นิทาน เรื่อง "พญานาค"

โมทนา กับ ทุกท่าน ครับ เพิ่งกลับจาก การ ภาวนา บนเรือน เวียง..นาคา..//.. บนเนินเขา ครับ..
http://palungjit.org/threads/มังกรก็คือพญานาค-พญานาคก็คือมังกร.318663/[/quote]

ขอบพระคุณท่านนาคา ที่เข้ามาให้ความรู้ และทำให้หายข้องใจ ต่อไปนี้ก็จะไม่สงสัยแหละ ระหว่างมังกรกับพญานาคเจ้าค่ะ น้อมโมทนาบุญกุศลกับการภาวนาด้วยนะเจ้าค่ะ

 

เปล่าครับถามพี่คุรุวาโรน่ะครับ

 

ครูติงต้องหาโอกาสมาฟังที่พัทยาค่ะ ที่วัดมีสวดทุกบทที่อุ้ืมพูดมา แต่ก็อย่างว่านะค่ะ บททางเหนือ พวกเราก็มั่วๆไปค่ะ ไม่รู้จะถูกต้องตามออริจิเนิ้ล หรือป่าว อุ้มถึงอยากจะฟังเสียงและสำเนียงแท้ๆของทางเหนือ คงจะไพเราะกว่าที่พวกเราสวดกันแน่ๆเลย สาธุ ขอให้ลูกได้มีโอกาศได้ยินได้ฟัง ตอนไปเหนือครั้งนี้ด้วยเถิด บทเยจะพุทธา และ ชัยยะน้อย อิอิอิ นึกออกแล้วเดี๋ยวไป ก็ขอให้พระองค์ไหนที่ท่านสวดเป็น ให้ท่านสวดให้ฟังก็ได้นิ

 

ใช่บทเดียวกันหรือปล่าว? ไม่รู้เจ้าค่ะถ้าขึ้นต้นด้วย
พุทธังเมตตา นะชาลีติ ธัมมังเมตตา นะชาลีติ
ก้อเคยเจ้าค่ะ ได้ความรู้อีกแล้ว
งั้นไปสวดบ้างดีกว่า จะได้มีเมตตามหาเสน่ห์บ้างเจ้าคะ[/QUOTE]

มาแล้วเจ้าค่ะ นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ร้อยแปดจบ เอาจนจบจนได้เจ้าค่ะ ใช้ลูกประคำนับเอา สวดตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง จบห้าทุ่มยี่สิบ เป็นบทเดียวกันมั้งเจ้าค่ะ เพราะขึ้นต้ัน พุืทธะเมตตานะชาลีติ ธรรมะเมตตานะชาลีติ สังฆะเมตตานะชาลีติเหมือนกัน แต่ว่าตอนต่อๆไปไม่รู้ว่าจะเหมือนกันหรือป่าวนะเจ้าค่ะ ความยาวหน้ากระดาษเอสี่เจ้าค่ะ ท่องไวๆก็ประมาณจบละ ห้านาทีได้เจ้าค่ะ บทนี้นอกจากจะเป็นเมตตามหาเสน่ห์แล้ว ยังเป็นพระคาถามหาลาภอีกนะเจ้าค่ะ ที่วัดทรงเมตตา สวดพระคาถานี้ทุกวัน คนถึงแห่แหนเข้าวัดไม่ขาดสาย ปัจจัยมีมาไม่ขาดเลยเจ้าค่ะ อาหารการกินอุดมสมบูรณ์เจ้าค่ะ

อนุโมทนาบุญกุศลได้เลยนะเจ้าค่ะ ไม่รู้นึกยังไงแหละอยากสวด ร้อยแปดจบ ตอนแรกก็นึกว่าจะไหวฤา แต่พอเอาเข้าจริงๆ ต้องตั้งใจสิ พูดออกไปแล้ว เราต้องไม่คืนคำ ก็เลยตั้งใจ สวดไปครึ่งพวงประคำ เสียงเปลี่ยนเป็นผู้ชายแก่เลย ตกใจเสียงตัวเองเลยหยุดสวด แล้วก็รองกระแอมกระไอ พอสวดต่อก็เป็นอีกเจ้าค่ะ ก็ได้ยินเสียงตัวเองเป็นเสียงผู้ชายแก่ๆอีก สวดเร็วมากเลย ยานๆด้วย สงสัยครูบาอาจารย์ท่านลงมาช่วยสวด

