42.คลองบางหลวง บ้านศิลปิน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 11 มิถุนายน 2011.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ๔๒

    คลองบางหลวง บ้านศิลปิน


    เมื่อตอนร่วมงานพิธีชักพระแห่พระบรมสารีริกธาตุจากวัดนางชีโชติการาม ไปยังวัดไก่เตี้ย ในเส้นทางต้องผ่านคลองบางหลวง ก็เกิดสะดุดตากับบ้านริมน้ำหลังหนึ่ง เป็นลักษณะคล้ายๆ กับร้านค้าริมน้ำ แต่เมื่อมองดูแล้วเห็นว่าเปิดเป็นแกลลอรี่ พอมองเลยเข้าไปก็เห็นมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองอยู่ตรงกลางบ้าน ก็ยิ่งสงสัยนี่บ้านอะไรมีเจดีย์ด้วย ถามใครก็ตอบไม่ได้ ก็สงสัยอยู่เรื่อยมา
    จนมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปบ้านหลังนี้ ก็ไม่ได้ไปเที่ยวพอดีไปตรววจราชการนอกสถานที่ อิอิ นานๆได้ออกข้างนอกสักที พี่ๆ ที่พาไปบอกว่าชื่อ “บ้านศิลปิน(The Artist House Art Gallery And Unique Handicraft)” เมื่อหาข้อมูลแล้วทราบว่าสามารถเข้าได้ทั้งทางบกและทางน้ำ


    a.jpg
    ทางแรกให้เดินเข้าซอยจรัลสนิทวงศ์ ๓ จนสุดซอย แล้วเดินขึ้นสะพาน คลองบางหลวง ลงสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตามระเบียงไม้ริมน้ำตรงนี้จะมีร้านค้าและแกลลอรี่ภาพถ่ายเก่าๆ ด้วย ไปจนสุดก็ถึงบ้านศิลปิน

    ทางที่สอง ขับรถมาจอดที่ วัดคุหาสวรรค์ ซอยเพชรเกษม ๒๘ แล้วเดินเลียบคลองไปทางขวามือ จะผ่านสะพาน คลองบางหลวง อยู่ทางซ้ายเดินมาได้สักระยะก็จะมาจ๊ะเอ๋กับทางแรกที่สะพานข้ามคลองบางหลวง เดินตรงต่อไปจนสุดก็ถึงบ้านศิลปิน เส้นทางนี้เป็นเส้งทางที่สร้อยฟ้าฯ ใช้

    a.jpg
    ทางที่สาม ขับรถมาจอดที่ วัดกำแพง(บางจาก) สุดซอยเพชรเกษม ๒๐ วัดเล็กๆ ที่เงียบสงบ และมีต้นลำพูริมน้ำ จากวัดให้เลี้ยวซ้ายเดินเลียบคลอง เป็นทางเดินเล็กๆ ขึ้นสะพาน แล้วจะเจอตรอกทางขวามือ เพื่อเดินไปทางสะพาน คลองบางหลวง อย่าเดินข้ามสะพานให้เลี้ยวขวา ตรงนี้ก็จะจ๊ะเอ๋กับทางแรกกับทางที่สอง เดินตรงต่อไปจนสุดก็ถึงบ้านศิลปิน

    a.jpg

    ก่อนไปเรื่องของบ้านศิลปิน มาว่ากันเรื่องของคลองบางหลวงกันก่อน

    “คลองบางหลวง” มีชื่อเป็นทางการว่า “คลองบางกอกใหญ่” เป็นลำคลองที่แยกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งขวาของป้อมวิชัยประสิทธิ์ไปสิ้นสุดที่คลองมอญ ตรงข้ามปากคลองชักพระ คลองบางกอกใหญ่ มีความยาวประมาณ ๖ กิโลเมตร เป็นคลองที่กว้างใหญ่กว่าคลองที่อยู่ละแวกใกล้เคียง เพราะเป็นทางออกของแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม โดยในสมัยพระชัยราชาธิราช พ.ศ.๒๐๖๕ โปรดเกล้าให้ขุดคลองลัด เรียกว่า “ลัดบางกอก” ระหว่างคุ้งแม่น้ำที่เคยเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมตั้งแต่ปากคลองบางกอกน้อย (ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ไปจนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ในปัจจุบัน โดยแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมจะอ้อมเลียวจากหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นคุ้งกว้างมาทะลุออกข้างวัดท้ายตลาด จากปากคลองบางกอกน้อยมาบรรจบบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่มีความยาว ๖.๕ กิโลเมตร ซึ่งก่อให้เกิดแม่น้ำสายใหม่ขึ้นตั้งแต่บริเวณโรงพยาบาลศิริราชถึงหน้าวัดอรุณราชวราราม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการย่นระยะทางและอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าและชาวทูตชาวตะวันตกที่เริ่มเข้ามาติดต่อค้าขายและเจริญสัมพันธไมตรีกับอาณาจักรเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสมัยนั้น ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมก็เล็กลงกลายเป็นคลองบางกอกน้อยและคลองบางกอกใหญ่ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ย้ายราชสำนักมาอยู่ที่กรุงธนบุรี คลองบางกอกใหญ่จึงกลายมาเป็นชุมชนของข้าหลวง และทรงโปรดเกล้าให้ชาวจีนที่ได้เคยช่วยเหลือพระองค์มาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ จึงเรียกกันว่า คลองบางข้าหลวงหรือ คลองบางหลวง มาถึงปัจจุบัน

    ในสมัยครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ กรุงเทพมหานครถูกขนานนามว่า “เวนิสตะวันออก” โดยสมัยนั้นใช้การสัญจรทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ และคลองบางกอกใหญ่ (หรือคลองบางหลวง) ก็เป็นเส้นทางสัญจรสำคัญในสมัยนั้น ทั้งยังเป็นที่ตั้งชุมชนเก่าแก่ เป็นที่พำนักของบรรดาขุนนาง ผู้ดี และเศรษฐีในสมัยก่อน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยเรื่องราวการตั้งถิ่นฐานที่มีทั้งเรื่องราวของวิถีชีวิต เชื้อชาติ ศาสนาที่แตกต่างกัน และมีการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมและประเพณี มีทั้งวัดไทย วัดจีน มัสยิด และศาลเจ้า ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่มีเรื่องราวที่หลากหลายของชาติพันธุ์ที่น่าสนใจ


    ในปัจจุบัน “คลองบางกอกใหญ่” ถือเป็นเส้นทางสัญจร ทางระบายน้ำ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างมาก โดยมีศาสนสถานตั้งอยู่อย่างหนาแน่นทั้งสองฝั่ง วัดและมัสยิดริมคลองบางกอกใหญ่ ได้แก่ วัดโมลีโลกยาราม วัดหงส์รัตนาราม โบสถ์อิทรสารเพชร วัดสังข์กระจาย วัดประดิษฐาราม วัดเวฤราชิน วัดอินทาราม วัดราชคฤห์ วัดประดู่ในทรงธรรม วัดนวลนรดิศ วัดปากน้ำ วัดคูหาสวรรค์ วัดกัลยาณมิตร วัดวิจิตรการนิมิต มัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว) มัสยิดต้นสน


    a.jpg

    จากหนังสือชื่อเล่าเรื่องบางกอกของ ส. พลายน้อย ได้เล่าถึงความเป็นมาของคลองบางหลวงว่า บางนั้นแปลว่าคลอง เมื่อแผ่นดินพระเจ้ามหาจักรพรรดิ โปรดให้ขุดบางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ให้ตลุยถึงกันเป็นแม่น้ำ แล้วสร้างเมืองลงรักษาที่ขุดเหมือนอย่างแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย คลองบางหลวงใหญ่แต่เดิมนั้นก็มีขนาดใหญ่โตเท่ากับคลองบางกอกน้อยแต่เพราะอยู่ใกล้เมืองธนบุรี คนสร้างเหย้าเรือนลงมามาก ปักถมที่ทางออกมา ก็ทำให้แคบไป ราษฎรเห็นว่ามีเล็กกว่าลำบางกอกน้อย ไม่ควรจะเรียกว่าบางกอกใหญ่ เห็นว่าเท่ากับลำบางหลวงเสียแล้ว ก็เรียกว่าคลองบางหลวงเสียทีเดียว แต่ผู้รู้เป็นอันมากไม่ว่าอย่างนั้น ว่าที่เรียกว่าคลองบางหลวงนั้นเรียกเมื่อแผ่นดินเจ้าตาก เพราะเจ้าตากไปตั้งวังอยู่ที่กรมหลวงวงษา เดี๋ยวนี้คนก็เรียกว่าวังหลวง ก็ในคลองนั้นเจ้าตากให้ไปขับไล่บ้านราษฎรเป็นอันมาก เอาเป็นที่หลวงประทานขุนนาง แลเจ้านายในแผ่นดินนั้น แลคนจะเดินเรือทางนั้นก็ต้องระวังตัวต่าง ๆ คนจึงเรียกว่า คลองหลวง บางหลวงไป เพราะเป็นคลองริมวังโดยจะเรียกว่าคลองบางหลวงตั้งแต่ด้านเลี้ยวเข้าไปข้างวัดปากน้ำ นอกนั้นออกมายังเป็นบางกอกใหญ่


