเร็จ พยายามทำเท่าไร ก็ไม่สำเร็จครับ แต่ถ้ารู้สึกว่าทำแล้วจะสำเร็จ ก็จะมีปาฏิหารย์ คอยเปลี่ยนแปลงให้กิจที่ทำนั้นสำเร็จได้ครับ ส่วนสมาชิกที่ถามนั้น ต้องถามความรู้สึกตนเองว่า เป็นแบบผมบ้างไหมครับ การไปสัมผัสดินแดนมหัศจรรย์นั้น น้อยคนนั้นที่จะได้ไปครับ ตอนนี้เรียกว่า โอกาสอยู่ในมือผู้ที่ถูกเลือกแล้วนะครับ ผมเป็นแค่ผู้ช่วยเหลือเท่านั้นเอง ผู้ที่ถูกเลือกต้องพยายามช่วยเลือตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ แล้วกิจที่ทำครั้งนี้ถึงจะมีโอกาสสำเร็จครับ
มีหลายคนบอกว่า...ให้เชื่อมั่นความรู้สึกของตัวเองที่มี...อย่าปฏิเสธ...แต่คงเพราะนิสัยดื้อรั้น หรือช่างสงสัย หรืออะไรก็แล้วแต่...ก็มักจะพูดว่า "อุปปาทานหนอ" ซะทุกครั้ง...แล้วจะพยายามให้มากกว่านี้นะคะ
ดีครับทุกท่านเมื่อวานไปทำธุระที่เชียงใหม่มาครับเลยไม่ได้มาโพสเลย........สรุปก็อย่างที่ท่านพี่ จิโป บอกแหละครับ ผมเตรียมพร้อมสวดมนต์ตั้งแต่2ทุ่มในชุดขาว นั่งสมาธิยกจิตทำอรูปญาณ แต่ใจก็ถูกแทรกด้วย ความสงสัยลังเล ในเรื่องบางเรื่องบางประการ แม้จะวางอุเบกขา คลายความสงสัยนั้น แต่ก็ไม่สำเร็จจากนั่งมาเป็นนอน นอนมาเป็นนั่ง สักพักพอตอน 3ทุ่ม 45นาที ผมก็ได้ยินเสียงเคาะ เหมือนกับอะไรบางอย่างมากระทบกันทำให้เรียกสติก่อนที่จะหลับไป กลับมานั่งสมาธิอีกครั้ง และก็นอนสมาธิต่อ...จนหลับไป ..........จากนั้นก็ตื่นมาด้วยความสังสับว่า นิมิตที่เห็นแว็บๆมันคืออะไรทำไมจำอะไรไม่ได้เลย......................สรุปก็คงไม่ได้ไปไหนเพราะจำอะไรไม่ได้เลย:'(
ตอนตื่นนอนใหม่ๆ ลองนอนนิ่งๆ ทำใจให้ว่างสักพัก นึกทบทวนความฝันว่ามีอะไรบ้างมั้ย?...สักพักเราจะเริ่มจำได้...มาเป็นฉากๆ เลยค่ะ ลองทำดูนะคะ (เพราะตัวเองก็ทำแบบนี้อยู่)
ผมก็อยากถือศีล 8 อยู่ครับ แต่ติดเรื่องข้าวเย็น พอดีผมมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน พ่อแม่เพื่อนก็อยู่ด้วยแล้วตอนเย็นก็ชวนผมมากินข้าวด้วยกัน ถ้าไม่ไปก็เกรงใจครับ ผมคงได้ถือศีล 7 แทนนะครับ แล้วถ้าว่างไม่มีงานก็พยายามนั่งภาวนาบ้างนอนภาวนาบ้าง แต่นอนภาวนาให้หลับนาน ๆ ทีจะทำได้ครับ เพราะผมชอบกลัวตอนคล้าย ๆ ใกล้จะหลับว่ากายทิพย์จะหลุด เลยเปลี่ยนเป็นนอนธรรมดาให้หลับแทน ทั้ง ๆ ที่อยากฝึกถอดกายทิพย์แท้ ๆ ครับ แต่ชอบกลัว แล้วเรื่องเล่าสมัยเด็ก ๆ ผมชอบถูกผีอำ คือ นอนอยู่จะพลิกตัวปรากฏว่าพลิกไม่ได้ พอผมรู้สึกตัวตื่นก็มีตัวดำ ๆ มากดทับผม ผมก็นึกสวดมนต์นึกคาถาทุกอย่างหรือคาถาเป่าพุทโธใส่เพราะกลัว แต่ยิ่งสวดมนต์หรือภาวนาก็จะถูกบีบ ๆ ให้หายใจไม่ออกครับ จนผมต้องยอมปล่อยคำภาวนา สักพักเขาก็ออกไป พอผมขยับตัวได้ผมรีบวิ่งลุกจากเตียงมาเปิดไฟ แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เป็นตัวเองกลับมานอนที่เตียงเหมือนเดิม ผมงงมากว่าก็เมื่อกี้เราวิ่งมาเปิดไฟแท้ ๆ แล้วอยู่ ๆ มาตื่นบนเตียงนอนได้ไง เป็นอยู่หลายครั้งครับ พอโตมาก็ค่อย ๆ หายไป สงสัยว่ากายทิพย์จะหลุดออกมาเพราะตกใจแบบกลัวจนขาดสติครับ
ถอดกายทิพย์ จากผีอำ ผมเป็นบ่อยๆเรียกว่ากลัวโดนผีอำจนชิน กับการโดนอำ จนกายทิพย์หลุดออกมา คือใครที่โดนผีอำบ่อยๆจนชินจะสามารถถอดกายทิพย์ออกมาจากร่างโดยการอาศัยผีอำเป็นสื่อ ผมทำอยู่2ครั้ง ครั้งแรกที่โดนอำทุกอย่างจะมืดมิดแต่เราสามารถลุกออกมาได้ในขณะโดนอำ(ในกรณีที่คุณไม่กลัวการอำนั้นหรือชินกับมัน) ถ้าคุณลุกออกมาจากกายหยาบได้ทั้งร่างจากความมืดนั้น จะแปลเปลียนเป็นความสะว่างลางๆสลัวๆจะชัดหรือไม่ชัดอยุ่ที่ความละเอียกของสมาธิจิตคุณ ครั้งนั้นผมเดินออกมาแค่รอบเตียงในห้อง นอนไม่กล้าออกไม่มากกว่านี้ กลัวกลับเข้าร่างไม่ได้ ครั้งที่2รองอีก แต่ผีที่มาอำนั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวรผม เลยไม่กล้าออกมาหมดแค่กึ่งนั่งกึ่งนอนทับซ้อนกายหยาบ มันมืดมิดตอนนั้นเลยล้มตัวกลับเข้าร่างเหมือนเดิม ซื้อผมก็ไม่เคยออกไปไหนไกลกว่าห้องตัวเอง เพราะตอนนั้นยังไม่ได้ฝึกสมาะิ ไม่รุ้ว่ามันคืออะไร จะใช้ฤทธิ์ก็ไม่เป้น มาตอนนี้ไม่โดนผีอำมานานแล้ว เลยทำอะไรไม่ได้อยากลองอีกสั้งครั้งเหมือนกัน ........... และมีอีกครั้งที่เห็นผีอำเป็นหน้าพ่อตัวเอง(พ่อผมยังมีชีวิตอยู่) ตอนนั้นรู้สึกว่าผีอำดึงผ้าผมแต่ดันเป็นหน้าพ่อผมเองผมก็แย่งผ้าห่มคืน และก็ฝืนจากอาการโดนอำเพื่อนอนต่อ เช้ามา พ่อเล่าให้ฟังว่า ร่างท่านได้หลุดออกจากาย คือมือจะเย็นเท้าเย็นทุกส่วนจะเริ่มเย็นจนมาถึงอกแล้วร่างท่านก็ พรึบลอยขึ้นไปข้างบนจนถึงเพดาน พยายามความตัวแม่ไว้ก้ไม่สำเร้จจึงมาดึงที่ผ้าห่มของผม ซึ้งอยู่คนละห้องแต่ติดกันเพียงฝากั้น ดึงอยุ่อน่างนั้นสักพักท่านก้บอกว่าค่อยๆลอยลงกลับเข้าร่างแลวก็รู้สึกอุ่นๆจากหน้าอกไล่ไปทั่วตัว............