น้อมจิตอนุโมทนากุศลได้เลยนะเจ้าค่ะ ที่สวดไม่ได้หวังผลอะไร แค่นึกว่าอยากสวดมันก็สวด ทุกวันจะนึกไม่เหมือนกันหรอกเจ้าค่ะ บางวันก็นึกอยากสวดอิติปิโส ร้อยแปดจบ บางวันก็อยากสวดพระคาถาชินบัญชร บางวันก็อยากสวดพระคาถาเงินล้าน แล้วแต่เบื้องบนเขาจะสั่งมาว่าจะให้สวดอะไร ก็จะไปตามความรู้สึกเจ้าค่ะ

 

สาธุ พรใดอันประเสริฐ พรใดอันล้ำเลิศขอให้คืนสนองกลับท่าน หน่อนรคุณ แสนเท่าพันทวีเจ้าค่ะ ขอผลแห่งบุญบารมี ความดีใดๆ ที่ท่านได้กระทำแล้วตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบัน และในอนาคตที่จะมาถึง จงส่งผลให้ท่าน อุดมด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรค ผล และนิพพานอันเป็นที่สุดเจ้าค่ะ ขอผลแห่งความดีของท่านนั้น จงถึงแก่เทพเจ้า และจิตญานทุกหมู่เหล่าทั้งอนันตจักวาลไม่มีประมาณ จงมีความสุข ดับทุกข์ได้ สำเร็จพระโพธิญาณ ปัจเจกญาณ สาวกญาณ มีมรรค ผล นิพพาน ด้วยกันทุกรูป ทุกนามเทอญ

ขอให้ท่านได้มีโอกาศสร้างสมบุญกุศล ความดียิ่งๆขึ้นไป ไม่มีขอบเขคุจนกระทั่งบรรลุถึงซึ่งพระนิพพานเจ้าค่ะ

 

ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ....

ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต
ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..

.. คนที่ไม่เคยหิว
ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม
ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม .. ​

 

5555555555

เขาเรียกว่ากลอนเหรออะไรอะคะแต่งเก่งจังคะ

 

จึงได้เห็นว่าในป่าหิมพานต์แห่งนี้ มีพระอริยสงฆ์ และฤาษีนั่งภาวนาอยู่จำนวนมาก
การที่ผู้ใดจะสามารถเข้ามาในป่าหิมพานต์แห่งนี้ได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ถือศีล ๘ ขึ้นไปจึงจะสามารถอยู่ในป่านี้ได้ ถ้าคนไม่มีศีลก็ถูกเสือหรือสัตว์ร้ายในป่าหิมพานต์ทำร้ายให้หนีไปทันทีสัตว์ป่าทุกตัวในป่าหิมพานต์แห่งนี้ก็ถือศีลแปดเช่นกัน ในป่าหิมพานต์มีความสงบร่มเย็นมาก เหมาะสำหรับเป็นสถานที่นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา และจะสามารถบรรลุมรรคผลได้โดยง่าย
เณรน้อยจึงออกเดินไปรอบๆป่ามองดูโดยรอบ เห็นทั้งนกสามารถพูดเป็นภาษามนุษย์ได้ ครั้นไปที่ต้นไม้ แทนที่จะมองเห็นผลไม้นานาชนิด แต่เณรทองใบกลับได้พบเห็นมีรูปร่างสตรีห้อยโตงเตงอยู่บนต้นไม้แทนที่เรียกว่า มัคกรีผล รูปร่างเป็นมนุษย์ มีหน้าอกเต้านมห้อยอยู่บนต้นไม้สูงประมาณ ๑ ศอก แต่ไม่มีอวัยวะเพศให้ปรากฏแต่มีเต้านมสันนิฐานว่าเป็นเพศเมีย แต่อีกส่วนเป็นรูปร่างที่ไม่มีเต้านมตั้งชันขึ้นจึงรู้ว่าเป็นเพศผู้ ...
เณรทองใบอยากที่จะออกจากป่าแห่งนี้จึงอธิษฐานเดินหน้าต่อไป แต่เมื่อเดินเท้าเข้าไปเดินอย่างไรก็ไม่สามารถเดินออกมาจากป่าแห่งนี้ได้

 

ต่อ รอ อ่านยุน่ะครับ

 

เหมือได้ยินเสียงใครแซว ยามสาย... ในช่วงเหมันตฤดูนี้ จะมีใครบ้างนะ อยู่เดียวดาย บนทางเดินอันไร้จุดหมาย ยินเพียงเสียเรียกแห่งหัวใจ ดวงน้อย...ของใครคนหนึ่ง ก็ยังพอได้เป็นกำลังใจ ให้ก้าวเดินต่อไป เพื่อลุถึงจุดหมายแห่งสันติวรบทนั้น แม้วันพรุ่งนี้ ฉันอาจไม่เหลือใครเลยก็ตาม ! แต่ความทรงจำดีๆ ในห้องกระทู้นี้จะถูกบันทึกไว้ในส่วนลึกของหัวใจดวงน้อย ตราบนานเท่านาน...