    ในหนังสือแบบเรียนภูมิศาสตร์ของกรมตำรา กระทรวงศึกษาธิการ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2536 (ภูมิศาสตร์ประเทศสยาม) ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “เมืองธนบุรีเดิมตั้งอยู่ในคลองบางหลวงใหญ่ ตรงวัดคูหาสวรรค์หรือที่เรียกว่าวัดศาลาสี่หน้า เมื่อรัชกาลสมเด็จพระชัยราชาธิราช สมัยกรุงศรีอยุธยา โปรดให้ขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา จึงย้ายเมืองธนบุรีมาตั้งป้อมปราการขึ้นที่ตรงวัดอรุณราชวราราม” ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าคลองบางหลวงบริเวณนี้นับเป็นบริเวณที่มีความเป็นมาและมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีการกล่าวถึงชื่อ บางกอก ว่าในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นนักปราชญ์ทางโบราณคดีและภาษาไทยท่านได้ใช้คำว่าบางกอก ใน “พระสมณศาสตร์” ภาษาบาลีที่พระราชทางไปยังลังกา มีข้อความตอนหนึ่งว่า เมือง(ธนบุรี) นั้นแหละ เรียกว่า เมืองบางกอก เพราะสร้างขึ้นระหว่างคลองบางกอก ทั้งสอง โดยชื่อแห่งเมืองไรเล่า แม้ราชธานีของไทยบัดนี้ (คือรัตนโกสินทรฯ) ชาวต่างประเทศมีอังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น ก็ยังเรียกกันอยู่อย่างนั้นแหละ



    ............................

    a.jpg

    น้ำร้อนควันพวยพุ่ง........กรวยกา
    น้ำเดือดเต้นแรงพา........เร่าร้อน
    พุ่งพร่าอยู่ในกา............ว่าร้อน...มากแรง
    เต้นแร้ง กา บ ห่อน.....ตามเร้า...แรงทวี




    ............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2023
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg

    บ้านศิลปิน (The Artist House Art Gallery And Unique Handicraft) ริมคลองบางหลวง (คลองบางกอกใหญ่) เริ่มเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒โดย ชุมพล อักพันธานนท์ และเพื่อนๆ ศิลปิน สามารถเข้าเยี่ยมชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เปิดตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๘.๐๐ น.


    a.jpg

    ความเป็นมาของบ้านศิลปิน แลหุ่นละครเล็กจากข้อความของผู้ก่อตั้ง...


    ตระกูล รักสำหรวจ ทำกิจการค้ากับบ้านหลังนี้ มาช้านาน เริ่มตั้งแต่ธนบุรีเป็นเมืองหลวง เดิมเป็นบ้านทรงมนิลา มีการซ่อมแซม ต่อเติมตามอายุ นับร้อยปีของบ้านยังคงเหลือความงามบางส่วนให้เห็น เดิมนั้นทั้งย่านนี้เป็นชุมชนทำทองเกือบทั้งย่าน และเป็นเมืองหลวงธนบุรี ตั้งอยู่ ณ จุดนี้ ธุรกิจตระกูลนี้ นอกจากทำทองแล้ว ยังขายของชำหลากหลายชนิด พอเริ่มต้นรัชสมัยรัตนโกสินทร์ ผู้คนนับหน้าถือตา ข้าราชการมาก ตระกูลนี้จึงหันเหมารับราชการจวบจนปัจจุบัน เช่น พลเรือเอก ยอดชาย รักสำหรวจ (กำลังรับราชการอยู่)

    a.jpg

    ข้าพเจ้าถูกทาบทามให้ติดต่อองค์กรมาอนุรักษ์บ้านนี้เท่าที่จะทำได้ เพื่อรักษาบ้านหลังนี้ บ้านเลขที่ ๑ ในยุคนั้นก็ตามก็ยังไม่มีใครเห็นความสำคัญ สุดท้ายงานก็สำเร็จได้ด้วยแรงใจ และแรงทรัพย์จาก รุ่นพี่ เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน รวม ๓ ท่าน คือ นางสาวสุรางค์รักษ์ ชัยศรีโชติ, นางจิตติมา วิบูลย์ลาภ, นายเอก ธโชติวัฒนากร มาร่วมกันซ่อมแซม เหน็ดเหนื่อยกันมากกว่าจะสำเร็จ หลังจากงานซ่อมแซมสำเร็จแล้วมาคิดกันว่า ชีวิตที่เหลือจะทำอย่างไรกับบ้านหลังนี้ ไม่อยากให้เป็นอย่างตลาดน้ำอัมพวา ไม่อยากให้คนหนาแน่นอย่างตลาดสามชุก ไม่อยากให้ทุกข์กับการลงทุนที่ต้องฟื้นทุกอย่างให้รุ่งเรืองเช่นอดีต นับตั้งแต่บ้านซ่อมแซมเสร็จ ข้าพเจ้าคำนึงถึงชีวิต และกิจกรรมแห่งชีวิตริมน้ำที่นี่ ข้าพเจ้ามีความสุขที่เห็นวิถีชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ มากกว่าที่จะช่วยกันโหมประชาสัมพันธ์ให้คนมากันมาก ๆ อยากจะบอกว่าให้มาเยือน “กลิ่นอดีต กับชีวิตที่เคยรุ่งเรือง กราบไหว้พระเจดีย์ ที่ให้ทุกอย่างกับข้าพเจ้า และชื่นชมวิถีชีวิตที่งดงาม กับสายน้ำที่ไหลหลับทุกวันที่นี่”



    a.jpg
    หุ่นละครเล็ก
    ศิลปวัฒนธรรมไทยนับวันจะค่อย ๆ เลือนหายไปจากสังคมไทย และกลายเป็นเรื่องไกลตัวทั้งๆ ที่ศิลปวัฒนธรรมเป็นรากเหง้าของคนไทยมาแต่ช้านาน และถึงแม้ปัจจุบันวัฒนธรรมตะวันตกจะเข้ามามีอิทธิพลทำให้เยาวชนหันไปนิยมจนลืมศิลปวัฒนธรรมไทยกันไปบ้าง แต่ยังมีกลุ่มศิลปินที่ยังคงรักศิลปวัฒนธรรมไทยด้วย เล็งเห็นว่าถึงแม้สังคมไทยจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร แต่หากมีผู้ร่วมสืบสาน และอนุรักษ์มากขึ้นศิลปวัฒนธรรมไทยไม่ว่าแขนงใดก็ตามจะไม่มีวันเลือนหายไปจากสังคมไทยอย่างแน่นอน


    การแสดงหุ่นละครเล็ก ศิลปะการแสดงหุ่นของไทยประเภทหนึ่ง ที่มีอายุยาวนานมากว่า ๑๐๐ ปี ถือกำเนิดเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๔ โดยครูแกร ศัพทวานิช และได้รับการสืบทอดโดยครูสาคร ยังเขียวสด ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจร่วมอนุรักษ์ และสืบสานศิลปะแขนงนี้เพิ่มมากขึ้น

    การแสดงหุ่นละครเล็กเป็นการแสดงที่ผู้เชิดต้องมีความสามารถเฉพาะทาง และมิใช่เรื่องง่ายที่ใครจะสามารถเชิดหุ่นละครเล็กได้ เนื่องจากผู้เชิดต้องมีพื้นฐานโขน ละคร เป็นอย่างดี หลังจากนั้นถึงจะสามารถเริ่มฝึกการเชิดหุ่นละครเล็กได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่า ๑ ปี ถึงจะสามารถถ่ายถอดจิตวิญญาณสู่หุ่นละครเล็กให้มีท่วงท่าที่อ่อนช้อย และงดงามได้ อีกทั้งในการเชิดหุ่นละครเล็ก ต้องใช้ผู้เชิดถึง ๓ คน จึงต้องรวมใจของทั้ง ๓ ให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อถ่ายทอดไปยังตัวหุ่นละครเล็ก ให้หุ่นละครเล็กเคลื่อนไหวประดุจมีชีวิต ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่บรรพบุรุษได้สั่งสมภูมิปัญญาจนเกิดเป็นวัฒนธรรมอันเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ที่สร้างมนต์เสน่ห์ให้กับผู้พบเห็นไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือชาวต่างชาติ

    a.jpg

    ด้วยมีแนวคิดเดียวกันในการมุ่งหวังที่จะร่วมเผยแพร่ อนุรักษ์ศิลปะการแสดงหุ่นละครเล็ก ในฐานะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการเชิดหุ่นละครเล็ก อีกทั้งได้ผู้ใหญ่ใจดีอย่างอาจารย์วัชระ ประยูรคำ ปฏิมากรชั้นนำของเมืองไทยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกับกลุ่มศิลปินนักแสดงผู้เชิดหุ่นละครเล็ก และให้คำปรึกษาในการสร้างสรรค์ พัฒนาเพื่อต่อยอดการแสดงให้เกิดความหลากหลาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้ที่ต้องการเสพศิลปวัฒนธรรม


    หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะคำนาย
    ปัจจุบันได้จัดทำการแสดง ณ บ้านศิลปิน คลองบางหลวง โดยได้รับความเมตตาจากคุณชุมพล อักพันธานนท์ เจ้าของบ้านศิลปินปรับพื้นที่บางส่วนภายในบริเวณบ้านให้เป็นลานวัฒนธรรม เพื่อจัดการแสดงหุ่นละครเล็ก และเปิดให้ชมฟรีทุกวัน การแสดงหยุดทุกวันพุธเป็นแหล่งเรียนรู้อีกหนึ่งแห่งให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และเพื่อสร้างกิจกรรมที่หลากหลายให้กับชุมชน และส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางน้ำที่ควรค่าแก่การสืบสานให้อยู่คู่สังคมไทยต่อไป เพื่อเป็นการนำศิลปวัฒนธรรมไทยให้เข้าถึงกลุ่มผู้ที่ไม่มีโอกาส อีกทั้งเพื่อเป็นการร่วมเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง


    a.jpg

    เอกลักษณ์ของการแสดงหุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะคำนาย
    หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะคำนาย ผู้เชิดทั้งสามคนจะต้องใส่หน้ากากสีดำ แต่งกายสีดำ สวมถุงแขน สวมถุงขาสีดำ เพื่อเป็นการลดทอนความเป็นมนุษย์ และเพื่อส่งให้หุ่นเด่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อดึงความสนใจของผู้ชมให้อยู่แต่ที่ตัวหุ่น หรืออีกนัยหนึ่งก็เปรียบได้ว่าผู้เชิดหุ่นเป็นเพียงจิต และตัวหุ่นเปรียบเสมือนเป็นกาย เมื่อผู้เชิดคือจิตทั้งสามต่างมีหน้าที่แตกต่างกัน ถ่ายทอดไปยังร่างกายเมื่อร่างกายสมบูรณ์ ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างงดงาม และอ่อนช้อยประดุจเสมือนหุ่นมีชีวิต


    “ ศิลปิน ยังคงอยู่ได้ จากแรงสนันสนุน และส่งเสริม
    ศิลปะถูกเติมเต็มได้ด้วยศิลปินที่ทำงานด้วยใจ
    ศิลปะและวัฒนธรรม อยู่ได้ ด้วยการอนุรักษ์ และเผยแพร่
    ถ้ามีท่านร่วมสนับสนุน ส่งเสริม อนุรักษ์ ศิลปิน
    ศิลปวัฒนธรรมก็คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ”


    ตอนขากลับก็เดินย้อนกลับมาผ่านร้านต่างๆ พอถึงเชิงสะพานข้ามคลองบางหลวงเห็นคุณยายอายุมากแล้วทำกระยาสารทขาย ที่บ้านของคุณยายเป็นร้านอยู่ตรงหัวมุมพอดี เป็นบ้านหลังเก่าๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรให้สวยงามอย่างหลังอื่น ก็เลยอุดหนุนกระยาสารทคุณยาย จากการพูดคุยกันทราบว่าเป็นสูตรกระยาสารทโบราณ วิธีการทำก็ทำแบบอย่างเก่า ถ้าท่านใดผ่านไปเที่ยวบ้านศิลปิน ก็ขอเชิญชวนอุดหนุนกระยาสารทฝีมือคุณยายด้วย


    a.jpg


    .......................................................


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1518444/[/MUSIC]


    .......................................................
    ที่มาของข้อมูล

    kajarp.wordpress.com/2009/11/14/artist-house/
    www.klongbangluang.com

    รูปที่ถ่ายมาครั้งนี้กล้องไม่รู้เป็นอะไร แสงโอเวอร์มาก พอจะนำมาให้ดูกันได้แค่ไม่กี่รูปเอง

    ภาพโดย สร้อยฟ้ามาลา
    เรียบเรียงเรื่องราวโดย สร้อยฟ้ามาลา




    .......................