อ๋อ ผมเรียกว่า กาพย์นรคุณ ครับ ทำห้องกระทู้กลอนเขา ปั่นป่วนมาแล้ว...เลยหนีมาที่นี้อ่ะ ครับ

 

พอเคยเห็นอยู่นะคุณหน่อนรคุณ อ่านไปยังขำไป เล่นกันซะ 555

 

ขอให้มั่น ใจแน่ ไม่แปรผัน
ยี่สิบเอ็ด สี่ทุ่มนั้น พลันล้อหมุน
ถอดกายทิพย์ ท่องเที่ยวไป นะพ่อคุณ
มีต้นทุน สมาธิมั่น พลันได้ไป

 

เมื่อคืนนั้น ออกจากนี้ มีที่หมาย
รวมใจกาย เฝ้าสวดมนต์ บ่นคาถา
เตรียมเสบียง ให้พอดี กับเวลา
พี่น้องพา ท่องบาดาล สำราญใจ

 

ดวงจิดแห่งข้าก็มิได้ต่างไปจากท่านเท่าใดนักดอกท่านหน่อนรคุณเอย...
ข้าพเจ้าแลชื่นชอบสำเนียงโบราณนี้เช่นเดียวกับท่าน

 

เมื่อท่านยิ่งหนี เราจะยิ่งตามจนท่านไม่ได้ไปต่อ เพราะท่านยังไม่ได้ชดใช้หนี้กรรม

 

เมื่อคืนนี้ ท่องคาถา ที่ว่าไว้
ดวงจิตได้ ท่องเที่ยวไป ที่ไหนหนอ
นึกไม่ออก บอกไม่ได้ ใคร่ขอรอ
ท่านคุรุ มาสานต่อ นะพ่อเอย...

 

มีคนมาเล่านิทานต่ออีกแล้ว รอฟังต่อนะจ๊ะสาวน้อย

 

ขอบคุณค่ะคุณอุ้ม
ติงจะไปเชียงใหม่ในสัปดาห์หน้า
หากมีเวลาว่าง อาจไปหาตามร้านว่ามีที่เขาบันทึกเสียงจำหน่ายหรือไม่ค่ะ

 

พญานาคทั้งเจ็ด ที่พระธาตุพนม

นายไกฮวดและภรรยาได้เห็นแสงประหลาด 7 สี ลอยเข้าไปในวัดพระธาตุพนม ได้ทำให้ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมลีฉุกใจคิด ว่านายไกฮวดและภรรยาอาจไม่ใช่ตาฝาดไป หรือนี้จะเป็นปรากฎการณ์ลึกลับของวิญญาณก็ได้

วันต่อมา ท่านเจ้าคุณ ได้ให้ สามเณรทรัพย์ ซึ่งชำนาญในการเข้าฌานนั่งทางในเก่งกว่า พระ เถร เณร ชี ทั้งหลายภายในสำนักวิปัสสนาวัดพระธาตุพนม เพื่อดูว่าแสงประหลาดที่นายไกฮวดเห็นนั้นเป็นแสงอะไร

สามเณรทรัพย์นั่งเข้าสมาธิอยู่ไม่นาน ก็เกิดโอภาสแสงสว่างออกไปจากตัวเป็นบริเวณกว้างไกล ส่องให้เห็นอาณาบริเวณวัดพระธาตุพนมทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าพระสงฆ์องค์เณรทั้งหลายกำลังทำอะไรอยู่ก็รู้หมด !

ที่พลาญกว้างหน้าองค์พระธาตุพนมนั้น แสงโอภาสได้ส่องสว่างให้เห็น "งูยักษ์" จำนวน 7 ตัวเรียงรายกันอยู่ แต่ละตัว โตใหญ่ขนาดลำต้นตาล มีสีต่างๆกัน มีหงอนและเคราสีแดงเข้ม สามเณรทรัพย์เกิดความรู้สึกกลัวมาก จิตวูบวาบสั่นไหวพร่าเลือน จิตใกล้จะคลายออกจากสมาธิเสียแล้ว

แต่ในทันใดนั้นรู้สึกคล้ายถูกสะกด จิตใจพลันสงบนิ่งความกลัวหายไปอย่างน่าประหลาด นิมิตภาพงูยักษ์ได้ชัดเจนเหมือนเดิม และฉับพลันทันใดนั้นงูยักษ์ทั้งเจ็ดตัวได้แปรเปลี่ยนร่างเป็นมาณพหนุ่ม 7 คน !

แต่ละคนทรงเครื่องสีขาว ดูท่าทางมีตบะอำนาจอย่างลึกลับบอกไม่ถูก มานณหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าได้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันไพเราะว่า พ่อเณรมีธุระอะไร อย่ากลัว จงบอกมา ?