    [​IMG]




    ..............
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2023
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]


    หน้ากากสวมปิดไว้.......อำพราง
    ซ่อนเร้นเบื้องหลังอ้าง...อวดเขา
    ยิ้มทุกข์สุขอื่นบ้าง.......ภายนอก....ฤๅ รู้
    แสดงตนบทบาทเข้า....ควบครอบ..ใจตน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013
  11. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    [​IMG] [​IMG]

    หุ่นสองตัวเนี๊ย เหมือนคนจังนะครับ คุณสร้อย ฯ
     
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    อยากให้พี่ปอฯ มาโพสต์ท่าใกล้ๆ กับหุ่นจัง....
     
  13. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    แล้วถ้าไปเที่ยว เขาจะตั้งหุ่นเอาไว้แบบนี้ตลอดอ่ะเปล่า


    เผื่อไปถ่ายภาพคู่กับหุ่นมาโชว์ ^^
     
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837

    ก็ตั้งไว้อยู่อย่างนี้อ่ะจ่ะ..... เอ แล้วถ้าถ่ายรูปมาให้ดู จะดูออกหรือเปล่าว่าไหนคือหุ่น ไหนคือพี่ปอฯ.....???
     
  15. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    พี่ปอ จะผอมกว่านี้ครับ พุงไม่ล้นมาก ... ความหล่อใกล้เคียงกัน


    เห็นภาพแล้ว น่าจะดูออกครับ 5555+
     
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เพลง บางหลวง
    ขับร้องโดย ชรินทร์ นันทนาคร



    โอ้คลองบางหลวง
    ถิ่นนี้พี่ยังแสนห่วง ห่วง บางหลวงพี่เอย
    บางหลวงบ่วงใจ ให้พี่นี้ชื่นเชย
    พี่รู้อยู่เต็มอกเอ๋ย เอ๋ย เราเคยรักกัน

    โอ้บางหลวงนามนี้
    พี่ครองรักหนักหน่วง หน่วง พี่ห่วงเนิ่นนาน
    บางหลวงฝั่งคลอง ให้พี่หมองใจตื้นตัน
    บางหลวงหน่วงใจพี่ฝัน ฝัน สัมพันธ์เสมอ

    โอ้สาวบางหลวง เจ้าลวงให้พี่หลงปอง
    สองริมฝั่งคลอง วกเวียนเปลี่ยนทางน้ำเอ่อ
    พอยามพี่เผลอ เผลอ สิ้นทางแล้วเออ เออ
    พี่ก็ต้องเพ้อเพ้อ ละเมอฝากคลอง

    โอ้สาวบางหลวง
    เจ้าลวงให้พี่หลงผิด ผิด สิ้นคิดใฝ่ปอง
    เจ้าลืมแล้วหนอ ที่ให้พี่รอปากคลอง
    ยามนี้พี่ได้แต่หมอง หมอง โอ้คลองบางหลวง

    ดนตรี

    โอ้สาวบางหลวง เจ้าลวงให้พี่หลงปอง
    สองริมฝั่งคลอง วกเวียนเปลี่ยนทางน้ำเอ่อ
    พอยามพี่เผลอ เผลอ สิ้นทางแล้วเออ เออ
    พี่ก็ต้องเพ้อเพ้อ ละเมอฝากคลอง

    โอ้สาวบางหลวง
    เจ้าลวงให้พี่หลงผิด ผิด สิ้นคิดใฝ่ปอง
    เจ้าลืมแล้วหนอ ที่ให้พี่รอปากคลอง
    ยามนี้พี่ได้แต่หมอง หมอง โอ้คลองบางหลวง

    .....................

    ไม่เคยฟัง ได้ฟังครั้งแรกก็ตอนนี้แหล่ะ.....


     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837

    อย่างนี้ต้องลองมาเทียบเคียง อิ อิ....
     
  18. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    กระทู้นี้มี Rate แบบนี้ อายุต่ำกว่า แปดสิบ ห้ามดู

    [​IMG]
     
  19. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]

    พี่ติง ชอบบรรยากาศนี้จังค่ะน้องสร้อย......
    ชอบทุกๆภาพในกระทู้นี้....นี่คือเมืองไทยของเรา....
     
  20. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    [​IMG]

    น่ากลัวดีเหมือนกันนะครับ คุณสร้อยฟ้ามาลา ฟร้อนนี้สวยสู้ตัวเดิมไม่ได้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...